บ้านเรียนคืออะไร?
เป็นคำถามที่ผมและเพื่อนๆสงสัย เป็นอันดับแรกหลังจากที่ได้รับงานที่มอบหมายจากอาจารย์ให้ไปจัดสัมมนาเกี่ยวกับบ้านเรียน
หลังจากที่ผมได้ไปค้นคว้าหาความรู้เบื่องต้นเกี่ยวกับบ้านเรียนเรียบร้อยแล้วนั้นผนวกกับที่ได้เล่าเรียนเรื่องทฤษฎีทางการศึกษาแบบต่างๆในวิชากิจกรรมบำบัดสำหรับเด็ก ผมก็พอที่จะเข้าใจการศึกษาแบบบ้านเรียน แต่ผมก็พบว่ายังไม่เพียงพออยู่ดี ดังนั้นผมและกลุ่มของเราจึงตัดสินใจไปดูงานที่ "บ้านเรียนชวนชื่น" กันครับ
พอวันนั้นมาถึง หลังจากที่เราได้เดินทางไปถึงหน้าบ้านเรียน พวกเราพบว่ามีการใส่บาตรกันเล็กๆระหว่างคุณครู 2-3 คนและเด็กนักเรียนประมาณ 10 คนกันในตอนเช้า เป็นความประทับใจแรกของผม
หลังจากที่เข้าไปในบ้านเรียน พวกเราได้พบกับครูใหญ่ของโรงเรียน (ดร.นภัสสร เสรีวงศ์) ได้ออกมาต้อนรับและทักทายพวกเรากลุ่มนักศึกษาและแทนตนเองว่าแม่ เหมือนและให้เรียกตนว่าคุณแม่เหมือนกับนักเรียนที่โรงเรียนนี้ จากนั้นได้เชิญเราเข้าไปที่ห้องรับรองเพื่อทักทายพูดคุยกัน หลังจากที่พูดคุยกันได้ซักพัก ก็มีเด็กกลุ่มนึง นำน้ำเปล่ามาบริการให้พวกเราดื่มแก้กระหาย เป็นความประทับใจอย่างที่สองของผม
หลังจากนั้นคุณแม่(ดร.นภัสสร เสรีวงศ์)ได้พาเปิดวีดีทัศน์เกี่ยวกับประวัติโรงเรียนและหลักสูตรการเรียนการสอน พร้อมทั้งพาเราชมบรรยากาศการเรียนการสอนทั่วทั้งโรงเรียน และได้พาไปชมการทำบัวซึ่งเป็นสินค้าที่โรงเรียนได้ทำขายและได้มอบให้เป็นที่ระลึกก่อนที่พวกผมจะเดินทางกลับซึ่งเป็นความประทำใจอย่างที่สามของผม
ความประทับใจในฐานะนักศึกษากิจกรรมบำบัด
ความประทับใจแรกเนื่องจากการใส่บาตรเป็นประเพณีที่สำคัญอย่างหนึ่งของชาวพุทธเรา การที่ให้เด็กนักเรียนที่ปกติอาจจะขาดโอกาสและผู้ปกครองส่วนใหญ่ไม่เห็นถึงความสำคัญ ได้มีส่วนร่วมกับกิจกรรมทางสังคมนี้ ซึ่งนักเรียนส่วนใหญ่นั้นจะเป็นเด็กออทิสติก ซึ่งทำให้ขาดทักษะด้านสังคม การทำกิจกรรมนี้ส่งเสริมให้เด็กมีส่วนร่วมกับกิจกรรมทางสังคมมากขึ้น
ความประทับใจที่สองนั้นคือการที่เด็กนักเรียนได้นำน้ำดื่มมาบริการ แน่นอนสิ่งที่ผมประทับใจนอกจากเรื่องบริการน้ำดื่มเย็นๆแล้ว ผมยังประทับใจในวิธีการฝึกวิธีนี้ของบ้านเรียนชวนชื่น เพราะการที่เด็กออทิสติกนั้นจะพัฒนาตนเองให้มีทักษะทางสังคมไปจนถึงมีมารยาททางสังคมนั้นเป็นไปได้ยากมาก แต่บ้านเรียนชวนชื่นกลับทำให้เด็กกลุ่มนี้ รู้จักมารยาทที่จะต้อนรับแขกผู้มาเยี่ยมเยียน อันเป็นมารยาทพื้นฐานในสังคมเรา
ความประทับใจสุดท้ายคือโรงการบัวมหามิตร โครงการนี้นอกจากจะช่วยหารายได้เข้าสู่โรงเรียนแล้ว ยังเป็นโครงการที่ส่งเสริมอาชีพแก่เด็กพิเศษที่ด้อยโอกาสทางการทำงานในสังคมอีกด้วย เพราะโครงการนี้ นอกจากจะฝึกทักษะต่างๆที่ใช้ในการทำงาน ยังฝึกทักษะบริหารจัดการ และการทำงานเป็นทีมอันเป็นทักษะที่สำคัญในการทำงานในชีวิตจริง และนอกจากนั้น การที่เด็กพิเศษได้มีโอกาสเข้าร่วมโครงการนี้สามารถนำหลักการและวิธีการไปต่อยอดและสร้างอาชีพจริงใจอนาคต
สรุป บ้านเรียนชวนชื่น นอกจากจะสร้างโอกาสทางการศึกษาให้กับเด็กพิเศษที่ขาดโอกาส ยังสร้างงาน สร้างอาชีพ และส่งเสริมทักษะทางสังคม เช่นมารยาทต่างๆอีกด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นสิ่งสำคัญและเป็นสิ่งจำเป็นที่โรงเรียนอื่นๆอาจมองข้ามและไม่ให้ความสำคัญ
ไม่มีความเห็น