ชุมชนแสนสุข ม.11 ต.ปุดประทาย อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี ผุดโครงการ "ชุมชนแสนสุขน่าอยู่ ลด ละ เลิกเหล้า" ขับเคลื่อนสภาชุมชนเป็นแบบอย่าง หนุนนำชุมชนเข้มแข็งและน่าอยู่
นายวินิจ สายชาลี หรือที่ชาวบ้านเรียกกันติดปากว่า "พ่อนิจ" ในฐานะผู้นำชุมชนแสนสุข เปิดเผยว่า ภายหลังจากมีโอกาสไปดูงานในโครงการชุมชนน่าอยู่ ของสำนักสร้างสรรค์โอกาสและนวัตกรรม (สำนัก6) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ที่ จ.พะเยา เมื่อปี 2555 พร้อมกับได้รับคำแนะนำในการผลักดันให้เกิดโครงการดังกล่าวในชุมชนของตัวเอง เมื่อกลับมาประชุมร่วมกับแกนนำและชาวบ้าน พบว่า ชุมชนแสนสุข ประสบปัญหาเรื่องลูกบ้านติดสุราอย่างหนัก โดยเฉพาะในการจัดงานมงคล งานเฉลิมฉลอง และไม่เว้นแม้แต่งานศพ ต้องเสียค่าใช้จ่ายกับการซื้อหาสุรามากถึง 5-6 หมื่นบาทต่องาน
เมื่อได้ข้อตกลงในการกำหนดเป้าหมายร่วมกันแล้ว จึงได้ตั้งสภาชุมชนขึ้น โดยมีสมาชิก 30 คน ที่มีโอกาสไปดูงานที่บ้านดอนหมู อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี แล้วนำความรู้ที่ได้รับมาถอดบทเรียนเพื่อปรับใช้กับชุมชนของตนเอง โดยกระบวนการทำโครงการ แบ่งการทำงานออกเป็น 4 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มนักปราชญ์ , กลุ่มสมุนไพร , กลุ่ม 3 ป. และกลุ่มพระพุทธ โดยให้แต่ละกลุ่มมีหน้าที่ดูแลสมาชิกของตัวเอง ในลักษณะ "คุ้มใครคุ้มมัน"
จากนั้น ตนจึงได้เข้าไปปรึกษาคนในหมู่บ้านว่าสนใจจะเลิกเหล้าหรือไม่ ใครไม่เลิก ก็ขอให้ลด ละ ดื่มให้น้อยลง ในส่วนของงานมงคล งานบวช และงานศพ มีการขอความร่วมกับเจ้าภาพ ไม่ให้มีการดื่มเหล้า พร้อมกันนั้น ทางสภาชุมชนยังได้นำป้ายลด ละ เลิก เหล้าไปติดบริเวณภายในงานด้วย ในส่วนของร้านค้าในชุมชน ยังได้ขอความอนุเคราะห์ให้งดขายสุราทุกๆ วันพระ และได้มอบเกียรติบัตรให้เพื่อแสดงความขอบคุณ
พ่อนิจ กล่าวว่าสิ่งที่ทำให้ชาวบ้านเชื่อและปฏิบัติตาม มาจากการที่สมาชิกสภาชุมชนทั้ง 30 คน ได้ทำตัวเป็นแบบอย่าง โดยก่อนเริ่มโครงการ มีผู้ดื่มสุรา 26 คน และลดการดื่มลงจำนวน 4 คน หลังจากเริ่มโครงการแล้ว เลิกดื่มอย่างเด็ดขาดครบทั้ง 30 คน ส่วนสมาชิกลูกบ้านนั้น นอกจากแกนนำชุมชนแล้ว ครอบครัวมีส่วนอย่างยิ่งในการช่วยหว่านล้อมให้หัวหน้าครอบครัว หรือคนในครอบครัว ลด ละ เลิก เพราะได้เห็นถึงผลดีจากหลายๆ ครอบครัวที่ได้ปฏิบัติไปก่อนหน้านี้แล้ว
เมื่อดำเนินโครงการมาครบ 1 ปี พบว่า ปัจจุบัน มีผู้เลิกดื่มสุราแล้ว 553 คน จากประชากรทั้งหมด 577คน ใน 92 ครัวเรือน ส่วนที่เหลือจะลด ละ หรือดื่มให้น้อยลง โดยมีเพียง 1 รายเท่านั้นที่ไม่สามารถลด ละ หรือเลิกอย่างเด็ดขาดได้ ซึ่งการจัดงานตลอดปีที่ผ่านมา มี 4 งานด้วยกัน ไม่มีการดื่มเหล้าแต่อย่างใด ขณะที่ร้านค้าที่งดขายสุราในวันพระ มีจำนวน 6 ร้านด้วยกัน
"ผลสำเร็จของโครงการ ทำให้คุณภาพชีวิตของคนในชุมชนดีขึ้น ชาวบ้านมีความสุขมากขึ้น มีค่าใช้จ่ายลดน้อยลง ครอบครัวมีความสุข ชุมชมเกิดความสามัคคีรักใคร่กลมเลียวกัน กลายเป็นชุมขนเข้มแข็ง" พ่อนิจกล่าวในที่สุด.
ไม่มีความเห็น