ในโรงเรียนดาราวิทยาลัยมีต้นโอ๊คตั้งตะหง่านอยู่เพียง 2 ต้นโดยมีแหล่งที่ปลูกอยู่ 2 แห่ง คือข้างบ้านเขียว และถนนที่ประตูทางออก เราไม่สามารถบอกได้แน่นอนว่ามีการต้นไม้ 2 ต้นนี้ปลูกตั้งแต่เมื่อไหร่ เพราะต้นโอ๊คไม่ใช่ไม้ที่ปลูกในภูมิภาคแถบนี้ แต่จากการสันนิษฐานว่าผู้ปลูกจะต้องเป็นมิชชันนารีที่มาก่อตั้งโรงเรียนแห่งนี้โดยเฉพาะในสมัย มิส จูเรียแฮท์ซึ่งท่านได้ย้ายนักเรียนส่วนหนึ่งจากโรงเรียนพระราชายามาเรียนที่บ้านหนองเส้ง เมื่อท่านมาสร้างอาคารเรียนและบ้านพักคงนำต้นโอ๊คมาปลูกไว้ที่ข้างบ้านพักของท่าน และประตูทางออกของโรงเรียนเพื่อจะได้ระลึกถึงบรรยากาศที่ท่านอยู่ที่บ้าน เพราะต้นโอ๊คเป็นไม้ของชาวยุโรป ต้นโอ๊คนี้คงจะนำมาปลูกพร้อมกับต้นโอ๊คที่โรงเรียนปริ้นสรอยแยลล์วิทยาลัยเพราะมีปลูกที่หน้าโบสถ์ โดยพ่อครูแฮรีส อาจารย์ใหญ่ได้นำมาจากฮาวายซึ่งคงจะนำมาแบ่งกันปลูกตามสถานศึกษาที่มิชชันนารีได้เข้ามาทำการสอน
ทำไมต้องปลูกต้นโอ๊ค จากการค้นคว้าเรื่องประวัติของต้นโอ๊คๆมีบทบาทสำคัญในด้านศาสนาต่อคนอังกฤษในสมัยโบราณ พระมักจะประกอบพิธีกรรมทางศาสนาภายใต้ต้นโอ๊ค เมื่อต้นโอ๊คผลัดใบในฤดูใบม้ร่วง บางครั้งจะมีผลสีขาวมาจากกิ่งไม้สีเขียวเรียกว่าMISTLETES ซึ่งถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของความกรุณาของพระเจ้า ในวันที่กำหนดไว้ พระซึ่งใส่เสื้อคลุมสีขาวจะใช้มีดสีทองตัดมันลงมา ใบของต้นโอ๊คจะถูกมอบให้กับผู้ที่ช่วยชีวิตชาวโรมันไว้ ลูกของต้นโอ๊คเรียกว่า Acorn (อะคอร์น) รูปร่างเหมือนลูกบอลอยู่ในถ้วยกาแฟ ใช้เป็นอาหารของสัตว์และในสมัยโบราณคนอังกฤษในช่วงขาดแคลนอาหารก็ยังชีพด้วย Acorn นี้ ในทวีปแอฟริกาเหนือมีการซื้อขาย Acorn ในท้องตลาดผู้ซื้อนำไปทำเป็นอาหารรับประทานทั้งดิบและคั่วให้สุก
เนื่องจากในสมัยก่อนอากาศบ้านเราค่อนข้างหนาวเย็น การปลูกต้นโอ๊คจึงขึ้นได้ง่ายและต้นโอ๊คเองเป็นไม้ที่เปลือกหนา จึงสู้กับอากาศของสภาวะปัจจุบันได้ ต้นโอ๊คจึงเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เราได้ระลึกถึงกลุ่มมิชชันนารีที่ได้เสียสละทำงาน เผยแพร่ศาสนาและได้มาสร้างความเจริญทางด้านการศึกษาให้แก่สตรีในภาคเหนือ โดยเฉพาะโรงเรียนของเราต้นโอ๊คจึงเป็นตัวแทนของความผูกพันและการฝังรากลึกเรื่องการศึกษาให้ยั่งยืนต่อไป
ต้นโอ๊คต้นนี้ตั้งอยู่หน้าอาคารเฮเลน เอฟ แมคคลัวร์ เดิมเป็นอาคารเรียนของนักเรียนระดับประถมศึกษา เมื่อนักเรียนมีจำนวนมากขึ้นจึงจำเป็นต้องรื้ออาคารไม้ลงและสร้างตึกสามชั้นขึ้นมาแทน ต้นโอ๊คต้นนี้ครูที่สอนวิชาคหกรรมเล่าว่าในสมัยก่อนถ้าโรงเรียนดารามีงาน เช่นวันปิยะมหาราช งานศพ งานอะไรก็ตามที่เกี่ยวกับดอกไม้ใบตองครูและนักเรียนจะช่วยกันเก็บใบโอ๊คมาทำเป็นพื้นดอกไม้สดไปประดับพวงมาลา จัดดอกไม้หน้างานศพเพราะมีรูปทรงของใบสวยงามกว่าไม้ประเภทอื่นในขณะนั้น
ต้นโอ๊คเป็นพันธ์ไม้ต่างประเทศที่นำมาปลูกในโรงเรียนดาราวิทยาลัย โรงเรียนพยายามจะหาทางขยายพันธ์แต่ยังไม่ประสบผลสำเร็จ และโรงเรียนพยายามจะหาพันธ์มาปลูกเพิ่มก็ยังไม่สามารถจะหาแหล่งเพาะพันธ์ได้ โรงเรียนจึงพยายามดูแลรักษาต้นโอ๊ค ซึ่งมีปลูกในโรงเรียนดาราซึ่งมีแค่เพียง 2 ต้นเท่านั้น ขณะนี้เราถือว่าเป็นพันธ์ไม้ประวัติศาสตร์ที่ปลูกมาตั้งแต่สมัยมิชชันนารีที่มาก่อสร้างโรงเรียนที่บ้านหนองเส้ง นับถึงปัจจุบันก็ไม่ต่ำกว่า 70 ปี โดยเฉพาะปีนี้โรงเรียนมีอายุครบรอบการก่อตั้ง 130 ปีจึงเป็นโอกาสดีที่เราจะอนุรักษ์ไม้แห่งประวัติศาสตร์ที่เคียงคู่กับประวัติการศึกษาของสตรีในภาคเหนือในโรงเรียนที่เป็นการก่อตั้งโดยรากฐานของความเสียสละของมิชชันนารีในอเมริกันที่ยอมมาสอนหนังสือให้แก่นักเรียนในภาคเหนือ ประวัติเหล่านี้เป็นสิ่งที่จะต้องจดจำไปตลอดนานแสนนานและเป็นประวัตส่วนหนึ่งของนครเชียงใหม่เรา.
ขอบคุณข้อมูลจาก http://daramuseum.blogspot.com/2012/11/blog-post_9559.html
ไม่มีความเห็น