beeman 吴联乐
นาย สมลักษณ์ (ลักษณวงศ์) วงศ์สมาโนดน์

คุณอยากมีชีวิตหลังเกษียณแบบไหน? (บริหารการเงิน)


เป็นพวก "เกษียณสุข" ที่มีสัดส่วนเงินออมไว้ใช้จ่ายหลังเกษียณ สูงถึง ๑๑๘% ขึ้นไป รองรับภาวะเงินเฟ้อล่วงหน้า ๑๖ ปี

ข้อความโฆษณา (แบบประกันประเภทบำนาญ ธนาคารกรุงไทย) "จากงานวิจัยพบว่า คนไทยส่วนใหญ่มีเงินออมไว้ใช้จ่ายหลังเกษียณ เพียง ๓๗% ของรายได้สุดท้ายก่อนเกษียณ และมีเพียง ๑๕% ของผู้เกษียณที่มีชีวิตหลังเกษียณอย่างสุขสบาย..

บีแมน ตีความจากโฆษณาว่า

  1. มีคนไทยเพียงร้อยละ ๓๗ ที่มีการวางแผนการเงิน (ซึ่งแน่นอนว่าคนเหล่านี้ ต้องมีวินัยทางการเงิน ทั้งทางตรงและทางอ้อม) และในสัดส่วนนี้ ส่วนหนึ่ง (ไม่ทราบว่าเท่าไร) เป็นคนที่อยู่ในราชการและขอรับเงินบำนาญหลังเกษียณ..
  2. มีเพียงร้อยละ ๑๕ ของผู้ที่เกษียณเท่านั้น ที่มีชีวิตหลังเกษียณอย่างสุขสบาย ซึ่งตรงนี้ในโฆษณาบอกว่า..คนพวกนี้คือพวก "เกษียณสุข" ซึ่งแน่นอน บุคคลเหล่านี้ต้องมีวินัยทางการเงินที่ดีเยี่ยม และมีการบริหารการเงินเป็นอย่างดี..ซึ่งในบันทึกนี้จะเล่าเรื่อง "เกษียณสุข" เป็นหลัก

ในโฆษณามีนิยามเรื่องเกษียณ ๓ แบบด้วยกัน

  1. เกษียณสุข คือ บุคคลที่มีการวางเป้าหมายชีวิตไว้ว่า หลังเกษียณ จะมีสัดส่วนเงินออม (รายได้จากเงินออม) ไว้ใช้จ่ายร้อยละ ๗๐ (ขึ้นไป) ของรายได้สุดท้ายก่อนเกษียณ (หมายเหตุ สัดส่วนคนกลุ่มนี้มี ร้อยละ ๑๕)
  2. เกษียณพอเพียง คือ บุคคลที่มีการวางเป้าหมายชีวิตไว้ว่า หลังเกษียณ จะมีสัดส่วนเงินออม (รายได้จากเงินออม) ไว้ใช้จ่ายร้อยละ ๔๐-๖๐ ของรายได้สุดท้ายก่อนเกษียณ (หมายเหตุ สัดส่วนคนกลุ่มนี้มี ร้อยละ ๓๐)
  3. เกษียณทุกข์ คือ บุคคลที่ หลังเกษียณ จะมีสัดส่วนเงินออม (รายได้จากเงินออม) ไว้ใช้จ่ายร้อยละ ๑๐-๓๐ ของรายได้สุดท้ายก่อนเกษียณ (หมายเหตุ สัดส่วนคนกลุ่มนี้มี ร้อยละ ๕๕)

บีแมนบริหารการเงินมาตลอด และเมื่อยามเกษียณจะมีรายได้สำหรับใช้จ่ายดังนี้

  1. รายได้จากเงินบำนาญ (กรมบัญชีกลาง) คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ ๖๗ ของรายได้สุดท้ายก่อนเกษียณ (อายุราชการ ๓๓ ปี)
  2. รายได้จากเงินสะสมจากกบข. (๑ ล้าน ๔ แสนบาท) บวกเงินได้จากบำเหน็จดำรงชีพ อีกเกือบ ๔ แสนบาท เมื่อเฉลี่ยอายุยืนไปถึง ๘๕ ปี คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ ๑๕ ของรายได้สุดท้ายก่อนเกษียณ
  3. รายได้จากเงินคืนกรมธรรมประกันชีวิต ร้อยละ ๓.๕ (ส่วนใหญ่มาจากประกันชีวิตแบบบำนาญ)
  4. รายได้จากเงินปันผลและเงินเฉลี่ยคืนจาก สหกรณ์ออมทรัพย์ฯ ร้อยละ ๒๕
  5. รายได้จากการบริหารรายจ่าย,เครดิตเงินคืนจากบัตรเครดิต,เครดิตเงินคืนจากภาษีและอื่นๆ ร้อยละ ๒
  6. รายได้จากการเป็นวิทยากรและการสร้างนวัตกรรม, สินค้าและบริการ ร้อยละ ๕
  7. รายได้จากการบริหารเงินออม ร้อยละ ๑

รวมรายได้ทั้ง ๗ ทาง เป็นสัดส่วนร้อยละ ๑๑๘.๕ ของรายได้สุดท้ายก่อนเกษียณ (รองรับภาวะเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อไปได้ ๑๖ ปี)

สรุปว่า บีแมนเป็นพวก "เกษียณสุข" ที่มีสัดส่วนเงินออมไว้ใช้จ่ายหลังเกษียณ สูงถึง ๑๑๘% ขึ้นไป รองรับภาวะเงินเฟ้อล่วงหน้า ๑๖ ปี.

หมายเลขบันทึก: 580745เขียนเมื่อ 19 พฤศจิกายน 2014 11:40 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 พฤศจิกายน 2014 08:43 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท