(บันทึก)ใบไม้เปลี่ยนสี..ในแกลลอลี่ชีวิต..วันนี้


ใบไม้เปลี่ยนสี

แผ่นภาพบนผนัง

ใบไม้เปลี่ยนสี

สีสรรค์ธรรมชาติสร้าง

สีสรรค์ที่(คน)สรรค์สร้าง

สีสรรค์ที่ธรรมชาติสร้าง

เทคนิค..เบอๆๆ

กลายเป็น..สีสร้างสรรค์จากเทคนิค..เปลี่ยนตัวสร้างสรรค์..

มือมนุษย์ผู้สร้างสรรค์

หากไม่ใช่..พระเจ้า...

เพียงภาพ..สรรค์สร้าง..มนุษย์

ปรากฎอยู่บนผนัง...

กับใบไม้บนดิน..และคุณค่า..ต้นไม้ใบหญ้า..ที่เปลี่ยน..สีไป.....ตามวันเวลาที่กำหนดเป็น วัฏร..

เก็บเบี้ยใต้ถุน..ล้าน...กับคำว่า..doingfix..=treecoin..ในแกลลอลี่ชีวิต..วันนี้...

หมายเลขบันทึก: 579961เขียนเมื่อ 8 พฤศจิกายน 2014 14:42 น. ()แก้ไขเมื่อ 8 พฤศจิกายน 2014 14:42 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (10)

How creative ! ธรรมชาติช่างสรรค์สร้าง มีสีฟ้า ม่วงอมฟ้าพร้อมทั้งสีจุดเน่า ๆ ด้วยสิคะ

เลียนแบบยากค่ะ

สีสวยของธรรมชาติ ย่อมสะดุดตามนุษย์ ทำให้เห็นกาลเวลาที่อยู่บนโลกได้ ด้วยการหาทางปรับตัวเองให้อยู่รอด..ยังเป็นการสะท้อนสัจธรรมด้วย ..โดยเฉพาะผู้ผ่านประสบการณ์โลกย่อมจะมองเห็นความต่างของสีสันเหล่านี้..ทำไมมันจึงเปลี่ยนสีหนอ?

แต่เอ๊ะ! เพราะยายอยู่ต่างประเทศนานหรือไม่ เลยทำให้ใช้คำผิดนะครับ คำว่า "สร้างสรรค์ (หน้า ๕๑๗) หรือสรรสร้าง บางคนใช้ สรรค์สรา้ง (หน้า ๕๑๖) สีสัน (หน้า ๕๓๘) เลือกสรร (หน้า ๔๘๐ " คือ คำที่ถูกต้องตามพจนานุกรม ฉบับเฉลิมพระเกียรติ พ.ศ. ๒๕๓๐ ครับ

ขอบคุณครับที่เสนอมุมมองของธรรมชาติต่างถิ่น

สวยงามมากค่ะ ขอบคุณนะคะ

ปล.ยังไม่ได้ตอบคำถามยายธีเลยค่ะ ยังไม่ลืมนะคะเดี๋ยวจะรีบตอบค่ะ

อ.จัน

สวัสดีค่ะ..ท่าน.ส.รัตนภักดิ์..ก่อนอื่นต้องขอโทษ..ถ้าจะเขียนผิด..(ภาษา..ไม่ว่าไทย..ด้อยส์..อังกฤษ)หรือพูดผิด..ตอนเป็นเด็ก..ตกไวยกรณ์ไทยครูดุชอบตีอ้ะ..ตอนไปสอน..ศิลปะเขียนผิดไปตัวนึง..มีคนว่ากล่าวแต่ก็ยังดึงดันใช้คำเดิมที่เรียนมา...ปฏิมากรรม..แทนประติมากรรม..อิอิ..และก็อีกทั้งยังไม่มีปัญญาที่จะเปิดตำราหาคำผิดถูกจากตำราหรือที่เรียกว่าพจนานุกรม...พาตัวมาเรียนต่างประเทศก็ตกกระใดพลอยโจนไปเรื่อยๆเรียนภาษาด้อยส์เสร็จเงินที่ติดตัวมาก็หมดพอดี..มีพอดีกินกันตายต่อวัน(ไม่มีพ่อแม่ส่งเสียสำนึกพระคุณพ่อแม่เอามากๆว่าอยู่เมืองไทยสบายแค่ไหนอ้ะะๆๆ)..อยู่ไปอยู่มา..เป็นครูสอนศิลปะที่นี่..ก็ทำอย่างที่เรียกได้ว่า.(.เป็นครูตีนเปล่า..."ขอโทษ")หากจะว่าไม่สุภาพอีก..อิอิ..เพราะไม่ทราบว่า..ตีนกับเท้าต่างกันไงในเรื่องสรีระ..อิอิ..ขอโทษสังคมอีกนิด..(ดัน)..เกิดมาจน..เสือกกระเสือกกระสนมาอยู่ต่างประเทศอิอิ..แถมเกิดในตระกูลชาวบ้าน..อยู่ในตรอก..เป็น..ขี้ครอกเดินถนน..อ้าว.บานปลาย..แซวตัวเอง...

ขอบพระคุณเจ้าค่ะ..ที่แก้คำผิดให้..และ..บ่งบอก..หน้า..ตัวหนังสือที่ถูกต้องไว้อย่างเรียบร้อย..ทำให้ผู้อ่าน..เข้าใจคำเหล่านั้น..ได้อย่างถูกต้องตาม..พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตสถาน..ฉบับเฉลิมพระเกียรติเสียด้วย..ขอบพระคุณอีกครั้งเจ้าค่ะ...(ยายธี)

"ต้นไม้..ใบไม้..ไม่มีคำว่า"ต่างถิ่น"..เขาเกิด..มาอยู่ในโลกก่อนเรา..เราเพียงไปยึดถือ..ตัวตนกับพื้นที่(ดิน)ว่าเป็นของเรา..ฉะนั้นจึงเข้าใจว่า..เป็นต้นไม้ต่างถิ่น...ต้นไม้ที่ไหนๆ..ก็มีการผลัดใบเปลี่ยนสี..เหมือนกันทั้งโลก..ทำไมใบไม้เปลี่ยนสี..น่าจะมีคำอธิบาย..ฝรั่งเล่าได้เป็นเรื่องเป็นราว..ถึงใบไม้ทำไมเปลี่ยนสี.....คงหาคำอธิบายได้ในกูเกิ้ล..เจ้าค่ะ...

Thanks for this comparative study of Art (culture) and Nature. Nature provide artworks quietly, energy-efficiently, usefully and free-of-charge. When will people learn 'art' this way?

I can help you with off-line Th-Th/Th-En/En-Th dictionaries (free of charge) on PC/tablet/phone ;-)

We have come to realize that 'boundaries' are just human geographical conventions. Nature follows more local conditions ;-) ;-)

สวย สวย สวย เกินคำบรรยาย

ได้เรียนรู้จากบันทึกยายธีเยอะว่าเมื่อพินิจมองให้ลึกซึ่งแล้วธรรมชาตินั้นงดงามมากจริงๆ

งานศิลปะหลายๆ ชิ้นน่าจะมีแรงบรรดาลใจจากธรรมชาติช่มั๊ยคะ

สวัสดีค่ะ..คุณnui..ขอบคุณ..ความงดงามที่ธรรมชาติ ให้มา..และเราก็เป็นเพียงจุดเล็กๆของสิ่งนี้..พวกเรา.".ก็งดงาม"นะเจ้าคะ.."มนุษย์"เสียแต่ค่อนข้างจะโหดมากขึ้นทุกที..ที่ไม่รักและเข้าใจ..ธรรมชาติ...(ส่วนคน)

"ยายธี"..มาตกกระไดพลอยโจนได้เรียนสิ่งที่ไม่เคยคิดว่าจะจับต้องคือ"ดินเผา"..ดินเปลี่ยนสีเมื่อโดนความร้อน..มันแกร่งขึ้น..หากเปรอะบาง..แตกร้าว.."ง่าย"..ลุยมาตั้งแต่จบ..ปล้ำจะให้"ดิน"..คงทน..(ฝืนธรรมชาติ)..มาไฝ่ใจ..เรื่องดินดิบ..

มาทำงาน"นิทรรศการ" ปั้นดินในเมืองไทยครั้งหนึ่งนานมาแล้วที่"แนลสันเฮ"ห้องสมุดแถวๆสุริวงค์เป็นงานผสมผสานระหว่างดินดิบและดินสุก..ก็เลยได้ความบันดาลใจกลับไป.มา.เขียนรูป..ที่มีเบื้องหลังเป็นดินน้ำลมไฟ..ที่สถิต..อยู่กับคำว่า..ดิน...เรื่อยมา...เจ้าค่ะ

ไม่ได้เรียนทางจิตรกรรม..แต่ได้มา..เสริมเรียน..สิ่งที่อยากเรียนโดยบังเอิญ..คือ..เรื่องของดินเผา..มาได้Prof.ที่มาขยับฐานะของ..การเรียน..ของ..SHFBK..สมัยนึง..มาเป็น..HDK..ต่อมาก็กลายเป็น..UDK..ถ้าจำไม่ผิด..ค่าเรียนเดี๋ยวนี้ก็คง แพงขึ้น..นักศึกษา..สมัยนี้..ก็ต้องเรียนให้จบตามเวลาที่กำหนด..วุ่นวายตามสภาวะที่ต้องตามเอเซียให้ทัน..อิอิ..

เราโก้กว่า..เยอรมัน..เพราะเรา..ใช้ระบบเรียน(ตามก้นอเมริกัน)..เยอรมันเพิ่งจะมาเตอะแตะ..กับระบบนี้..แบคเชอเล่อรดีกรี..น่ะอ่ะะ...(ตอนเรียน..เซรามิคสาขาปฏิมากรรมที่นี่..เสียเพียง..ประมาณห้าเหรียญต่อปีสมัยนั้น..ค่าใช้จ่ายในโรงเรียน..ไม่เสียสักแดงแถมมีประกันสุขภาพ..นับเวลาเรียนให้กับการคิดเงินบำนาญในปลายชีวิต..ตามขั้นตอน..ไม่จำกัดเวลาเรียน...ไม่ต้องเรียนตามครูสั่ง..(ต้องเรียนรู้ด้วยตนเอง..และต้องหาเหตุผลแสดงออกให้ได้..ว่าทำไมเป็นเช่นนั้น..ความคิดเห็นของตน..กับผลงานที่แสดงตอนสอบ...)...ขยายความมาณที่นี้..

"งานศิลปะหลายๆชิ้นน่าจะมีแรงบันดาลใจมาจากธรรมชาติช่มั้ยคะ"...."..ค่ะคุณnui...."

สวัสดีค่ะ.. sr..ยายธีมาขอบพระคุณ..สำหรับอยากช่วยเหลือให้ใช้..พจนานุกรม..ในหน้าอินเทอรเนต..ต้องบอกตามตรงว่า..ยายธีเป็นคน..ประเภทโลเทคเอามากๆ..แถมเรื่องภาษาก็รู้แค่..งูๆปลาๆทุกภาษา..แม้แต่ภาษาไทย..เคยฝันว่า..มายุโรป..คงได้เป็นผลพลอยได้อีกหลายภาษา..แต่ความจริงมิใช่ฝัน..ที่ได้มาเรียนรู้วิธีจิ้ม..มาแต่ต้นปี..กับ"ป้าวิ"..ได้เงินช่วยคนจนของรัฐยามแก่..สะสมได้มาซื้อแทปตัวปัจจุบัน..มาใช้..(คิดเสียหัวเกือบทะลุว่าจะจิ้มได้ไหมเนี่ยะ..และได้ยินมาว่า..คสช.หยุดจ่ายเงินคนแก่..แฮ่ๆ)...แล้วจาไงอีกนี่...กลับเมืองไทย..บางทีกระเหม็ดกระแหม่จะ..ได้เงินมาให้เหลน...มีปัญ(ยา)ซื้อแทปมาเล่นกะยายด้วยเงินนี้บ้าง..โหมดความหวัง..อ้ะะ..

แต่อย่างไรก็ตามกลับไปคราวนี้..คงจะมีผู้สอนวิธีใช้ให้..แต่จะจำและทำได้..รึเปล่าไม่ทราบ..อนาคต..(คนแก่?.๕?.)

ชอบใจสีธรรมชาติช่างสร้างสรรค์จริงๆครับคุณยายธี

แต่เป็นธรรมชาติที่น่าสนใจสำหรับเยาวชนนะครับ

ขอบคุณมากๆครับ

25 พ.ย. ยายธีมาถึงเมืองไทยใช่ไหมจ๊ะ หลังจากนั้น คงได้พบกันนะจ๊ะ คิดถึงมาก ๆ

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท