ฉบับที่ ๔๐ หมอครับ…ผมออกมาแล้ว


ผู้เขียนแนะนำเรื่องเล่าที่ชนะการประกวด ในโครงการประกวดเรื่องเล่าช่วยคนเลิกสุรา ยาสูบ และยาเสพติด ครั้งที่ 3 เป็นเรื่องเล่าของ คุณอัญชลี น้อยเกิด นักจิตวิทยาคลินิกปฏิบัติการ สังกัดโรงพยาบาลจิตเวชขอนแก่นราชนครินทร์ จังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับผู้ป่วยจากยาเสพติด เรื่องเล่านี้จะช่วยเสริมแรงในการทำงานของคนปฏิบัติงานช่วยคนเลิกยาเสพติด ลองติดตามอ่านกันนะคะ

หมอครับ…ผมออกมาแล้ว

                               หลังประตูบานใหญ่มีผู้คุมคอยเปิดปิดอย่างแน่นหนามีผู้ต้องขังจำนวนมากมายทั้งที่อยู่ระหว่างรอการตัดสิน ตัดสินแล้วหรือฝากขัง บางคนนั่งอยู่กับญาติ บางคนนั่งเหม่อมองรอบๆอย่างเดียวดาย ต้องเดินผ่านถึง 3 ประตู ถูกตรวจค้นมากมายจึงจะถึงสถานที่ที่เรานัดพบกัน ระหว่างทางเดินสังเกตเห็นกิจกรรมหลังประตูบานใหญ่แตกต่างกันไป ทุกคนมีหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมาย บางคนช่วยเจ้าหน้าที่ยกวัตถุดิบในการประกอบอาหาร บางคนปัดกวาดเช็ดถูตามอาคาร บางคนไม่สบายนั่งรอพบพยาบาลในเรือนจำ และอีกหลายๆคนเล่นกีฬาตามชนิดที่ชอบ หน้าประตูทางเข้ามีชายคนหนึ่งแต่งกายดูแปลกกว่าผู้ต้องขังคนอื่นๆ รอยืนต้อนรับ สอบถามเจ้าหน้าที่ให้ข้อมูลว่าจะมีกลุ่มผู้ต้องขังที่มีความประพฤติดีได้รับการเลื่อนชั้นและให้มาช่วยงานโดยเราสามารถสังเกตได้จากเสื้อผ้าที่สวมใส่จะเป็นเสื้อยืดสีขาวและกางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน เขาเหล่านี้จะคอยต้อนรับ อำนวยความสะดวกต่างๆ จัดหาอุปกรณ์และจัดสถานที่ รวมทั้งคอยแนะนำช่วยเหลือผู้ต้องขังคนอื่นๆ แม้จะมีกิจกรรมให้ทำเกือบทั้งวันไม่หยุดหย่อนแต่ก็ไม่อาจทดแทนอิสรภาพที่สูญเสียไปได้ต่างคนต่างที่มา ต่างจิตต่างใจ ณ ที่นี้มีทั้งความช่วยเหลือเกื้อกูล ความเป็นเพื่อน เป็นพี่เป็นน้อง ขณะเดียวกันก็มีการเอาเปรียบ การข่มขู่ ความไม่เสมอภาคต่างๆ ความอดทนและการปรับตัวเท่านั้นที่จะทำให้สามารถอยู่รอดเพื่อรอวันที่ได้รับอิสรภาพอีกครั้ง ณ เรือนจำกลางของจังหวัดแห่งนี้ก่อนการปล่อยผู้ต้องขังจะมีกิจกรรมเพื่อเสริมสร้างทั้งความรู้และคุณค่าแห่งตนเพื่อเป็นอาวุธและเกราะป้องกัน เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต เตรียมความพร้อมก่อนการปล่อยตัวและวันนี้มีเหล่านักโทษที่กำลังจะได้รับอิสรภาพจำนวนหนึ่งเข้ารับเตรียมความพร้อมทั้งกายและใจเพื่อกลับออกไปสู่สังคมอย่างมีประสิทธิภาพ วันนี้เราจึงได้พบกัน “บัวบาน”
              
ชายวัยกลางคน ผิวคล้ำ รูปร่างผอมบาง ใบหน้าเรียวยาว ผมสั้นเกรียนตามแบบฉบับของผู้ต้องขังเรือนจำ ผิวกายหยาบกระด้าง มีหิดขึ้นตามแขนขาลามไปถึงศีรษะท่ามกลางหมู่ผู้ต้องขังด้วยกันบัวบานดูเด่นกว่าคนอื่นเพราะทาแป้งจนหน้าขาวโพลน แม้นั่งอยู่มุมด้านหลังของห้องก็สังเกตเห็นได้ชัดเจน ท่าทีของบัวบานดูนอบน้อม ไม่ค่อยพูด เพื่อนผู้ต้องขังแกล้งให้ทำอะไรก็ทำ ปกป้องตนเองได้น้อย ยิ้มแก้เก้อเมื่อถูกแกล้ง บัวบานเป็นผู้ต้องขังที่มีอาการทางจิต ซึ่งเกิดจากการใช้สารเสพติดเป็นระยะเวลานาน รับยาที่โรงพยาบาลจิตเวชประจำจังหวัดแห่งหนึ่ง ปัจจุบันอาการค่อนข้างดี พูดคุยรู้เรื่อง ควบคุมตนเองในการแสดงออกที่เหมาะสมได้ ไม่ทราบแน่ชัดว่าถูกจับด้วยข้อหาอะไร แต่ผู้ต้องขังส่วนใหญ่ที่เข้ารับการอบรมในครั้งนี้เป็นผู้กระทำผิดต่อร่างกายอันเป็นเหตุให้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตทั้งกระทำด้วยความมีสติสัมปชัญญะและขาดสติสัมปชัญญะ “ทักษะการแก้ไขปัญหา” เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่จำเป็นสำหรับผู้ต้องขัง เปรียบเสมือนภูมิคุ้มกันสำหรับเขาเหล่านี้ เพราะแม้การออกไปสู่อิสรภาพเป็นเรื่องที่ปรารถนาและรอคอย แต่ลึกๆยังคงกังวลเมื่อต้องพบกับสิ่งแวดล้อมภายนอก การต้อนรับของครอบครัว ชุมชน และสังคม อาจถูกเย้ยหยัน รังเกียจ ดูถูก หรือตกอยู่ในภาวะกดดันต่างๆ ความอดทน การมีสติ เข้าใจ ยอมรับ ปรับเปลี่ยนเรียนรู้ไปตามสถานการณ์จะช่วยให้สามารถดำรงตนอยู่ในสังคมได้ เมื่อเราพบว่าตนเองกำลังเผชิญกับปัญหาไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ สิ่งแรกที่ควรตระหนักคือ การมีสติ รับรู้ปัญหาที่เกิดขึ้น นำพาไปสู่การเข้าใจและยอมรับ เมื่อสติมาปัญญาก็เกิดดังคำพระท่านว่า แต่คนเรามักสวนกระแส เมื่อมีปัญหาก็มักจะคิดในด้านลบ คิดท้อแท้ คิดโทษตนเอง ตัดพ้อต่อว่าโชคชะตาหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เหล่านี้ล้วนบดบังปัญญาที่มีจนมองไม่เห็นทางออก ตัดสินใจโดยไม่ไตร่ตรอง อาจพลั้งพลาดให้ปัญหาร้ายแรงกว่าเดิม
บัวบานนั่งนิ่งตั้งใจฟัง สบตาผู้สอนเป็นระยะ ยกมือตอบคำถามอย่างกระตือรือร้น เพราะก่อนเริ่มการบรรยายเขาได้ขอร้องเพลง ดูเหมือนการร้องเพลงจะเป็นสิ่งที่บัวบานชอบมาก ภายใต้ท่าทีเขินอายนั้นลึกๆแล้วมีความกล้าซ่อนอยู่ กล้าที่จะร้องขอในสิ่งที่ตนเองต้องการแม้ไม่รู้ว่าจะได้รับหรือไม่ แต่ขอให้ได้แสดงออกมาก็สุขใจแล้ว เราจึงทำข้อตกลงกันเมื่อเสร็จสิ้นการบรรยายแล้วจะยกไมโครโฟนให้บัวบานครอบครองทันที ในฐานะผู้สอน การเข้าใจ การให้โอกาส การยอมรับ ช่วยให้สามารถดึงศักยภาพของผู้ต้องขังออกมาได้บัวบานและผู้ต้องขังอื่นๆคือเพื่อนมนุษย์คนหนึ่งบนโลก มีศักดิ์ศรีความเป็นคนเหมือนกัน การให้เกียรติ การยอมรับด้วยความรักและความเข้าใจเป็นสิ่งที่เขาเหล่านั้นปรารถนา เรารู้ว่าทุกคนสามารถทำผิดพลาดได้และทุกคนต้องการโอกาส โดยแท้จริงแล้วมนุษย์เป็นผู้ที่มีจิตใจที่ดีเป็นพื้นฐาน แต่อาจถูกบีบคั้นหรือกดดันจากภาวะต่างๆ ส่งผลให้เกิดพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมบางอย่างขึ้นได้ ณ ขณะเวลานั้น แต่เชื่อว่าหากเลือกได้คงไม่มีใครอยากทำเรื่องไม่ดีให้เกิดความเดือดร้อนทั้งกับตนเองและครอบครัวเป็นแน่ส่งความความรัก ความปรารถนาดี เชื่อว่าความรู้สึกเหล่านี้บัวบานและผู้ต้องขังคนอื่นๆคงจะได้รับเพราะสีหน้าที่ยิ้มแย้ม แววตาแห่งความสุข และความเป็นมิตรที่ส่งมาทำให้รับรู้ได้ว่าสิ่งที่มอบให้นั้นเขาได้รับรู้แล้ว รู้สึกอิ่มเอมใจ สุขใจที่ได้ทำให้คนกลุ่มเล็กๆกลุ่มนี้ที่ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าเมื่อออกไปสู่โลกภายนอกแล้วจะเป็นอย่างไรกันบ้าง การเสริมสร้างคุณค่าและพลังใจในวันนี้เชื่อว่า แม้ในวันที่รู้สึกยากลำบากเราจะย้อนรำลึกถึงวันนี้ที่เราได้สร้างกำลังใจ สร้างคุณค่าร่วมกัน
             เมื่อบรรยายเสร็จบัวบานไม่รอช้า ใจจดจ่อรอคอยอยู่นาน ลุกขึ้นยืนเพราะรู้ว่าถึงเวลารอคอยของตัวเองแล้ว ได้เลยบัวบาน ณ ที่นี้มีโอกาสมอบให้เสมอ ขณะที่จับไมค์ร้องเพลงบัวบานดูมีความสุข มีความมั่นใจ ภาพชายขี้อายหายไปหมดสิ้น น่าประหลาดใจบัวบานร้องเพลงของยอดรัก สลักใจได้ไพเราะมาก ท่าทีไม่ต่างจากนักร้องมืออาชีพ มีลูกเอื้อนลูกชน ประหนึ่งอยู่บนเวทีที่กำลังแสดงต่อหน้าคนดู ร้องเพลงไปด้วยจับมือกับผู้ฟังไปด้วย ตอนนี้คงคิดว่าตนเองเป็นนักร้องดังไปแล้วเป็นแน่ เมื่อร้องจบเสียงเพื่อนๆผู้ต้องขังด้วยกันโห่ร้องและปรบมือให้ บัวบานยิ้มด้วยความสุขใจ โบกไม้โบกมือเป็นการขอบคุณเพื่อนๆ เสียงเรียกร้องจากเพื่อนๆด้วยกัน “ขออีกเพลงๆ” แหมขึ้นชื่อว่าบัวบานแล้ว คงทนเสียงเรียกร้องไม่ไหว อีกอย่างน่าจะดีใจที่เพื่อนๆชอบจัดไปอีกเพลงคงไม่เสียหลาย ว่าแล้วหันมาสบตากับผู้สอน แหมสายตาอ้อนวอนขนาดนี้จะขัดศรัทธาก็ดูจะทำร้ายจิตใจกันเกินไป ได้แต่ส่งสายตาว่าตกลง เท่านั้นบัวบานก็คว้าไมโครโฟนพร้อมกับพูด “อยากฟังเพลงอะไรครับ ขอมาได้เลย” นั่นไง วิญญาณความเป็นนักร้องเต็มเปี่ยม ร้องเพลงไปพร้อมขอให้เพื่อนๆช่วยร้อง เพื่อนๆที่นั่งฟังช่วยกันรับลูกบางคนโบกไม้โบกมือ คนที่ร้องได้ก็ช่วยร้อง เสียงร้องเพลง เสียงหัวเราะดังจนผู้ต้องขังคนอื่นๆที่เดินไปมาบริเวณนั้นต้องหยุดดูบางคนญาติมาเยี่ยมระหว่างทางเดินไปพบญาติขอแวะดูว่าเขาทำอะไรกันอึดใจหนึ่งก็ยังดี สนุกสนานกันพอสมควรแล้วก็ได้เวลาต้องบอกลา หลังจากร้องเพลงสุดท้ายจบเสียงปรบมือดังขึ้นกว่าเดิมอีก บัวบานคืนไมโครโฟนให้ด้วยความนอบน้อมและกลับไปสู่ท่าทีเขินอายอีกครั้ง พร้อมกับพูดขอบคุณผู้สอนที่ให้โอกาสร้องเพลงหน้าชั้น แววตาเป็นประกาย ก่อนเดินกลับเข้าไปนั่งที่เดิม ขณะเดินไปก็ได้รับคำชม เพื่อนๆขอจับมือ โอบกอดกันไปตามประสา ฉันอยากจะบอกเหลือเกินว่าความรู้สึกเราไม่ต่างกันนะบัวบาน คุณดีใจและขอบคุณที่ฉันให้คุณได้ร้องเพลง ฉันเองก็ดีใจที่ได้ให้สิ่งเหล่านี้แก่คุณ แม้เป็นเพียงสิ่งน้อยนิด แต่สำหรับคุณมันคงยิ่งใหญ่มาก “มีความสุขที่ได้ให้ทั้งความรู้และความปรารถนาดีกับเพื่อนมนุษย์ ให้โอกาสเท่าที่จะสามารถให้ได้” ก่อนกลับได้ฝากบอกผู้ต้องขังทุกคนว่าหากเราพบกันสามารถเข้ามาทักทายได้ เพราะเราคือคนรู้จักกัน คือเพื่อนมนุษย์ด้วยกันอย่าได้เขินอายหรือกังวลแต่ประการใด และขอให้ทุกคนตระหนักในทุกๆการกระทำ มีสติ และอย่าลืมว่าปัญหามีทางออกแม้มันจะยากลำบากแต่คุณก็ไม่ได้เดินลำพัง ยังมีครอบครัว มีเพื่อน รวมทั้งดิฉันที่จะคอยช่วยเหลือ เป็นกำลังใจ ขออย่าได้ยอมแพ้ต่ออุปสรรคโดยง่าย ขอเราจงเป็นผู้ที่เข้มแข็ง ยืนหยัดด้วยศักดิ์ศรี เชื่อมั่นในคุณค่าของตนเอง

         เวลาผ่านมาเนิ่นนาน กลับมาทำงานประจำเหมือนเช่นทุกวัน มีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้นจนลบเลือนความทรงจำที่มีต่อบัวบาน ชีวิตยังคงดำเนินต่อไปไม่มีอะไรที่แตกต่างหรือตื่นเต้น ทุกอย่างยังคงดำเนินไปตามแนวทางที่มันควรจะเป็น แล้ววันหนึ่งขณะเดินกลับจากรับประทานอาหารกลางวันพร้อมเพื่อนร่วมงานด้วยกัน ท่ามกลางอากาศร้อนอบอ้าว มีชายคนหนึ่ง รูปร่างผอมบาง ใบหน้าขาวด้วยแป้ง ผมสั้นเกรียน สวมชุดลำลอง สีหน้าแจ่มใส ท่าทีเขินอาย เดินเข้ามาใกล้พร้อมกับยกมือไหว้ “คุณหมอครับ...ผมออกมาแล้ว” ในตอนแรกรู้สึกงงก็รับไหว้พร้อมรอยยิ้มแก้เก้อเพราะจำไม่ได้ว่าเขาคือใคร ใช้เวลาระลึกไม่นานก็นึกได้ว่านั่น “คุณบัวบาน” ชายคนขี้อายแต่แฝงด้วยความกล้าอยู่ข้างในนั่นเอง ใช่แล้วครั้งหนึ่งเราเคยพบกับ ความทรงจำเกี่ยวกับบัวบานเริ่มไหลรินกลับมาเหมือนสายน้ำ ความรู้สึกในวันนั้นฉันยังจดจำมันได้ และเมื่อหันกลับไปพบว่าคุณบัวบานเดินห่างออกไป พร้อมกับทักทายผู้คนที่รู้จัก ใบหน้าที่เป็นมิตรกับทุกคน แน่นอนเขาได้รับความเป็นมิตรตอบกลับจากคนเหล่านั้น ความรู้สึกปลื้มใจ อิ่มเอมใจท่วมท้นขึ้นมาอีกครั้ง ไม่นึกว่าจะมีคนที่จดจำเราได้ เพราะสิ่งที่ทำนั้นเกิดจากความตั้งใจจริงที่จะมอบให้ ความปรารถนาดี ไม่ได้หวังสิ่งตอบแทนอื่นไหน เชื่อว่าคือหน้าที่ที่ต้องทำให้ทุกครั้งที่ทำจะทำอย่างเต็มที่ การที่คุณ “บัวบาน” เข้ามาทักทายทำให้รู้สึกมีกำลังใจในการทำงาน เพราะเชื่อว่าหากเรามีความปรารถนาดีต่อผู้ป่วย ดูแลด้วยจิตใจ ยอมรับเขาในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง มีศักดิ์ศรีและความเป็นคนเท่าเทียมกัน แม้ฐานะแตกต่างกันไป แต่คุณความดีภายในใจอาจไม่ต่างหรืออาจสูงกว่าเราก็ได้ เขาเหล่านั้นจะจดจำและระลึกถึงเราเช่นกัน ขอบคุณนะบัวบาน เราจะจดจำกันและกันตลอดไป....

การให้โอกาส มีความหมายกับชีวิติใครหลายๆ คนมาก และถึงกับเป็นเปลี่ยนแปลงชีวิตคนได้เลยทีเดียว!!!

ศจย. www.trc.orth

5 ก.ย. 57

หมายเลขบันทึก: 575696เขียนเมื่อ 5 กันยายน 2014 13:59 น. ()แก้ไขเมื่อ 5 กันยายน 2014 13:59 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

กำลังใจที่เข้มแข็งจากตนเอง และคนรอบข้าง จะเป็นทางออก ไปสู่สิ่งที่ดีกว่าเสมอ เป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะ

ที่ โรงพยาบาลปากพะยูน  วันที่29 สิงหาคม 2557 ขายาพื้นที่เครือข่าย คนเห็นคน

นายหร้อหวาน วัชรจิระโสภณ  ชี้แจงทำความเข้าใจ

ขอบคุณเครือข่ายทุกท่านที่ติดตามนะคะ เป็นกำลังใจให้คนทำงานด้านควบคุมยาสูบทุกคนค่ะ

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท