การทำค่ายกิจกรรม_7


บทบาทที่ชัดเจน เเต่ต้องช่วยกันด้วย

บทบาทหน้าที่ในค่าย


        ในค่ายกิจกรรมของเราๆนั้น ถ้าเป็นค่ายการพัฒนาการเรียนรู้ ผมเองมองว่าจะมีอยู่ 3 ส่วนที่เป็นฐานสำคัญในค่ายนี้ด้วยกัน ได้เเก่ การสันทนาการ  การคิดผ่านเครื่องมือ  เเละกิจกรรมเสริมทักษะต่างๆให้กับเด็กๆ ซึ่งอาจทำให้เกิดการเรียนรู้มากหรือน้อยอระการใดนั้น อันนี้ขึ้นอยู่กับบริบทของเเต่ละท้องถิ่น ศักยภาพของเด็ก เเละวิธ๊การของเราในการเข้าถึงมากน้อยเพียงใด ในค่ายนี้มีการละลายพฤติกรรมก่อน เเล้วถึงมาเข้าบทเรียน เมื่อเกิดความเครียด จะมีกิจกรรมเพื่อความผ่อนคลายเเล้ส สุดท้ายอาจให้สะท้อนผลออกเป็นเป็นบทเรียน หรอื AAR ว่า่ได้อะไร อันนี้เป็นมุมมองของกิจกรรมในค่าย

        ในค่ายของเรานั้นอีกมุมมองที่สำคัญนอกจากกิจกรรมเเล้ว คือ การจัดการค่าย เพราะเป็นการที่คนมาอยู่จำนวนมาก ซึ่งจะควบคุมยาก ถ้าเด็กมิสมาธิ ก็จะคุมง่ายหน่อยเป็นธรรมดา วิธีการของค่ายกิจกรรมอีกเเบบหนึ่งในการควบคุมค่ายให้ตลอดลอดฝั่งก็เป็นการเเบ่งบทบาทหน้าที่ของพี่ๆ อย่างชัดเจนซึ่งมีหน้าที่ที่สำคัญ เป็นดังนี้

๑.ผู้จัดการค่าย เป็นคนที่คอยอำนวยความสะดวกต่างๆนานาๆ ให้กับค่าย เช่นอาหาร เบรก เครื่องมือ  การอยู่การนอน การอาบน้ำ การนัดเวลา การคุมเวลา  ยาต่างๆ ที่เป็นหนูคอยอำนวยความสะดวกให้กับน้องๆ ที่อาจเป็นหนู เเละหมี

๒.ผู้ประสานงาน อันนี้ต้องทำงานคู่กับผู้จัดการค่ายอย่างใกล้ชิด ที่เป็นคนที่ประสนางานไปยังหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องให้มาช่วยกัน การทำหนังสือราชการต่างๆ การนัดเเนะต่างๆ การประชาสัมพันธ์ต่างๆ อันนี้เป็นบทบาทที่สำคัญที่จะทำให้เกิดค่ายกิจกรรมขึ้น อันนี้ต้องเป็นหมี เเละกระทิง

๓.พิธีกร/วิทยากร ในค่ายที่ถือว่ามีความสำคัญในหลายๆช่วงที่เป็นช่วงของลำดับพิธีการ เเละช่วงอื่นๆที่ต้องเป็นคนที่มีน้ำเสียงเพราะ มีสมาธิ สติดี สามารถโต้ตอบได้เร็ว สามารถเเเก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างรวดเร็วถ้าเป็นวิทยากรจะต้องรู้จริงเเละเป็นคนที่อาจมีวาจาสุภาพเเล้วพาเด็กไม่หลับไหลกับคำพูด อันนี้พิธีกร/วิทยากร อาจเป็น อินทรีย์ เเละหมี

๔.กระบวนกร  เป็นบุคคลสำคัญในการพาน้องๆชวนคิดให้เห็นถึงปัญหา หรือประเด็น ฯ ในงานของตนเองในด้านต่างๆ หรือพาน้องๆ มา AAR ซึ่งบุุคลนี้เป็นบุคคลสำคัญที่จะให้เด็กๆเกิดการเรียนรู้ไปด้วยกัน ที่อาจเป็นทั้ง 3 อย่าง อินทรีย์  หมี  กระทิง 

๕.Note taker เป็นคนที่คอยจับกระบวนการของกระบวนกร ที่ส่งผลสู่เด็กๆ ที่มีการกระทำ ความคิด เเละอารมณ์ส่งออกมา หาผู้อื่นๆ ที่เมื่อมีเหตุการณ์ใดที่ต้องปรับ ณ บัดนั้น หากโน๊ต จับได้ก็ต้องการบอกกับพิธีกร หรือกระบวนกร หรือ มา DAR เเละ AAR กันว่าเกิดอะไรขึ้น ส่งผลอะไร อย่างไร กับใคร จะพัฒนาอย่างไร  อันนี้อาจเป็นหมี ฯ

๖.พี่เลี้ยงของเเต่ละกลุ่ม  อันนี้ยิ่งสำคัญ เพราะเป็นการโค๊ชน้องๆให้เกิดการคิดต่างๆ โดยที่เป็นคนคอยตั้งคำถาม ให้เด็กๆเกิดการเรียนรู้ที่อยู่ในกลุ่ม จากกระบวนกรตั้งคำถามมาเเล้ว อาจพาน้องมาคิดในกลุ่มเล็กๆให้กระชับขึ้นอีก ขยายความต่างๆ รับผิดชอบน้องต่างๆ อำนวยความสะดวกต่างๆให้น้องๆ อันนี้อาจเป็นหมี หรือ อินทรีย์ ฯ

        ในเรื่องบทบาทในค่ายนั้นถ้าเเบ่งชัดเจนจะมีอย่างยิ่ง เเต่หลายๆบทาทบก็อาจทำหลายๆคน เช่นผู้จัดการค่าย อาจมีหลายๆคนที่คอยช่วยกัน เเต่ที่จริงเราทั้งหมดที่เป็นพี่ๆต้องช่วยกันทั้งหมด เพราะหากยึดเพียงบทบาทตนเองอย่างเดียว งานบางสิ่งที่อาจล่าช้าได้ การจัดการค่ายโดยการเเบ่งบทบาทนั้นสำคัญ เเต่สำคัญยิ่งกว่า คือ จะทำอย่างไรให้เด็กเกิดการเรียนรู้มากที่สุด ซึ่งพี่ๆก็ต้องมาคุยกันล่ะว่า จะทำอย่างไรเกิดเกิดผล อาจมีการ AAR DAR AAR กันอยู่ในค่าย  หลายๆครั้งอาจเกิดความไม่สงบเกิดขึ้นในค่ายโดยที่ มีบทบาทหนึ่งที่แฝงอยู่ในตัวของทุกๆคน คือ สารวัตร นักเรียนที่คอยสร้างบรรยากาศที่ปลอดภัย ให้เกิดการเรียนรู้เกิดขึ้น หรืออาจเเบ่งหน้าที่ต่างหากนี้ออกไปก็เป็นได้  เพราะบทบาทไม่ตายตัว เราไม่ควรตายตัวกับบทบาท การจัดการถึงจะเสร็จ เเต่สำเร็จหรือไม่ เราต้องมาเรียนรู้กันต่อไป AAR กันอย่างไม่สิ้นสุด

.

.

.

.

.

หมายเลขบันทึก: 575417เขียนเมื่อ 31 สิงหาคม 2014 09:15 น. ()แก้ไขเมื่อ 31 สิงหาคม 2014 09:56 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท