ภาพ 1: ยากันแดดชนิดพ่น หรือแบบสเปรย์ (spray-on sunscreen)
.
.
อ.แคทรินา วอซนิคคี รวมรวมคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญผิวหนัง เกี่ยวกับวิธีใช้ยากันแดดใน "เว็บเอ็มดี (WebMD / เว็บหมอ)" ไว้อย่างนี้ [ WebMD ]
มะเร็งผิวหนังเป็นมะเร็งที่พบบ่อยที่สุดในสหรัฐฯ โดยพบคนไข้รายใหม่มากกว่า 3.5 ล้านคน/ปี
คนอเมริกันมีประมาณ 119 ล้านคน [ Census ]
= ถ้ามีคนอเมริกัน 91 คน จะพบคนไข้มะเร็งผิวหนังรายใหม่ 1 คน/ปี
.
แสงแดดมีรังสีอัลตราไวโอเล็ต (ultraviolet / UV / รังสีที่มีความถี่ สูงกว่าแสงสีม่วง) 3 ชนิดได้แก่ A, B, C
= UVA, UVB, UVC ตามลำดับ
รังสี UVC ถูกปิดกั้นโดยบรรยากาศชั้นโอโซน ทำให้เกือบไม่ตกลงมาสู่ระดับผิวโลกเลย
แสงแดดที่ระดับผิวโลก มีรังสี 2 ชนิดได้แก่ UVA & UVB (& = เครื่องหมาย "และ")
(1). UVB > ทำให้เกิดผื่นแดดเผา (sunburn = เห็นสีแดงในช่วงแรก, ต่อมาจะเห็นสีน้ำตาลหรือคล้ำขึ้น)
(2). UVA > ทะลุผ่านชั้นผิวหนังได้ลึกกว่า ทำให้ชั้นหนังแท้เสื่อมสภาพ เสี่ยงผิวหนังเหี่ยวย่น แบบผิวคนสูงอายุในระยะยาว
.
กระจกส่วนใหญ่กั้น UVB ได้ + ไม่กั้น UVA
การได้รับแสงแดดผ่านกระจกใสนานๆ เพิ่มเสี่ยงผิวหนังเหี่ยวย่น เสื่อมสภาพแบบคนสูงอายุได้เช่นกัน
ทั้ง UVA & UVB เพิ่มเสี่ยงมะเร็ง
ความเสี่ยงมะเร็งขึ้นกับปริมาณรังสีที่ได้รับรวม ตลอดชีวิต
.
ยิ่งได้รับแสงแดดสะสมมาก ยิ่งเสี่ยงมาก
ทำให้ผิวหนังนอกร่มผ้า เช่น ใบหน้า ใบหู มือ แขน ฯลฯ เสี่ยงมะเร็งผิวหนังมากกว่าผิวหนังในร่มผ้า เช่น หลังส่วนล่าง ก้น ขาหนีบ ฯลฯ
ความเข้าใจผิด หรือความเชื่อฝังลึกแบบผิดๆ (myth) ในเรื่องยากันแดด คือ
.
(1). ไม่ต้องใช้ ถ้าแดดไม่แรง หรือเป็นคนผิวคล้ำ-ผิวดำ
คนที่มีผิวสีคล้ำหรือดำ มีแนวโน้มจะมองเห็นสีแดงจากผิวไหม้แดดน้อยลง
ทว่า... ยังมีความเสี่ยงจากผิวหนังเสื่อมสภาพ แก่เกินวัย หรือมะเร็งผิวหนังได้ จึงควรใช้ยากันแดด
.
(2). กลัวแพ้ยากันแดด
ยากันแดดชนิดที่ใช้สารเคมี อาจทำให้เกิดอาการแพ้ หรือคันได้ในบางคน (แต่ก็พบน้อย)
ส่วนยากันแดดที่มีผงโลหะผสม เช่น ผงสังกะสี (zinc oxide / ซิ้งค์ ออกไซด์), ผงไทเทเนียม (titanium dioxide / ไทเทเนียม ไดออกไซด์) ฯลฯ ชนิดทา เช่น โลชั่น ฯลฯ มักจะไม่ทำให้แพ้
.
.
(3). ไม่ทดสอบ
วิธีทดสอบยาทาที่นิยมใช้ คือ ซื้อขนาดเล็กมาก่อน
ทาลงบนผิวหนังด้านหน้าของแขนท่อนล่างบางๆ เป็นวงเล็กๆ ขนาดประมาณเท่าเล็บนิ้วก้อย ก่อนนอน
.
ใช้ปากกาลูกลื่น เขียนวงกลมหรือวงรีไว้รอบๆ
แล้วสังเกตตอนเย็นวันรุ่งขึ้นว่า แพ้หรือไม่
ถ้าไม่แพ้... ค่อยซื้อขนาดใหญ่ขึ้นมาใช้
.
(4). เสื้อผ้าดีกว่ายา
การสวมหมวกปีกกว้าง แว่นตา เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว เพื่อปกปิดร่างกาย มักจะกันแดดได้ดีกว่ายากันแดด
ยากันแดดส่วนใหญ่จะต้องทาซ้ำทุกๆ 2 ชั่วโมง โดยเฉพาะถ้ามีเหงื่อออก หรือสัมผัสน้ำ
.
ถ้าจะเล่นน้ำ หรืออาบน้ำกลางแดด, ควรทาก่อนลงน้ำ 15-30 นาที
เพื่อให้สารกันแดด เกาะติดกับผิวหนังได้ก่อนสัมผัสน้ำ
ถ้าจะเล่นน้ำ หรือเล่นกีฬา-ออกกำลังกลางแดดแบบเหงื่อตก
ควรเลือกชนิดกันน้ำ (waterproof), หรือกันเหงื่อ (sweatproof)
.
(5). แต่งหน้า (makeup / เมคอัพ) แล้วไม่ต้องใช้ยากันแดด
ทุกวันนี้แดดแรงขึ้น... ยากันแดดควรใช้ขนาด (SPF) ระดับ 30 หรือมากกว่านั้น
.
เครื่องสำอางค์แต่งหน้า หรือเมคอัพส่วนใหญ่ กันแดดได้
แต่ไม่ถึงระดับ SPF = 30
.
.
(6). ยากันแดดดีเท่ากันทุกยี่ห้อ+ทุกขวด
ยากันแดดที่ดี ควรกันได้ทั้ง UVA & UVB (broad-spectrum = ออกฤทธิ์ป้องกัน UV ได้หลายระดับ)
.
คณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐฯ (US FDA) แนะนำให้ใช้ยากันแดดระดับ SPF = 15 ขึ้นไป
สถาบันแพทย์ผิวหนังสหรัฐฯ แนะนำให้ใช้ยากันแดดระดับ SPF = 30 ขึ้นไป
สารกันแดดที่ค่อนข้างทนแดดได้นาน คือ ผงโลหะซิ้งค์ หรือไทเทเนียม
หรือสารกันแดดรุ่นใหม่ เช่น เฮลิโอเพล็กซ์ (Helioplex), เมอร็อกซิว เอสเอ็กซ์ (Meroxyl SX) ฯลฯ
.
(7). ไม่จำเป็นต้องใช้แว่นกันแดด
การใช้แว่นกันแดด ช่วยป้องกันผิวหนังรอบๆ ตาได้ดี
.
ป้องกันเลนซ์ตา (ถ้าโดน UV มากจะเพิ่มเสี่ยงต้อกระจก)
และจอรับภาพ หรือเรตินาในลูกตาจาก UV
แว่นกันแดดขนาดใหญ่มีแนวโน้มจะดีกว่าขนาดเล็ก
แบบขาแว่นกว้าง คล้ายแว่นกันแดดนักจักรยาน จะกัน UV เข้าตาทางด้านข้างได้ดีกว่าแบบขาแว่นเล็ก หรือผอม
.
(8). "เล่นหูเล่นตา (กับแดด)" + "เล่นปากเล่นคอ" กับแดด (UV)ได้เลย
คนส่วนใหญ่จะทายากันแดดทั่วตัว
แต่ลืมทายากันแดดที่ใบหู หนังหัว (โดยเฉพาะถ้าผมบาง ผมน้อย หรือผมสีอ่อน เช่น สีขาว ฯลฯ), ลำคอ
การใช้หมวกป้องกันหนังหัว แว่นกันแดดป้องกันตา-ผิวหนังรอบตา มักจะใช้ได้ผลดีกว่าการทายากันแดด
.
ส่วนใบหู + ลำคอนั้น... ควรทายากันแดดด้วย
และอย่าลืม... ทาลิปมัน (ลิปสติก) กันแดดที่ริมฝีปาก โดยเลือกยาระดับ SPF = 30 ขึ้นไป
.
.
(9). ปรึกษาเภสัชกร (ผู้รู้เรื่องยา) หรือหมอก่อนสัมผัสแดด... ถ้าใช้ยา
ยาปฏิชีวนะ (ฆ่าเชื้อแบคทีเรียก) ที่ใช้รักษาสิว คือ ดอกซีไซคลิน อาจทำให้เกิดการแพ้ยา หลังได้รับแสงแดดได้
.
ถ้าเป็นมะเร็ง และใช้ยาเคมีบำบัด... ผิวหนังจะบอบบาง แพ้แสงแดดง่าย [ breastcancer ]
ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดจ้าในระหว่างการรักษา ไปจนถึงหลังรักษา 1-2 เดือน (หรือมากกว่านั้นถ้าหมอที่รักษาท่านแนะนำ)
.
(10). ซื้อขวดใหญ่-ใช้ได้หลายปี
ยาทาสารพัดชนิด เช่น โลชั่น ครีม น้ำมันหรือออยล์ ฯลฯ มักจะมีวันหมดอายุ (expired date / EXP.)
ก่อนซื้อ... แนะนำให้เช็ควันหมดอายุเสมอ
และอย่าลืมว่า ยาทาส่วนใหญ่จะมีวันหมดอายุ "สั้นลง" หลังเปิดขวด โดยมักจะเหลือ 1 ปี หรือน้อยกว่านั้น
.
วิธีที่น่าจะดีสำหรับยาทา โลชั่น ครีม น้ำมันหรือออยล์ คือ
ซื้อพอใช้ ไม่เกิน 1 ปี (หรือน้อยกว่านั้น ถ้าเภสัชกร หรือผู้รู้เรื่องยาแนะนำ)
.
อ.เกลทเชน เรโนวส์ ให้ความเห็นในหนังสือพิมพ์นิวยอร์ค ไทมส์ ไว้อย่างนี้ [ nytimes ]
ยากันแดดส่วนใหญ่เป็นแบบทา (rub-on sunscreen) เช่น โลชั่น ฯลฯ
ส่วนน้อยเป็นแบบพ่น หรือแบบสเปรย์ (spray-on sunscreen)
คณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐฯ (US FDA) เตือนว่า ไม่ควรใช้ยากันแดดแบบสเปรย์อาจจะไม่ปลอดภัย
.
กลไกที่เป็นไปได้ คือ ยากันแดดส่วนหนึ่งใช้ผงโลหะออกไซด์ หรือโลหะที่ทำปฏิกริยากับออกซิเจน ทำให้เป็นสนิม คล้ายสนิมเหล็ก
เช่น สังกะสี (zinc oxide / ซิ้งค์ ออกไซด์), ไทเทเนียม (titanium dioxide / ไทเทเนียม ไดออกไซด์)
สเปรย์จะทำให้เกิดละอองฝอย (droplets)
ซึ่งส่วนหนึ่งจะฟุ้งกระจาย หรือลอยอยู่ในอากาศ
.
ถ้าหายใจเอาละอองฝอยที่มีผงโลหะเข้าไป...
จะทำให้เกิดสารแปลกปลอม ตกค้างในปอด + เกิดการอักเสบแบบเรื้อรัง
โอกาสเกิดอันตรายแบบนี้ พบในเด็กมากกว่าผู้ใหญ่
การศึกษาแรกเริ่ม ทำในหนูทดลอง ปี 2006/2549 พบว่า สารไทเทเนียม อาจเพิ่มเสี่ยงมะเร็งในหนูได้
.
แม้จะต้องรอผลการศึกษาเพิ่มเติม เพื่อสนับสนุน หรือคัดค้าน
ทว่า... การไม่หายใจเอาผงโลหะ จากสเปรย์ยากันแดดเข้าไป น่าจะปลอดภัยกว่า
ปี 2013/2556 คณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐฯ (US FDA) ประกาศเตือน ไม่ให้ใช้ยากันแดดชนิดสเปรย์ หรือแบบพ่น ใกล้ไฟ
เช่น ไม่ควรใช้ใกล้สถานที่ที่มีการ "ปิ้ง-ย่าง-บาร์บีคิว(อาหารเสียบไม้ ปิ้งหรือย่าง)", ที่ที่มีการจุดเทียนไข ฯลฯ
.
เนื่องจากอาจมีสารติดไฟในสเปรย์ เช่น แอลกอฮอล์ ฯลฯ ผสมอยู่ได้
.
นิตยสารคอนซูเมอร์ รีพอร์ทส์ (ConsumerReports / รายงานผู้บริโภค หรือผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ = คล้ายๆ กับนิตยสาร "ฉลาดซื้อ" ในไทย) แนะนำเรื่องยากันแดดชนิดสเปรย์ไว้อย่างนี้ [ consumerreports ]
(1). ไม่ควรใช้สเปรย์ยากันแดดกับเด็ก
(2). ผู้ใหญ่ที่ใช้... ควรพ่นให้ไกล "ตา-หู-จมูก-ปาก" + หายใจเข้าก่อนพ่น + กลั้นหายใจในช่วงพ่นสเปรย์
(3). ยื่นมือออกห่างจากลำตัว + พ่นสเปรย์ใส่มือ แล้วค่อยถูบนผิวหนัง
.
สรุปภาพรวม คือ ยากันแดดชนิดทา เช่น โลชั่น ฯลฯ มีแนวโน้มจะปลอดภัยกว่าชนิดพ่น หรือสเปรย์
ถึงตรงนี้... ขอให้ท่านผู้อ่านมีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ
.
Thank WebMD > http://www.webmd.com/beauty/sun/sunscreen-myths
Thank nytimes > http://well.blogs.nytimes.com/2014/08/22/ask-well-are-spray-on-sunscreens-safe/?src=me
Thank ConsumerReport > http://www.consumerreports.org/cro/news/2011/07/don-t-spray-sunscreens-on-kids-at-least-for-now/index.htm
.
ไม่มีความเห็น