ครุ...แปลว่า หนัก(๑)


เป็นครูไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะต้องเป็นครูเก่ง ดี มีความสุข

เมื่อวันที่ ๑๗ - ๑๙ ตุลาคม ที่ผ่านมาได้เข้ารับการอบรมในโครงการ"พัฒนามาตรฐานการสอนระดับอุดมศึกษาสำหรับอาจารย์ใหม่ ปีการศึกษา ๒๕๔๘" ตอนแรกที่ดูกำหนดการเริ่มอบรมตั้งแต่ ๙ โมงเช้า เลิกอบรม ๓ ทุ่มครึ่ง นึกว่าล้อเล่น(มีพักบ้างเหมือนอย่างประชุมทุกๆทีที่ผ่านมา)ที่ไหนได้ครั้งนี้เริ่มตรงเวลาและเลิกหลังเวลาทุกวัน สมองเหนื่อยล้า ร้อนฉ่า แต่ก็ไม่หมดแรง

สิ่งที่ได้รับการอบรมมีประโยชน์สำหรับครู(จริงๆถูกเรียกว่าอาจารย์...แต่ชอบคำว่าครูมากกว่า)วิทยากรทุกคนล้วนแต่คุณภาพคับแก้ว แน่นมาก การอบรมครั้งนี้ทำให้เกิดคำถามมากมายหลังจากกลับมาว่าจะพัฒนาอย่างไรให้ดีขึ้น จะทำอย่างไร

ทำอย่างไร...ถึงได้เป็นครูมืออาชีพ

คำถามแรกครูคือใครและใครคือครู ๑.เรือจ้าง ๒.แม่พิมพ์ของชาติ ๓.แสงเทียน ๔.ปูชนียบุคคล   มีหน้าที่ในการถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์เพราะเด็กต้องการการหล่อหลอมและเมื่อโตขึ้นต้องการการชี้นำ

คติพจน์ในการสอน อยากเรียนก็เรียน ไม่อยากเรียนก็ไม่ต้องเรียน แต่ต้องมี ๒ อย่างคือความรู้และกระบวนการ "ชีวิตคนเราไม่จำเป็นที่ต้องรู้ทุกเรื่องบนโลกใบนี้"

บทบาทและหน้าที่ที่สำคัญของมหาวิทยาลัยมีอยู่ ๔ ประการคือ ๑) การเรียนการสอนเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๒)การทำวิจัยเพื่อพัฒนาความรู้ความสามารถในการสอน ๓)บริการสังคม เพื่อให้สังคมพัฒนาในทางที่ควร ชี้นำสังคมได้ ๔)การทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมเป็นการดูแลความอยู่รอดความเป็นชาติ

เมื่อมหาวิทยาลัยมีบทบาทหน้าที่ ๔ ประการตัวมหาวิทยาลัยทำเองมิได้แต่บุคคลากรของมหาวิทยาลัยที่เรียกตนเองหรือนอื่นเรียกว่าอาจารย์ก็ต้องรับมาดำเนินการ อย่างคิดว่ามหาวิทยาลัยก็ทำไป

สิ่งสำคัญของอาจารย์ที่จะทำให้การสอนมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลคือ

๑.ต้องเข้าใจวัยรุ่น เพราะจริงๆแล้วเค้าชอบการสอนอันอบอุ่น ครูก็ต้องให้ความอบอุ่นปรับอุณหภูมิไม่ให้ร้อนหรือเย็นเกินไปมีอีก ๒ ประเด็นที่ต้องคำนึงถึงคือ ถูกต้องและถูกใจ

๒.ต้องเพิ่มการศึกษาศาสตร์ทางการศึกษาเป็นสิ่งที่จำเป็นมากสำหรับคนจะมาเป็นครู ศาสตร์ทางด้านศึกษาศาสตร์ก็มีทั้ง ด้านการสอน ด้านจิตวิทยา ด้านการประเมินผล และด้านเทคโนโลยี

ก็มีคำถามขึ้นมาในใจว่าจำเป็นไหมที่คนจะมาเป็นครูจะต้องเรียนเก่งมากๆ? และก็มีคำตอบว่าบางครั้งครูอาจจะไม่ต้องเรียนเก่งมากแต่ต้องสื่อสารถ่ายทอดความร้และประสบการณ์กับคนเรียนให้รับรู้ เข้าใจ เพราะการสอนไม่ใช่การสอนหนังสือ แต่สอนสิ่งมีชีวิต(ที่มีความหลากหลาย : ทั้งสติปัญญา ร่างกาย อารมณ์ สังคม บุคลิกภาพ รูปร่างหน้าตา เศรษฐกิจ ครอบครัวความสามารถ ความสนใจ และความถนัด) สำหรับคนสอนก็ต้องมีความรับผิดชอบ มีความห่วงใย มีน้ำใจ เข้าใจ และที่สำคัญต้องตรงต่อเวลา

หมายเลขบันทึก: 5700เขียนเมื่อ 21 ตุลาคม 2005 18:29 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 มิถุนายน 2012 00:04 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท