สุขหัวใจให้ชีวิต กับ TEXTILE MUSEUM


เก็บภาพและบรรยากาศเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ผ้า มหาวิทยาลัยนเรศวร จังหวัดพิษณุโลก ใช้เวลาช่วงรอพบแพทย์ งานนี้ได้ชมทั้งผ้าสวย ๆ และมีคุณค่าพร้อมๆ กับชมภาพสร้างสรรค์จิตรกรรมรูปหัวใจด้วย...เพื่อเป็นการแบ่งปันเรื่องราวดี ๆ และช่วยประชาสัมพันธ์โครงการดี ๆ แบบนี้จึงขอนำเอามาบันทึกไว้บนพื้นที่แห่งนี้ G2K ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามชมด้วยนะคร้าบ!!!

                                               -ช่วงบ่าย ๆ ของวานนี้....ได้พาคนข้างกาย(มดตะนอย)ไปตรวจสุขภาพตามที่หมอนัดไว้ ณ โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร จังหวัดพิษณุโลก...หลังจากได้ทำการเจาะเลือดและลงคิวตามระบบของโรงพยาบาลแล้ว...ต่อไปก็เป็นการรอพบหมอครับ....ช่วงเวลาที่รอพบหมอพอจะมีเวลาว่าง ๆ อยู่สักหน่อย...งานนี้ผมเลยชวนเธอไปชมพิพิธภัณฑ์ผ้า(TEXTILE MUSEUM)ที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับโรงพยาบาลครับ....เอาเป็นว่าตามผมไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ไปพร้อม ๆกันได้เลยคร้าบ!!!


1.ก่อนจะไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์เราสองคนขอชวนทุกท่านได้ไปสักการะสมเด็จพระนเรศวรมหาราชที่ตั้งอยู่ใกล้ ๆ โรงพยาบาลก่อนครับ....


2.อาคารพิพิธภัณฑ์ผ้า อยู่ไม่ไกลจากลานสมเด็จฯมากนัก เราเดินตามเส้นทางที่มีป้ายบอกเอาไว้ก็ถึงจุดหมายปลายทางแล้วล่ะครับ....ตอนแรกตั้งใจว่าจะเข้าไปเก็บภาพความงามของผ้าและเรื่องราวจากพิพิธภัณฑ์แห่งนี้มาฝากมิตรรัก G2K สักหน่อย...แต่พอไปถึงที่หมาย...สิ่งที่ตั้งใจไว้ก็ต้องอดเมื่อเจอป้ายบอกว่า "Please no cameras"...งานนี้ชมได้แต่ตา...มืออย่าต้อง...เก็บภาพความงดงามของลายผ้าและความประทับใจกลับไปเพียงเท่านี้..ก็เพียงพอแล้วล่ะครับ ฮ่า ๆ ๆเอาเป็นว่าหากท่านใดสนใจเข้าเยี่ยมชมความงามของผ้าไทยก็สามารถไปเยี่ยมชมได้ด้วยตนเอง....แล้วกันนะคร้าบ!!!

ชมความงามของผ้าไทยแบบเต็มอิ่มแล้ว.....ต่อไปก็เดินลงไปยังชั้นล่าง....ตามผมไปเยี่ยมชมและเลือกซื้อสินค้ากันสักหน่อย...ฮ่า ๆ 





3.สินค้ามีมากมายหลายชนิดครับ...ไม่ว่าจะเป็นของกินของใช้ที่ผลิตจากผ้าไทยมีให้เลือกซื้อเลือกชมกันอย่างไม่ซ้ำแบบ....งานนี้คนข้างกายได้นำเสนอสินค้าให้แบบไม่คิดค่าตัวด้วยนะคร้าบ....ผมว่าสวยทุกแบบ...ทุกชุดเลยล่ะครับ.....แต่สำหรับวันนี้..เราสองคนไม่ได้อะไรติดไม้ติดมือกลับมานอกจาก"แผ่นพับเส้นทางการเรียนรู้"จากพิพิธภัณฑ์แห่งนี้คร้าบ!!!!!5555555

มองดูนาฬิกา....ใกล้ถึงเวลาที่จะพบคุณหมอแล้วล่ะครับ...ขอตัวกลับไปโรงพยาบาลก่อนก็แล้วกัน....อิๆ 


4.ระหว่างเดินไปยังห้องตรวจ เราก็เจอเข้ากับบอร์ดจัดแสดงภาพอะไรบางอย่าง...ดูสะดุดตา....บางภาพเป็นผ้า...บางภาพเป็นการนำเอาเมล็ดพืชชนิดต่าง ๆมาติดเป็นรูป..ดูไม่ออกว่าเป็นรูปอะไร..จนกระทั่งเข้าไปชมใกล้ ๆ จึงถึงบางอ้อ...ว่า..อ๋อ...ภาพนี้...คือภาพ"หัวใจ"ครับ...แล้วจินตนาการแห่งภาพ"หัวใจ"ก็ชัดขึ้นมาทันตาครับ...ฮ่า ๆ 

5.ตามมาชม"หัวใจ"แบบชัด ๆ กันดีกว่าครับ...ตามข้อมูลที่่เขียนเอาไว้....บอกเอาไว้ว่า"แนวคิดและความเป็นมาของโครงการ จะเกี่ยวข้องกับความหมายของ"หัวใจ"ที่มีความหมายหลายแง่มุม ในแง่มุมเชิงรูปธรรม หรือทางกายภาพ หัวใจถือเป็นอวัยวะที่สำคัญมากที่สุดส่วนหนึ่งของร่างกายคน มีหน้าที่ฟอกและสูบฉีดโลหิตหมุนเวียนไปตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ในเชิงนามธรรม "หัวใจ"ทำหน้าที่เหมือนจุดรวมแห่งพลังขับเคลื่อนให้กิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตดำเนินไป เป็นแหล่งผลิตและแหล่งรองรับความรัก ความรู้สึกต่าง ๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต และแน่นอนที่สุดเมื่อเกิดความผิดปกติขึ้นกับอวัยวะส่วนนี้ไม่ว่าความผิดปกตินั้นจะเกิดขึ้นกับหัวใจในเชิงรูปธรรมหรือนามธรรมก็ตาม ย่อมส่งผลให้บุคคลนั้นเกิดความเจ็บป่วยขึ้น ทั้งทางร่างกายและจิตใจ ทำให้ความสุขในชีวิตขาดหาย หรืออาจส่งผลร้ายแรงจนเป็นเหตุแห่งการสูญเสียชีวิตไปได้ในที่สุด ในทางกลับกันหากหัวใจได้รับการดูแล ทะนุถนอม บำรุงรักษาอย่างดี จะเป็นปัจจัยหลักส่งผลให้ร่างกายและจิตใจของเจ้าของหัวใจดวงนั้น พบแต่ความสุขในการดำเนินชีวิต"


6."ในโอกาสที่คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้จัดโครงการผ่าตัดหัวใจนอกเวลาแก่ผู้ป่วย 61 ราย ถวายเป็นพระราชกุศลแด่ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี เนื่องในพระราชวโรกาส ทรงเจริญพระชนมายุ 60 พรรษา คณาจารย์ผู้สอนรายวิชาองค์ประกอบศิลป์สร้างสรรค์ และนิสิตสาขาออกแบบทัศนศิลป์ ภาควิชาศิลปะและการออกแบบ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร  มีความยินดียิ่ง ที่ได้มีโอกาสร่วมสร้างกุศลในครั้งนี้ แล้วนำชิ้นงานทั้งหมดมาจัดวางร่วมกันเป็นผลงานจิตรกรรมขนาดใหญ่ ติดตั้งภายในโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร แม้นว่าทักษะที่มีการจัดการเรียนการสอนในสาขาออกแบบทัศนศิลป์จะไม่เกี่ยวข้องกับศาสตร์ทางการแพทย์เท่าใดนัก  หากแต่เส้นสายและสีสันจากภาพจิตรกรรมสวย ๆ ที่ร้อยเรียง น่าที่จะมีส่วนทำให้บรรยากาศน่าหดหู่ใจของผู้ป่วยที่มาใช้บริการในโรงพยาบาลได้มี"หัวใจ"เบิกบานขึ้นได้บ้างไม่มากก็น้อย สอดคล้องกับปณิธานของโครงการนี้ "สุขหัวใจ  ให้ชีวิต"

ข้อมูลโดย ผศ.ทวีรัศมิ์ พรหมรัตน์ และ อ.ธีรวุฒิ บุญยศักดิ์เสรี

ท่านใดสนใจที่จะร่วมบริจาคเงินสำหรับผู้ป่วยตามโครงการ ก็สามารถร่วมบริจาคได้ที่ "มูลนิธิโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร เลขที่ 99 หมู่ 9 ตำบลท่าโพธิ์ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณูโลก 65000"หรือ"ธนาคารกรุงไทย ชื่อบัญชี โครงการผ่าตัดนอกเวลาให้แก่ผู้ป่วยโรคหัวใจจำนวน 61 รายฯ บัญชีออมทรัพย์เลขที่  857-0-24352-9"ตั้งแต่บัดนี้ถึง 1 เมษายน 2558 นะคร้าบ!!!!

7.หลังจากพบหมอและตรวจสุขภาพเสร็จเรียบร้อยแล้ว....ผลปรากฎว่า"คนข้างกาย"ต้องมีการรักษาอาการของโรคไทรอยด์ต่อ โดยคุณหมอได้ส่งตัวไปรักษาต่อที่ โรงพยาบาลรังษีรักษา เบื้องต้นได้นัดการรักษาโดยการ"กลืนแร่"ในวันที่ 7 มิถุนายน นี้ ซึ่งผมกับเธอก็ค่อนข้างกังวลเป็นอย่างมากเลยล่ะครับ...เอาเป็นว่าหากมิตรรัก G2K ท่านใดที่มีประสบการณ์เกี่ยวกับการรักษา"โรคไทรอยด์ด้วยการกลืนแร่"ขอแชร์ประสบการณ์ด้วยนะครับ.....

                                       สำหรับวันนี้.....

                                                                                                       สวัสดีครับ

                                                                                                       เพชรน้ำหนึ่ง

                                                                                                        29/05/2557



ความเห็น (21)

ไม่มีวิธีรักษาอย่างอื่นนอกจากการกลืนแร่เหรอค่ะ ลองถามหา "Second opinion" ดูก่อนไหมค่ะ

เคยรู้จักเจ้าของโรงเรียนท่านหนึ่ง ท่านเป็นเหมือนกัน และกลืนแร้่ หลังจากกลืนก็เก็บตัวอยู่แต่ในห้อง เพราะเห็นบอกว่าหมอแนะนำว่าไม่ควรเข้าใกล้บุคคลอื่น หลังจากนั้นอาการก็ดีขึ้น แต่ตอนนี้ไม่ได้พบท่านเพราะดิฉันเปลี่ยนงานใหม่ ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจนะคะ

อนุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรนี้

ผมร่วมสมัยอยู่ระหว่างตั้งแต่การหล่อ ถึง พิธีบวงสรวงท่าน ;)...

คุณมะเดื่อไม่มีประสบการณ์เรื่องไทรอยด์นะ  แต่ก็ลองหา ๆ ในเน็ตดู  เอามาฝากจ้ะ

ไปโรงพยาบาลระดับโรงเรียนแพทย์แล้ว และส่งไปในที่ที่รักษาเฉพาะแล้วค่ะน้องเพชร  สงสัยอะไรถามหมอให้รอบด้านเลย อย่าเกรงใจ  

วันที่ ๗ มิย. ไปแล้วขอความรู้คุณหมอให้ชัดเจนได้เลยค่ะ  ตรงนั่นเชี่ยวชาญที่สุดแล้ว  โดยเฉพาะเรื่องอยากมีทายาท สำคัญที่สุด  เดี๋ยวนี้เทคโนโลยีทางการแพทย์ช่วยคนไข้เยอะ  (อันนี้สามีพี่กระซิบดังๆ ให้บอกน้องเพชรค่ะ)

เห็นภาพ น้องมดตะนอยแจ่มใสร่าเริง...ขอให้รักษาสุขภาพพ้นอันตรายจากโรคภัยไข้เจ็บ...เป็นกำลังใจให้ค่ะ....

ทันสมัยนะคะ  พระนเรศวร

หายไว ๆ   กำลังใจเข้มแข็งนะคะคุณมดฯ

ขอให้คนข้างตัวหายป่วยไวๆๆ

ไป ม นเรศวร

แต่ไม่เคยไปดูที่นี่ซักที

คงต้องหาโอกาสไปบ้างแล้ว

ขอบคุณมากๆครับ

แวะมาชื่นชมกับคลังความรู้เรื่องงานผ้า และขอให้กำลังใจคู่ใจคุณเพชรน้ำหนึ่งให้หายอาการไทรอยด์ไวๆครับ ขอย้ำว่า การให้กำลังใจทั้งภาษากายและภาษาพูดจะทำให้มีพลังใจมากขึ้นขณะทำการรักษาครับผม ไทรอยด์หายได้แต่ต้องใช้เวลาจริงๆครับ ผมเองก็เป็นไทรอยด์เป็นพิษพร้อมๆกับอัมพาตแบบเฉียบพลัน ก็ใช้เวลาจนถึงวันนี้ก็ 9 เดือนแล้วครับผม 

ขอบพระคุณมากครับผม

-สวัสดีครับอาจารย์จันทวรรณ

-ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะครับ

-สวัสดีครับคุณ Tuknarak

-พอสืบค้นหาข้อมูลมีผู้เป็นโรคนี้เยอะเหมือนกันนะครับ

-ขอบคุณสำหรับกำลังใจที่มอบให้นะครับ

-สวัสดีครับอาจารย์ Wasawat

-ถือว่าผมตามรอยท่านก็แล้วกันนะครับ ฮ่า ๆ 

-ลานสมเด็จดูใหญ่โตและน่าเลื่อมใสมาก ๆครับ

-ขอบคุณที่มาเยี่ยมและให้กำลังใจนะครับ

-สวัสดีครับอาจารย์ ดร.พจนา

-ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะครับ

-สวัสดีครับครูมะเดื่อ

-ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะครับ

-ยินดีที่ได้แบ่งปันเรื่องราวดี ๆ และรับกำลังใจจากบันทึกนี้ครับ

-สวัสดีครับพี่หมอ nui

-ขอคุณที่มาเยี่ยมและให้กำลังใจนะครับ

-ณ วันนี้ได้ทำการรักษาตามคำแนะนำของอาจารย์หมอเรียบร้อยแล้วครับ

-ต่อไปก็หวังว่าอาการจะดีขึ้น

-ขอบคุณครับ

-สวัสดีครับป้าใหญ่

-ขอบคุณกำลังใจจากป้าใหญ่มาก  ๆนะครับ

-สวัสดีครับคุณ Kanchana

-ขอบคุณภาพทุเรียน...น่ากินมาก ๆ ครับ

-ว่าแต่..คงต้องควบคุมน้ำหนักนิดหน่อย ฮ่าๆ 

-สวัสดีครับพี่หมอฟัน ธิรัมภา

-ตามสมัยพระนเรศวรครับ

-ขอบคุณสำหรับกำลังใจที่มอบให้นะครับ

-สวัสดีครับท่านอาจารย์ขจิต 

-หากมีโอกาสไปมหาวิทยาลัยนเรศวรต้องหาเวลาไปสักการะนะครับ

-บรรยากาศดีมาก  ๆครับ

-ขอบคุณสำหรับกำลังใจที่มอบให้นะครับ

-สวัสดีครับพี่ Dr .Pop

-อาการของโรคดูไม่ค่อยออกนะครับ 

-หาข้อมูลดูแล้วมีผู้เป็นโรคนี้เยอะเหมือนกัน

-ขอบคุณสำหรับกำลังใจที่มอบให้นะครับ

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท