ตั้งหัวข้อมาแปลกๆ บอกก่อนครับไม่ได้ตั้งใจเขียนเรื่องชีวประวัติตัวเองแต่อย่างใด
จริงๆ วันนี้ตั้งใจจะมาลงเรื่อง KM+CQI ที่จัดขึ้นที่บำราศนราดูรวันนี้เพราะได้พบความตื่นตาตื่นใจหลายอย่างจากงานที่ผมคาดไม่ถึงมาก
รวมทั้งพิธีกรสาว(สวย?) ที่เจอทั้งหน้าจอและนอกจอ
เรื่องที่ฟังล้วนน่าสนใจมาก จนผมแอบหลับได้ทีนึง เอ้ย จนผมหลับได้แค่ทีเดียวต่างหาก ซึ่งผมถือว่ายอดมากเพราะไม่ว่างานไหนถ้าจัดบ่าย แอร์ดีๆ ผมหลับแน่ๆ (เอ้า นอกเรื่องไปหน่อย)
แต่กลับเจอเรื่องน่าสนใจจากการเข้าไปดูบล็อควันนี้หลายเรื่องตั้งแต่เรื่อง
จากฟ้าใสๆที่ Pai Town ถึง "เส้นทางสายหมอก"
ของคุณจตุพรจนถึงเรื่อง ตามหานางฟ้า ของคุณเมตตา ซึ่งตอนนี้ออกถึง 4 ภาคแล้ว
ตามหานางฟ้า (1):ทบทวนตัวเอง
ตามหานางฟ้า (2):รูปกายภายนอก
ตามหานางฟ้า (3):สเปคใครว่าไม่สำคัญ
ตามหานางฟ้า(4):อกหักที่ท่าพระจันทร์
บอกได้คำเดี่ยวว่าสุดยอดครับไม่นึกมาก่อนว่าชีวิตคนหนึ่งจะมีความรักได้มากมายขนาดนี้
และผมไปเจอบันทึกของคุณปกรณ์เรื่อง
ที่รวมต่อกันได้อย่างบังเอิญ วันนี้เป็นวันที่ผมเปิดอ่านเจอแต่ความรัก ผมเปลี่ยนใจมาเขียนถึงความรักด้วยคน
ความรัก...หรือนี่คือสิ่งที่คนเราแสวงหา
ความรัก...ที่ซื้อไม่ได้ด้วยเงินตรา
ความรัก...ที่ไม่รู้มาจากที่ไหน
ความรัก...นั้นไซร้อยู่ในใจของคุณเอง
จบบันทึกลงด้วยเวลา 22 นาที
บันทึกนี้เขียนด้วยความรู้สึกอบอวลด้วยความรักอีกวันหนึ่ง
ปล. วันนี้เป็นวันฮาโลวีน เลยเป็นวันปล่อยผีด้วยกระมั้งผีแห่งความรัก
ขอฝากความรักไปกับทุกๆ คนในค่ำคืนนี้ครับถ้าหลับอยู่จะตามไปหลอกในฝันครับ เหอๆ
พี่เมตตา
ตอนนี้ไม่รู้หลอกทันเปล่า แต่ถ้าพี่นอนขี้เซาคงหลอกทันครับ แฮ่ๆ
คุณขจิต
ผีไม่หลอกพระครับแต่หลอกคนใส่พระ เอิ้กๆ (สำบายดีคับ)
คุณปวีณา
อ่านแล้วไม่รู้ว่ากลัวคนหรือผีมากกว่ากัน แต่อย่างน้อยผีวันนี้ตั้งใจมาหลอกครับ หายกลัวยัง แฮ่ๆๆ
คุณสิริพร
จะตามไปหลอก เอ้ย อ่านนะขอรับ ฮี่ๆ
แล้วความรักกับหญิงสาวที่เลือกไว้เป็นอย่างไรบ้างครับ
เอ่อ รู้สึกจะเข้าตัวเรื่อยๆ ครับ
ผีตนนี้ขอหลบเข้าโลงไปก่อนละ ชูแวป
อิจฉาคนมีความรักจัง
ความรักมีอยู่ 2 ประเภท คือ
1. ความรักทางโลก : เป็นความรักที่ต้องการครอบครองเป็นเจ้าของ อันนี้จะทำให้เกิดทุกข์ ถ้าไม่ได้ตามใจปรารถนา
2. ความรักในทางธรรม : เป็นความรักที่มีความเมตตา ไม่ต้องการครอบครอง ไม่ต้องการสิ่งตอบแทน เป็นความรักที่บริสุทธิ์ ผู้ใดมีความรักแบบนี้ จะไม่มีทุกข์จ๊ะ
เลือกเอาเองก็แล้วกัน อยากมีความรักแบบไหน ถ้าต้องการให้ชีวิตมีรสชาด ก็คงต้องเป็นความรักทางโลก เดี๋ยวสุข เดี๋ยวทุกข์ สนุกดีใช่ไหม
เขียนบทความแบบนี้เป็นด้วยเหรอ ไม่น่าเชื่อเลยนะ หึหึ
อืมม์ อ่านบทความของคุณจตุพรแล้ว เห็นด้วยมากๆกับหัวข้อ สเปคใครว่าไม่สำคัญ
ผมไม่เชื่อหรอก...พวกที่บอกว่าหน้าตายังไงก็ได้น่ะ เพราะรูปร่างหน้าตานี่แหละคือจุดแรกที่คนเราจะสังเกตได้ก่อน เพียงแต่ว่าจะเป็นยังไง แบบไหน ก็ขึ้นกับความสนใจของแต่ละคน
P..OOM
พูดได้ถูกใจผมมากครับ ความรักทางโลกชวนให้น่าหลงไหลจริงๆ นั่นแหละครับ
เภสัชโอ
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อเน้อ สเปคตอนอายุต่างกันคงเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ละ ถ้าตอนแรกๆ ก็ดูหน้าตาก่อน แล้วมาดูสเปคนิสัย ตอนนี้เสปคเราเอาแค่ หน้าตาน่ารัก+อยู่ด้วยกันแล้วอบอุ่นทั้งคู่ก็พอแล้ว สเปคสูงไปป่าวเนี่ย