ลมแรง ต้นไม้ล้ม สังคมยืนได้


         วันนี้ไปจ่ายตลาดตอนเย็นช่วงเวลาอากาศครึ้มฝนใกล้จะตก  พ่อค้าที่กำลังสนทนาด้วยได้เตือนครูนกว่า หากลมแรงให้รีบเดินออกจากตลาด น่ากลัวกว่าเปียกฝนมากมาย และท่าทางการเล่าของพ่อค้าบอกได้เลยถึงอาการหวาดกลัวแต่ลมแรงทำให้ครูนกต้องย้อนไปถึงวันลมพัดแรงในตอนเย็นของวันที่ ๑๒ เมษายนที่ผ่านที่ทำให้งานสงกรานต์ของหมู่บ้านในช่วงบันเทิงต้องเลื่่อนออกไป และสถานที่เตรียมงานที่จัดเตรียมไว้ก็เสีียหายจากความแรงของลม

                               "บ้านน้า...ต้นไม้ใหญ่หน้าบ้านล้ม"

          ทันทีที่ลมสงบครูนกกับแม่สำรวจรอบบ้าน  ก็ถือว่าโชคดีที่ต้นฝรั่งกิ่งขนาดใหญ่หักพร้อมกับหมากแดงล้มแต่ไม่กระทบตัวต่อบ้านถื  หลังจากนั้นได้ยินเสียงเลื่อยไม้ และเสียงผู้คนมากมายเลยชวนกันเดินไปสวนเล็กๆของแม่เพื่อสำรวจว่า บรรดาเหล่าต้นไม้อยู่ดีมีสุขกันแค่ไหน  ก็พบว่่ามีต้นหมากอายุนมนานลมแต่ก็ไม่ได้สร้างความเสียหายต่อบ้านในสวน ในช่วงเวลาเดียวกันมีผู้คนมาบอกเล่าถึงสภาพความเสียหายที่เกิดในโรงเรียน


          เมื่อเดินเลยไปถึงบ้านน้าพบว่า ต้นไม้ใหญ่หน้าบ้านล้มทับบางส่วนของบ้านแต่ก็โชคดีไม่มีผู้ได้รับอันตรายใดๆ
          ช่วงเดินกลับก็แวะไปที่วัดซึ่งต้นไม้หัก และล้มหลายต้น  ตลอดจนเต้นท์เตรียมงานสงกรานต์ก็ได้รับผลกระทบไปด้วย


              สรุปผลจากลมพัดแรงในวันนั้นทำให้วัด  โรงเรียน บ้านเรือน และสวนเสียหายกันส่วนหนึ่ง  แต่โชคดีไม่มีผู้เสียหายหรือบาดเจ็บ


          นอกจากนั้นได้เห็นความสามัคคีของคนในหมู่บ้านที่มาช่วยเหลือกันอย่างไม่ได้นัดหมายนี้คือเอกลักษณ์ของสังคมไทยอย่างหนึ่งค่ะ  เราคนรุ่นหลังคงต้องช่วยกันดำรงคงไว้ให้คู่กับสังคมไทยไปอีกนานเท่านาน และเหตุการณ์ในครั้งนี้ได้สร้างบทเรียนบทใหม่ให้กับคนในชุมชนเรื่องวาตภัย ซึ่งเป็นผลมาจากภาวะโลกร้อนจากเกิดฝีมือของพวกเราทั้งโดยตั้งใจแลไม่ตั้งใจ  แต่หากสังคมเข้มแข็งภัยใดๆ เราก็จะผ่านไปได้ค่ะ
          

คำสำคัญ (Tags): #ภัยธรรมชาติ
หมายเลขบันทึก: 566186เขียนเมื่อ 17 เมษายน 2014 22:44 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 เมษายน 2014 22:44 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (11)

ครับ สงกรานต์ปีนี้ ฝนตก ลมแรง เกือบทุกวัน...โชคดีที่ไม่มีใครเป็นอะไร เศร้ากับต้นไม้ใหญ่ล้ม....และได้เห็นความการช่วยเหลือกันคนละไม้คนละมือของชุมชนครับ

เรียนครูนก ....

อ่านบันทึกนี้แล้ว ทำให้นึกถึง ลมในเลสาบ ลมหัวด้วน

ลมเภา ลมหลาตัน ลมหมาคอเน่า

บางครั้งเกิดลมรุนแรง คนเฒ่าบองว่า เกิด"โย่" (พายุ)

คนไทย หากยามปกติอาจจะมีกระทบกันบ้าง แต่หากมีภัย เราจะร่วมใจกันสู้นะครับ แต่ก็อยากให้สามัคคีกันตลอดเวลามากกว่า ครูนกครับ บ้านผมก็มีลมแรง ฝนตก ต้นไม้ถอนรากไปหลายต้น โดยเฉพาะกล้วยที่กำลังมีลูกครับ น่าเสียดาย แต่ที่เสียดายกว่าคือ ต้นทุเรียนน้ำที่เพิ่มออกลูกมาลูกแรก ล้มลงรากลอย จนต้องขุดแล้วปลูกลงไปใหม่ ไม่รู้ว่าจะฟื้นตัวเมื่อไรครับ แต่ก็นี่แหละนะครับ ธรรมชาติ มีดีและร้ายเป็นเรื่องปกติครับ

"ไม้ล้ม..อย่าข้าม"..โบราณว่า...(เห็นต้นสักที่ไร่..ล้ม..สั่งให้เขาอย่าตัด...หลายปีต่อมา..ขึ้นเป็นต้นอีกหลาย..ต้นเจ้าค่ะ)

ใช่เลยค่ะน้องทิมดาบ ความร่วมมือและความสามัคคีช่วยกู้สถานการณ์ได้

เรียนท่านวอญ่า-ผู้เฒ่า-natachoei--
แม่ครูนกก็ว่าเหมือนเกิดโย่เลย สังเกตผู้สูงอายุจะกลัวกับเหตุการณ์แบบนี้มากๆ วันนั้นนะว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต้องทำงานกันอย่างหนักเลยในการช่วยปกบ้านป้องลม

เป็นกำลังใจให้ค่ะ...หลายบ้านยอมตัดต้นไม้ ไม่เหลือเป็นร่มเงา...น่าเสียดายมาก


เห็นด้วยเลยครับน้อง nobita ยามมีปัญหาเดือดร้อนจะเห็นน้ำใจคนไทย.........
อ่านจากหลายๆท่านแสดงว่า ลมแรงหลายพื้นที่....ก็น่าเสียดายต้นทุเรียนน้ำมากๆ ไม่เป็นไรค่ะ ปลูกใหม่อีก

ขอบคุณข้อคิดชีวิตงามของคุณยายธี ค่ะ "ไม้ล้มอย่าข้าม"

ที่บ้านพี่ก็ลมแรง ฝนตกก่อนสงกรานต์ ๑ วัน คิดว่าจะเย็นลง แต่ก็ยังร้อน

ที่จะให้เกิดก็ไม่เกิด ที่ไมม่อยากให้เกิด ก็เกิด ไม่มีอะไรแน่นอนจริง

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท