หลังจากที่ฉันนำบันทึกการเรียนรู้ของครูเอม - ภานุมาศ จีรภัทร์ ที่มีชื่อว่า สนามเด็กเล่น ที่เขียนขึ้นเพื่อประเมินเป้าหมายการทำงานของตัวเอง มาลงใน blog อาจารย์วิจารณ์ได้เข้ามาอ่าน และได้กรุณาเขียน comment ถึงครูเอมไว้ว่า
"เป็นบันทึกที่มีพลังมากครับ อยากให้ครูเอมสะท้อนว่า ในช่วงเวลาของการเรียนรู้ที่นี่ ครูเอมมีความสำเร็จที่ภูมิใจคื
วิจารณ์
................................................
เมื่อครูเอมกลับไปใคร่ครวญดูแล้วก็พบว่า
สิ่งที่ภูมิใจที่สุดก็คงจะเป็น "รู้สึกดีใจกับตัวเอง ที่ครั้งหนึ่งเคยรู้สึกว่าการเข้าไปอยู่ในชั้นเรียนเป็นเรื่องยากๆ ที่คิดว่าคงจะทำต่อไปไม่ไหวแล้ว แต่มาถึงวันนี้ก็ยังมีความรู้สึกว่ายังอยากจะเป็นครูอยู่ และเริ่มเห็นความเป็นไปได้ของตัวเองบนทางเส้นนี้ แม้จะไม่ชัดเท่าไหร่ รู้สึกสนุกทุกครั้งที่ได้เจอ/เรียนรู้กับเรื่องใหม่ๆ ที่ยังไม่เคยรู้" ค่ะ
สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ถ้าจะให้สรุปก็เป็นเพราะงานที่ทำ คำพูดของใครหลายๆ คนที่เป็นแรงบันดาลใจ การได้เขียนคอมเม้นท์เด็กๆ ที่เหมือนการหาแนวทางปรับพฤติกรรมตัวเอง ๕๕ และก็การได้เขียนทบทวนตัวเองที่เป็นเหมือนแว่นขยายให้ความสำเร็จเล็กๆ มันเป็นรูปเป็นร่างพอที่เราจะมองเห็นได้น่ะค่ะ
หนูยังจำได้ถึงครั้งแรกที่ได้สอบสอน ตอนที่สอบสอนเสร็จก็รู้สึกแย่มาก คิดว่าไม่เอาแล้วละ ไม่ไหวหรอก การเป็นครูคงจะไม่เหมาะกับเรา แต่เพราะครูน้อย ที่เป็นหัวหน้าช่วงชั้นในตอนนั้นถามหนูว่าจะเริ่มงานได้วันไหน ทำให้หนูตกลงใจมาทำงานที่นี่ แบบงงๆ ตอนนั้นรู้สึกว่าชีวิตสับสนไปหมด ก็พยายามทำเต็มที่ที่จะเรียนรู้กับสิ่งที่พี่ๆ สอน ก็สนุกดีตอนเตรียมงาน แต่ทุกครั้งที่เข้าห้องเรียนก็ยิ่งตอกย้ำว่าเป็นไปไม่ได้
นึกแล้วก็ตลกดีค่ะ เพราะมีเพื่อนที่มาเป็นครูไล่ๆ กัน เขาบอกว่าตอนคิด คิดไม่ค่อยออกเท่าไหร่ แต่ตอนอยู่กับเด็กๆ ในห้องเรียนสนุกมาก แต่หนูกลับบอกว่าหนูชอบตอนคิดแผนมากกว่าสนุกดี แต่แค่คิิดว่าจะต้องเข้าห้องไปสอนแล้วจริงๆ ก็แหยงไม่อยากจะเข้าไปแล้ว และก็เลยคิดบอกกับตัวเองว่าเป็นครูนะ คิดอย่างนี้นี่ไม่ดีเลย และก็อยู่อย่างนี้มาเรื่อยๆ จนครบปี เป็นอะไรที่แย่มาก ชีวิตนี้ไม่เคยเลยที่จะพยายามเท่าไหร่แล้วก็ยังทำไม่ได้อย่างสิ้นเชิงแบบนี้
แล้ววันหนึ่งก็มาคิดกับตัวเองอีกว่าคิดว่า ถ้าคิดจะลาออก เพราะทำอันนี้ได้ไม่ดีแล้วหนีไปทำอย่างอื่นแทน ก็ไม่เอาหรอก เพราะมันติดที่นิสัยเรานี่ละ ถ้าแก้นิส้ยนี้ไม่ได้ ไปทำอะไรที่ไหนก็ต้องเจอปัญหานี้อยู่ดี แล้วจะหนีไปเรื่อยๆ เหรอ ถ้าจะต้องเจออยู่แล้ว ก็เจอมันซะที่นี่ละ ก็เลยตัดสินใจอยู่ต่อ
จนปีถัดมาที่ได้ open class และพี่ปาดก็ช่วยแนะนำหลายอย่าง เกี่ยวกับสิ่งที่จำเป็น ที่สำคัญในการทำหน้าที่ครูอยู่ในชั้นเรียน คำพูดของพี่ปาดที่บอกว่า "ผมชอบที่ได้กลับมาที่ห้องเรียนจริงๆ เลย เพราะมันให้ได้ใกล้ชิดความเป็นจริง และห้องเรียนก็สอนให้ครูต้องเรียนรู้และพัฒนาตัวเองอยู่ตลอด" ตอนที่ได้ยินก็คิดว่า " จริงด้วย นั่นซิ !"
และเพราะคำพูดนี้หนูก็เลยเริ่มที่จะรู้สึกสนุกกับการเป็นครูขึ้นมา แม้ว่าจะรู้ว่ามีเรื่องยากๆ รออยู่ข้างหน้าอีกมากเลย เวลาได้มองกลับมาที่ตัวเองก็เหมือนกับจะคิดว่าจะเอายังไงกับเด็กคนนี้ดีนะ ช้าและก็ยากจริงๆ เลย ไม่ค่อยจะยอมโตซักที แต่ก็ดีใจในทุกๆ ครั้งที่เห็นว่าอย่างน้อยปีนี้ก็โตขึ้นอีกนิดแล้ว น่ะค่ะ
ไม่มีความเห็น