เช้าวันนี้ไม่ต่างกับทุกๆวันที่จะเห็น ผู้หญิงร่างเล็กคนหนึ่งปั่นจักรยานบนถนนในหมู่บ้าน
หมู่บ้านเล็กๆหมู่บ้านเดียวที่มีวัดตั้งอยู่ในอำเภอแห่งนี้ มีชุมชนไทยพุทธและมุสลิมที่อาศัยกันมายาวนาน รวมทั้งหญิงท่านี้ด้วย
เธอเป็นผู้กำเนิดจากที่นี่ เป็นลูกชาวบ้านและชาวสวนที่ย้ายมาตั้งถิ่นฐานรกรากมานาน
ยามเด็กเธอต้องทำนา ทำสวยเฉกเช่นเดียวกับหญิงสาวในหมู่บ้านแห่งนี้
ด้วยความมานะพยายามเธอจึงได้เรียนจบผดุงครรภ์ ณ วชิรพยาบาล กทม
เธอกลับมาทำงานในบ้านเกิดในบทบาทของข้าราชการ
ข้าราชการที่ไม่มีสำนักงาน ต้องหาสำนักงานขิงตนเอง
โชคดีที่เธอมีโอกาสสมรสกับลูกชายร้านขายของชำ
สำนักงานผดุงครรภ์จึงตั้งอยู่ที่ร้านของชำแห่งนั้น
เธอทำหน้าที่ผดุงครรภ์ที่ทำคลอดตามบ้าน เริ่มตั้งแต่เจ็บครรภ์จนกระทั่งคลอด บางครั้งสามวันสามคืน กลับมาบ้านเฉพาะอาบนำ้และรับประทานอาหาร ทำคลอดโดยไม่เลือกศาสนา
กลางคำ่กลางคืนเธอออกให้การรักษาเบื้องต้นโดยไม่ขัดข้อง
จึงเป็นผู้รักและศรัทธาของชุนแห่งนี้
ทุกวันนี้ แม้ว่าเธอจะเกษียณอายุราชการมา 14 ปีแล้ว
ความศรัทธทนั้นยังอยู่
เธอจึงชักชวนคนในหมู่บ้าน ให้อออกกำลังกาย
ปั่นจักยานยามเช้าท่ามกลางสถานการณ์ความไม่สงบ
ยามเย็นจะเห็นภาพผู้สูงอายุร่วมกันแอร์โรบิค
ทั้งกลุ่มที่เต้นอย่างสุดเหวี่ยง
กลุ่มที่ออกแขนขาขยับเขยื้อน
กลุ่มที่นั่งออกกำลังกายบนเก้าอื้
นั่นไม่เท่ากับก่อนเวลาที่ออกกำลังกาย
ที่มีการพูดคุย สังสรรค์กัน
นอกจากร่างกายและกระดูกแข็งแรงแล้ว ยังเสริมสร้างพลังจิตให้เข้มแข็งเพื่อสร้างพลังกายที่แข็งแรงอีกด้วย
ขอให้ชุมชนเข้มแข็งเช่นนี้ต่อไป
ขอบคุณเรื่องเล่าจากภาคใต้ครับ
ได้ผู้นำออกกำลังกายแบบนี้ดีมากเลยครับ
ขอบพระคุณ อ.
ขจิต ฝอยทอง ที่ติดตามให้กำลังใจค่ะ