หรือมหาอำนาจจะเป็นผู้กำหนดทิศทางการเมืองไทย? ตอนที่ 2

หรือมหาอำนาจจะเป็นผู้กำหนดทิศทางการเมืองไทย? ตอนที่ 2

ที่พูดมาทั้งหมดไม่เห็นเกี่ยวกับไทยเลย อ้าวแล้วเกี่ยวยังไงล่ะ คนไทยส่วนใหญ่ มีการเข้าใจและภาคภูมิใจ ว่าประเทศไทยไม่เคยตกเป็นอาณานิคมของประเทศตะวันตกเลย ถึงแม้จะมีการสูญเสียดินแดนไปเพื่อแลกกับอิสระภาพของตัวเองและการที่ไม่ต้องตกเป็นเมืองขึ้นของใคร นั่นเป็นมุมมองแบบตรงๆ ง่ายๆ ต้องเข้าใจว่าการครอบครองประเทศ ในยุคนี้ ไม่ใช่เป็นเรืองครอบครองทางตรง เช่น ครอบครองโดยทหาร ที่นักล่าอาณานิคม เข้ามาปกครองโดยตรง หรือนอมินี เช่น ในตะวันออกกลาง

ความจริงแล้ว ถ้าเราตั้งข้อสังเกตุดี ๆ จะเห็นว่า ทำไมมหาอำนาจเหล่านี้ เค้าจึงรู้สึกดีกับประเทศไทยตลอดมา ถ้ากล่าวโดยสรุป (อย่าเพิ่งโกรธนะ) คือ ประเทศไทยอยู่การควบคุมของมหาอำนาจเหล่านี้ตลอดเวลา เค้าสามารถรีโมททุกอย่าง โดยไม่จำเป็นต้องใช้นอมินีควบคุมประเทศไทยเลย เราจะเห็นได้ว่า ชาวตะวันตกหรือชาวประเทศมหาอำนาจประกอบอาชีพได้อย่างอิสระในเมืองไทย และครอบครองเศรษฐกิจของไทยมากกว่าครึ่งก็เป็นได้ มองไทยเป็นบ้านที่สองของตัวเอง เลือกอยู่ที่ไหนก็ได้ แค่เพียงมีเงิน ก็สามารถได้รับการปรนเปรออย่างดีจากคนไทย แน่นอนนี่เป็นผลประโยชน์ร่วม และก็ไม่ได้ต่อต้าน เพราะเป็นสิ่งที่ดี โลกทั้งโลก ควรเป็นพื้นที่ของคนทุกคน นี่เป็นความสวยงามของไทย แต่ในขณะเดียวกัน ความสวยงามนี้หากมองอีกมุมก็คือ เราซึ่งมีศักยภาพน้อยกว่า จึงถูกครอบงำโดยมหาอำนาจเหล่านี้ในทุกๆ ด้านโดยไม่ต้องประกาศ

ที่ผ่านมามหาอำนาจปล่อยให้การเมืองไทยดำเนินอย่างอิสระ เพราะมหาอำนาจ อเมริกายังเห็นว่า การต่อสู้ทางการเมืองภายในไทยในช่วงนั้นเอื้อต่อผลประโยชน์ของเค้า มิได้ทำลายผลประโยชน์แต่อย่างใด นอกจากบางช่วง อาจจะขายสินค้า ได้น้อยลง แต่โอกาสครอบครองทางธุรกิจมากขึ้น เพราะไทยต้องการการช่วยเหลือจากมหาอำนาจ แล้วทำไม การต่อสู้ทางการเมืองในขณะนี้ ดิฉันจึงคิดว่า มหาอำนาจจึงไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติอีกต่อไป คำตอบก็คือ การเติบโตของมหาอำนาจใหม่ คือจีน ที่ถ้าปล่อยไว้ จนผ่านเข้ามาในไทย และมีสัดส่วนการถือครองอำนาจ มากกว่าอเมริกาและตะวันตก แล้วทำให้เค้าไม่สามารถรีโมทประเทศไทยได้อีกต่อไป แล้วในที่สุดทุกประเทศในเอเซียน หันไปสู่จีนและรัสเซียในที่สุด

แปลกดีคะ ทำไมมาเกี่ยวกับจีน แล้วจีนเข้ามาเกี่ยวอะไรตอนนี้ มันมีสัญญานที่สำคัญมากๆ แต่ถ้าเราประเมินความเข้มแข็งของขั้วอำนาจผิด ก็จะมองไม่เห็น ถ้าให้อ่านใจมหาอำนาจ ทั้งจีน และอเมริกา ดิฉันมองว่า เค้าได้ประเมินดุลอำนาจของขั้วต่างๆ ในไทยมาอย่างต่อเนื่อง ก่อนหน้านี้ อเมริกาและตะวันตก ประเมินว่า ฝ่ายอนุรักษ์นิยมยัง สามารถควบคุม อำนาจทางการเมือง การทหาร เศรษฐกิจได้อย่างเบ็ดเสร็จ แล้วคงไม่แปลกใจนะคะ ว่าฝ่ายอนุรักษ์นิยมและผู้สนุนทั้งหลาย ต้องการเป็นพันธมิตร กับอเมริกา ตะวันตก มากกว่าจีน รัสเซีย ดังนั้นตราบใดที่ดุลอำนาจไม่เปลี่ยน อเมริกา และจีนไม่จำเป็นต้องแข่งขันกัน

ในระยะสองปีที่ผ่านมา การเมืองไทยได้เข้มข้นขึ้นเป็นลำดับ การชนะการเลือกตั้งของเพื่อไทย ในปี 53 ได้ยืนยันแล้วว่าดุลอำนาจเริ่มเปลี่ยนแปลง โดยที่อำนาจใหม่ได้แข็งแกร่งขึ้นตามลำดับ ในขณะฝ่ายอนุรักษ์นิยมเดิมเริ่มถดถอย ซึ่งมันไม่น่าจะมีปัญหากับอเมริกาเลยใช่ไหมคะ เพราะขั้วใหม่ก็นิยมตะวันตกเหมือนเดิม ถ้าการเมืองไม่เคลื่อนไปสู่จุดแตกหัก แต่ที่อเมริกาต้องเข้ามา เพราะการต่อสู้กำลังเข้าสู่การแตกหัก อำนาจเก่ามีความพร้อมทุกอย่างทั้งการเศรษฐกิจ การทหาร การปกครอง ระบบราชการ ขาดแต่เพียงอย่างเดียวคือประชาชนสนับสนุนเท่านั้น ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่อยู่ฝ่ายอำนาจใหม่ หรือเสรีนิยม ยังไงทุกฝ่ายก็นิยมอเมริกา อยู่ดี ไม่น่าแปลก

ถ้าเราคิดตรงๆ ก็เป็นอย่างนั้น แต่ถ้าเอ๊ะใจสักนิด จะเข้าใจ ก็เพราะว่า ฝ่ายเสรีนิยมเค้าไม่มีทางสู้ เมื่อฝ่ายอำนาจเก่าเอาทหาร เอากองทัพเข้ามา นั่นคือ ฝ่ายเสรีนิยมเค้าต้องรอความช่วยเหลือ ทางทหารจากนอกประเทศ ซึ่งจีนรอคอยอยู่แล้ว และพยายมจะเข้ามามีอิทธิพลทางส่วนเหนือของไทยอย่างถาวร ถ้าอเมริกา ไม่เข้ามาตอนนี้ ทุกอย่างก็เสร็จจีนแน่นอน อาจจะมีคนถามว่า ทำไมจีนถึงเข้ามาแทรกแซงแบบนี้ ไม่เคยเห็นจีนทำแบบนี้ ไม่ว่าจะกับลาว หรือพม่า เวียวดนามก็นาม คราวนี้ทำไมจีนถึงอ้าแขนรับรัฐบาลพลัดถิ่นถ้ามันเกิดขึ้น ถามว่าทำไม ก็เพราะมหาอำนาจเหล่านี้ (จีน อเมริกา และอื่นๆ ) มองว่าทั้งสองขั้วอำนาจในไทยนี้ จะไม่สามารถชนะกันได้อย่างเด็ดขาด และที่สำคัญขั้วอำนาจเก่า จะไม่สามารถชนะขั้วอำนาจใหม่ในระยะยาวได้อย่างแน่นอน การเลือกขั้วอำนาจใหม่ ก็จะชนะในระยะยาว (อันนี้ อาจคิดว่าโมเมเอาเอง หรือดิฉันเป็นขี้ข้าทักษิณอีกตามเคย) แต่มหาอำนาจเค้ามองดุลการเมืองมาโดยตลอด และมีศักยภาพการประเมินมากกว่าเรา เห็นภาพใหญ่ แล้วถ้าเป็นอย่างนั้นจริง จะรับได้ไหมคะ คิดดูก็แล้วกัน สมมติว่ามหาอำนาจ จีน และ อเมริกา ไม่เข้ามายุ่ง และเกิดรัฐปประหาร ในเดือนเมย. นี้ คิดหรือว่า รัฐบาล หรือนายก ม.7 จะปกครองประเทศไทยได้อย่างปกติสุข ดังนั้นมหาอำนาจอย่างอเมริกาและตะวันตกจึงรู้ว่า รีบฉวยโอกาสเลือกข้างให้เร็วที่สุด เพื่อตัดหน้าจีน และที่สำคัญไม่ต้องลงทุนอะไร นอกจากเล่นการมือง การทูต แค่เพียงบีบให้อำนาจเก่า ยอมรับประชาธิปไตยก็พอแล้ว ซึ่งก็สามารถทำได้หลายวิธี อาจจะโดยการบอยคอตธุรกิจการค้า ที่สนับสนุนฝ่ายอนุรักษ์นิยม นักการเมือง นักวิชาการที่สนับสนุนอนุรักษ์นิยม บีบให้ฝ่ายอนุรักษ์นิยมยอมรับการเลือกตั้งโดยการใช้ศาลโลก สหประชาชาติ แค่นี้ก็เรียบร้อยแล้ว จึงไม่น่าแปลกใจที่คนฉลาดในไทย ต้องยอมรับ เพราะตอนนี้มหาอำนาจเคลื่อนไหวแล้ว

และนี่แหละคือการที่มหาอำนาจ เป็นผู้ตัดสินการเมืองไทย เชื่อหรือไม่ เพราะไทยไม่สามารถอยู่โดดเดี่ยวได้ไม่เช่นนั้น อนาคตจะถดทอย ไม่ใช่เครื่องมือที่ดีของมหาอำนาจอีกต่อไป ถ้าใครเกลียดมหาอำนาจ ก็จงรู้ไว้ด้วยว่าสันดานของมหาอำนาจก็เป็นแบบนี้แหละคะ ไม่แตกต่างกับขั้วอำนาจของการเมืองไทยเลย แต่ผลประโยชน์มันคนละชั้นกัน เท่านั้นเอง!!!

[ยายธี]

"มองผ่านๆ..ไทยหรือไทหรือไต..กลาย..พันธุ์..มานานแล้ว..จากความเป็นอิสระ..ชน.."..ชนใหม่..ผสมจีนต้นตระกูลตาเล็กผสมยุโรปเรียกกันว่าออยราเซียน..ผสมชนผิวขาวที่เรียกตนว่าอเมริกัน..เขาอนุ(ณุ)ญาติให้เป็นอเมริกันได้..แม้วก็ถูกเอาไปอยู่อเมริกาเยอะแยะตอนนี้เป็นอะไร..ก็ไม่รู้..(ชนเหล่านี้..เป็นไทยๆโดยกำเนิด(นุ)จึงไม่มีอำนาจใดๆชักขเย่อเขาให้หลุดจากความเป็นไทยในตัวตนได้)..และเขาเหล่านั้น..ก็ยังคงดำรงอยู่และเปลี่ยนแปลงตัวตนไปเรื่อยๆตามเวลา..แม้แผ่นดินนี้..จะจมน้ำได้ในภายภาคหน้า...ขุนเขาที่มีมาอาจหดหายไปได้เช่นเดียวกัน...เป็นสัจจธรรม...ที่ดำรงคงอยู่...

(มีคำผิดแก้ไม่ได้ลบไม่ออกขอโทษด้วย..เจ้าค่ะ..)...ชอบความคิด..ที่บันทึกนี้..ขอบพระคุณ..เจ้าค่ะ..ยายธี

[คุณ ผุสดี มุหะหมัด]

ขอบคุณมากคะ คุณยายธี สำหรับกำลังใจของคนเขียนคะ …บางครั้งก็อดคิดเล่นๆ ไม่ได้นะคะ ว่าเราคิดลึกไปหรือเปล่า ชอบคิดหักมุม คิดไม่เหมือนกับคนอื่นเค้าคิดคะ…แต่อยากลองเขียนดูคะ…ขอบคุณอีกครั้งนะคะ