ปีที่แล้วจำได้ว่าใกล้ๆกันตรงนี้มีต้นแคซึ่งได้เก็บดอกมาทำอาหารหลายครั้ง แต่เมื่อวันที่ 27 มีค.57 มองไปที่เดิม (ซึ่งก็ไปบ่อยแต่เดินผ่านไปเฉยๆไปเก็บฝักมะรุมแก่และมะพร้าว ลูกยังดิบเขียวจึงไม่สะดุดตาไม่สนใจ) เห็นมะละกอกำลังสุก 1 ลูกตอนที่เห็นต้น ลูกจริงก็ยังไม่ขำเท่าตอนเห็นอยู่ในภาพ แต่บ่นกับคุณปู่-ย่าว่า น่าสงสารต้นมะละกอทำไมดูแห้งแล้งขนาดนั้นต้นก็เล็กยังออกลูกใหญ่กว่าลำต้นอีก คุณย่าบอกว่าคนอยู่แถวดอยตุงเชียงรายให้ต้นมาปลูก ที่สวนแม่ริมช่วงฤดูหนาวต่อเนื่องฤดูร้อนดูแห้งแล้งมาก สนามหญ้าที่เคยเขียวก็แห้งเป็นสีน้ำตาล ต้นไม้ที่อยู่ห่างน้ำประปาที่คุณปู่ใช้รดต้นไม้ จึงดูน่าสงสารมาก แต่ไม้ผลต้นไม่ใหญ่ก็ออกลูก นำต้นมะละกอที่น่าสงสารอยู่ริมสวนมาฝากค่ะ
มะละกอสุก ช่วยระบายท้อง เจริญอาหารและ บำรุงน้ำนมให้กับแม่ที่ยังเลี้ยงลูกด้วยน้ำนมตัวเอง
แนะนำคุณแม่ลูกอ่อนได้เลยค่ะ กินมะละกอสุกบ่อยๆ บำรุงน้ำนม ทั้งแม่และลูกจะได้ไม่ท้องผูกดีด้วย
น่าสงสารและน่ารักในความอดทนของมะละกอไม่ตายไหมค่ะ กำลังถ่ายรูปอยู่ๆก็ทำให้หันไปเห็น คงอยากจะบอกว่า...ฉันสุกแล้วเด็ดไปกินได้แล้วก่อนที่จะงอมเกินไป.... พอไปจับลูกก็นิ่มนิดๆแล้วจึงเด็ดไว้ให้คุณย่า ยังไม่ได้ถามเลยค่ะว่าเนื้อหวานไหม แต่น่าจะหวานนะคะ ทนแล้งอย่างนั้น ที่บ้านสวนจะปลูกไม้ผลมีไม่มากแต่ก็พอได้อิ่มอร่อยอย่างธรรมชาติทุกปี
แย้มปีนังบนต้นขนุน
ส่วนที่บ้านในเมืองจะปลูกไม้ดอกไม้ประดับในกระถาง ซึ่งก็แอบทุบก้นกระถางให้รากลงดินเถาเลื้อยใกล้ต้นไม้อื่นบ้าง อย่าง เช่น ต้นขนุนตอนนี้กลางคืนจะหอมมากทุกคืนเพราะมีช่อดอกแย้มปีนังขยันออกดอกตลอด ขนุนต้นนี้อนาคตจะมีเพื่อนเป็นที่พึ่งพิงเลื้อยอีกหลายชนิดค่ะ
อ่านสรรพคุณประโยชน์เพิ่ม ของมะละกอ และแย้มปีนังได้ที่บันทึกเกี่ยวข้องนะคะ
ด้วยความปรารถนาดี กานดา แสนมณี
วันอังคารที่ ๑ เมษายน พ.ศ ๒๕๕๗
พี่ครับ
เป็นมะกอทนแล้งจริง
ขนาดแล้งยังมีลูกให้กินนะครับ
ขอบคุณมากๆครับ