เที่ยวคลองแดน เดินตลาดริมน้ำ ชมบ้านหนังสืออัจฉริยะ ที่เต็มไปของเก่าโบราณ รุ่นคุณทวด ที่คนสมัยใหม่อาจจะไม่รู้จัก และยังคงไว้ซึ่งวัฒนธรรม นำทรัพยากรธรรมชาติมาพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว สัมผัสวีถีชุมชนชนบท ชาร์ตแบตเติมพลังกาย สูดอากาศบริสุทธิ์ได้เต็มปอด อบอุ่นกับการต้อนรับและรอยยิ้มของชาวชุมชน |
||||
"เที่ยวท่องล่องใต้" ภูมิใจนำเสนอ กลิ่นอายของวัฒนธรรมท้องถิ่นที่เป็นปึกแผ่นของ “ชุมชนวิถีพุทธ” ตลาดริมน้ำคลองแดน ด้วยระบบนิเวศน์ที่ธรรมชาติได้สันสร้าง ประกอบกับผู้คนที่น่ารัก อยู่กันแบบพอเพียง ร่วมอนุรักษ์ของโบราณให้คนรุ่นหลังได้เชยชม เป็นเรื่องราวของชาวชุมชนใน 2 จังหวัดของภาคใต้ ที่มีเพียงแม่น้ำเล็กๆ เป็นเขตแดนตามธรรมชาติ ระหว่างชุมชน คลองแดนเป็นชุมชนที่ตั้งอยู่สุดเขตจังหวัดสงขลา ในเขตตำบลคลองแดน อำเภอระโนด กับตำบลรามแก้ว อำเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช มีอะไรมากมายชวนให้หลงใหล |
||||
ชุมชนคลองแดน ตั้งอยู่ที่ทางทิศเหนือของอำเภอเมืองสงขลา ประมาณ 100 กิโลเมตร (กม. 15 จากแยกบ้านรับแพรก - ระโนด) และมีระยะทางจากอำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราชไปทางทิศใต้ประมาณ 100 กิโลเมตรเช่นเดียวกัน จึงกล่าวได้ว่าชุมชนคลองแดน มีที่ตั้งอยู่เกือบกึ่งกลางระหว่างจังหวัดสงขลากับ จังหวัดนครศรีธรรมราช |
||||
เมื่อเราไปถึง ได้เจอกับ “ครูสายัณห์” เจ้าถิ่นให้การต้อนรับอย่างดี ก่อนที่จะเริ่มพูดคุยกัน และพาเดินชม แหล่งเก็บของโบราณ หรือเรียกได้ว่าเป็น พิพิธภัณฑ์ เลยก็ว่าได้ นายสายัณห์ ชลสาคร หรือครูสายัณห์ เป็นข้าราชการบำนาญ อดีตข้าราชครู ตำแหน่งสุดท้ายก่อนเกษียณอายุราชการ คือ ตำแหน่ง ผอ.โรงเรียนวัดฉิมหลา อ.หัวไทร |
||||
ครูสายัณห์ เล่าว่า สมัยก่อนตลาดที่ชุมชนคลองแดนเคยเป็นเมืองท่าที่เจริญรุ่งเรืองมาก มีร้านทอง ร้านตัดเสื้อผ้า ร้านขายของชำ ร้านยา ร้านตัดผม มีโรงสี นับได้ว่าเป็นอู่ข้าวอู่น้ำเลยทีเดียว สมรภูมิเหมาะกับการค้าขาย คนจีนก็ฉลาดได้ชักชวนญาติพี่น้องมาอาศัยอยู่ที่นี่เพิ่มมากขึ้น มีการตั้งถิ่นฐานบ้านเรือนอยู่กันอย่างหนาแน่นตลอดแนวริมน้ำคลองแดน คลองระโนด คลองชะอวดและคลองปากพนัง จนกระทั่งเมื่อทางหลวงสาย 408 เริ่มใช้งาน ทำให้ความนิยมในการใช้การสัญจรทางน้ำลดลง คนเริ่มอพยพออกจากพื้นที่ จนปัจจุบันไม่มีการใช้การสัญจรทางน้ำอีกเลย |
||||
|
||||
จากนั้น เมื่อปี พ.ศ. 2552 เจ้าอาวาสวัดคลองแดน มีความคิดที่อยากจะพัฒนาวัดให้มีความเจริญเหมือนแต่เก่าก่อน เลยได้ไปหาผู้ที่มีความรู้ด้านสถาปัตยกรรม ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย ดร.จเร สุวรรณชาติ จึงได้ทำการวิจัยและพัฒนาวัดให้เจริญขึ้นมาได้พอสมควร และได้มาสัมผัสกับชุมชนในตลาดริมน้ำคลองแดนซึ่งเป็นตลาดที่ทรุดโทรมมาก แต่ยังคงมีร่องรอย และได้สอบถามถึงชาวได้ จึงได้ทราบถึงความรุ่งเรื่องในสมัยก่อน จึงอยากจะปรับปรุงพัฒนาให้เหมือนแต่ก่อน ก็ได้ประสานไปยังการเคหะแห่งชาติ เพื่อจะของบมาช่วยสนับสนุน จึงได้เชิญชวนชาวชุมชนคลองแดนได้ไปศึกษาดูงานที่ ตลาดน้ำอัมพวา และสามชุก |
||||
“ครูสายัณห์” เป็นหนึ่งในชาวชุมชนที่ได้ไปร่วมงานครั้งนั้นด้วย เมื่อไปเห็นก็มีกำลังใจที่จะกลับมาพัฒนาบ้านเกิด โดยแบ่งหน้าที่กันตามความถนัด ครูสายัณห์ ได้รับหน้าที่ในด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัย ส่วนคนอื่นๆ ก็ดูเรื่องด้านการตลาด การบริหาร ครูสายัณห์ กลับมาพัฒนาบ้านของตนเอง บ้านครูสายัณห์ จึงเป็นโฮมสเตย์ หลังแรก ของชุมชนคลองแดน จนปัจจุบันมีโฮมสเตย์ รองรับนักท่องเที่ยวถึง 8 หลัง และเกิดเป็นตลาดริมน้ำคลองแดนที่คึกคักขึ้นมาอีกครั้ง ด้วยความร่วมมือร่วมใจของคนในชุมชน เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ยังคงอนุรักษ์ไว้ซึ่งวัฒนธรรม ทำให้ชาวชุมชนมีรายได้ |
||||
ส่วนที่มาของ สโลแกนที่ว่า “สามคลอง สองเมือง” มีที่มาว่า มีลำคลองธรรมชาติ 3 ลำคลองที่มาบรรจบกัน คือ ลำคลองสายแรกไหลสู่ อ.หัวไทร และ อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ลงไปทางใต้ เป็นลำคลองไหลสู่ อ.ระโนด จ.สงขลา จนไหลสู่ทะเลสาบสงขลา ส่วนลำคลองทางทิศตะวันตกไหลสู่ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช |
||||
ก่อนจะไปเดินชมตลาดริมน้ำ เราขอแวะเข้าไปชม “ครูสายัณห์ โฮมสเตย์” กันก่อน ซึ่งมีอายุกว่า 100 ปี ตกทอดมาถึง 4 ชั่วอายุคน โฮมสเตย์ หลังนี้เป็นมากกว่าบ้านพัก หรือที่พักสำหรับนักท่องเที่ยว แต่ ครูสายัณห์ ได้เก็บรวบรวมของเก่า ของโบราณ สมัยปู่ย่าตายาย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นของใช้ในชีวิตประจำวันของคนสมัยก่อน ให้นักท่องเที่ยวและผู้ที่สนใจได้ชมอีกด้วย เรียกได้ว่า เป็นพิพิธภัณฑ์ ย่อมๆ เลยทีเดียว ที่สำคัญเมื่อเข้าไป เราจะไม่เห็นมีข้อความเขียนคำอธิบาย เพราะครูสายัณห์ บอกว่า อยากจะเป็นคนถ่ายทอดสิ่งเหล่านี้ให้กับนักท่องเที่ยวและผู้ที่เข้ามาชมด้วยตัวเอง ไม่เพียงเท่านั้น บ้านหลังนี้ยังเป็น “บ้านหนังสืออัจฉริยะ” อีกด้วย |
ทึ่งมากเลยครับ
ไปใต้หลายครั้ง
ไม่เคยไปที่นี่เลย
ไปแต่สถาบันทักษิณคดีศึกษา
มีโอกาสจะแวะไปเที่ยว
ขอบคุณมากๆที่แนะนำเรื่องดีๆให้อ่านครับ
...บรรยากาศ สบายๆ...น่าไปเที่ยวนะคะ