เมื่อกี้ผมอ่านข่าวตามปกติ ปรากฎว่าเจอว่าการเลือกตั้งวันที่สองกุมภาฯ ที่ผ่านมานั้นตั้งท่าจะไม่เป็นโมฆะเสียแล้ว ดังนี้
"ธีระ สุธีวรางกูร" อาจารย์นิติราษฎร์ ฟันธง! คะแนนเสียงเลือกตั้ง 2 กุมภาพันธ์ยังไม่โมฆะ
สับคำวินิจฉัย ตลก. 'โมฆะ' 'นอก รธน.' 'นำสู่ความรุนแรง'
อ่านจบแล้วผมก็ดีใจจริงๆ ที่ผมไม่ได้เรียนกฎหมาย เห็นได้ชัดเลยว่างานของนักกฎหมายนั้นอยู่กับสิ่งที่นักวิทยาการคอมพิวเตอร์อย่างผมเรียกว่า "ภาษาธรรมชาติ" (natural langauge) ซึ่งยุ่งยากและวุ่นวายในการตีความ วันหนึ่งแปลได้อย่างหนึ่ง อีกวันหนึ่งแปลได้อีกอย่าง
ผมอยู่กับ "ภาษาประดิษฐ์" (artificial language) หรือเรียกง่ายๆ ว่าภาษาที่ใช้ในการสื่อสารสั่งการระบบสารสนเทศ (หรือ อืมม.... จะเรียกให้เข้าใจง่ายขึ้นอีกว่าภาษาคอมพิวเตอร์นั่นล่ะ) ผมก็มีความสุขดีแล้ว
ข้อดีของภาษาประดิษฐ์คือต้องพิสูจน์ได้ทางคณิตศาสตร์ เขียนให้หรูเป็นภาษาอังกฤษว่า mathematically provable ดังนั้นถูกคือถูกผิดคือผิด ไม่มีกำกวม
หลายคนมองว่าภาษาคอมพิวเตอร์ดูเหมือนยากกว่าภาษาพูดภาษาเขียนที่เราใช้อยู่ ที่จริงแล้วง่ายกว่าเยอะเพราะภาษาคอมพิวเตอร์ประโยคหนึ่งๆ จะแปลความหมายได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น
จริงๆ ประเด็นนี้นี่น่าจะเอาไปสอนเด็กๆ ที่เริ่มเขียนโปรแกรมให้เห็นข้อดีของภาษาคอมพิวเตอร์
ดีใจเหมือนกันค่ะ แต่พักนี้อยากจะเรียนขึ้นมาเหมือนกันค่ะ
ภาษาคอมพิวเตอร์ ภาษาคณิตศาสตร์ ภาษาตรรกศาสตร์ เป็นเรื่องเดียวกันนะคะ ไม่กำกวม แต่ในกฏหมายเขาก็ใช้ตรรกศาสตร์เช้มข้นเท่าที่ทราบ สำคัญตรงที่คนใช้บางคน บางกลุ่ม ใช้ไปเรื่อยเปื่อย ทำให้เด็กรุ่นหลัง งงงงและงง เราเรียนมาถูกหรือเปล่าเนี่ย
เมื่อวาน ผมดีใจที่ฝนเริ่มตกแล้ว...
ผมปฏิเสธการเรียนกฏหมายมาตั้งแต่เด็กแล้ว เพราะผมไม่เข้าใจคำว่า "ยุติธรรม"
อิอิอิอิอิอิอิอิอิ
ผมพยายามแปลตั้งแต่เด็กๆ ชั้นประถม.....มาจนถึงวันนี้ ผมก็ยังไม่ทราบว่าแปลว่าอะไร
และทุกวันนี้ ในบ้านเมืองเราก็เถึยงกันอยู่ตลอด ก็แค่คำนี้แหละ
อิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิ
แม้แต่ชื่อกระทรวงยังแปลไม่ออก แล้วผมจะเรียนไปทำไม
ใครทราบช่วยบอกหน่อยคร้าบบบบบบบบบบบ
อิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิ
อย่างว่าแต่พวกเราที่ไม่ได้เรียนเลยครับ ถึงในตอนนี้ผมว่าหลายคนในกระทรวงยุติธรรมก็ยังแปลชื่อกระทรวงไม่ออกครับ (ฮา)