ความโปร่งใส เปิดเผยต่อสาธารณะ เป็นกลไกป้องกันการทำสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ไม่ว่าหน่วยงานสาธารณะแบบใด ต้องดำรงอยู่ในท่ามกลางความเชื่อถือไว้วางใจของผู้คน
มหาวิทยาลัยก็เช่นเดียวกัน ดำรงอยู่ได้เพราะความเชื่อถือที่ได้รับ ทั้งเชื่อถือต่อผู้บริหาร ผู้ปฏิบัติงาน และต่อกลไกกำกับดูแล คือสภามหาวิทยาลัย
การสั่งสมบารมีความน่าเชื่อถือ เป็นกระบวนการสร้างตัวทั้งของปัจเจกบุคคล ของหน่วยงาน และของกลไกกำกับดูแลองค์กร
การแสดงความโปร่งใส เปิดเผยข้อมูล เปิดเผยกระบวนการตัดสินใจเชิงนโยบาย ของหน่วยกำกับดูแล ซึ่งในกรณีนี้ หมายถีงสภามหาวิทยาลัย จึงช่วยสร้างความไว้วางใจซึ่งกันและกัน ช่วยสร้างความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในองค์กร โดยทางอ้อม
มีบางมหาวิทยาลัยเผยแพร่การประชุมสภามหาวิทยาลัย ทางวีดีทัศน์วงจรปิด ให้ประชาคมในมหาวิทยาลัยได้รับทราบ ในทำนองเดียวกัน กับการประชุมรัฐสภา
ผมเดาว่า เมื่อถึงวาระลับ คงจะไม่มีการถ่ายทอดทีวี และสงสัยประโยชน์ที่ได้รับ
อยากให้ท่านผู้อ่านที่มีประสบการณ์ หรือเคยถกเถียงเรื่องการเปิดเผยผลการประชุมสภามหาวิทยาลัย และเปิดเผยกระบวนการ และสาระข้อโต้แย้งในการประชุมสภามหาวิทยาลัย ให้ประชาคมมหาวิทยาลัยทราบ เล่าประสบการณ์ และให้ข้อคิดเห็นว่า ความโปร่งใส เปิดเผยการทำงาน ของสภามหาวิทยาลัย ควรมีความพอดีอยู่ตรงไหน อย่างไรที่ถือว่าเกินพอดี เป็นผลร้ายมากกว่าผลดี อย่างไรที่เรียกว่าไม่โปร่งใส
สภามหาวิทยาลัยมหิดล นำรายงานการประชุมสภาฯ ที่ผ่านการรับรองแล้ว ขึ้นเว็บทั้งหมด เป็นประโยชน์ และเป็นโทษประการใดบ้าง อยากขอความเห็น
วิจารณ์ พานิช
๑ มี.ค. ๕๗
นำรายงานการประชุมสภาฯ ที่ผ่านการรับรองแล้ว ขึ้นเว็บทั้งหมด เป็นประโยชน์อย่างยิ่งค่ะท่านอาจารย์ เพราะเป็นถ้าเป็นเรื่องทางลบ เช่น การลงโทษบุคลากร ก้อจะเป็นวิธีการปราบผู้อื่นไม่ให้ทำผิดซ้ำ ประโยชน์สูงสุดที่ได้คือ เป็นการเปิดพื้นที่ให้คนทำดี ตั้งใจทำงานมี่ที่อยู่ เป็นต้นแบบของการทำดี สภามหาวิทยาลัยที่โพสแต่รายงานการประชุมสภาฯแบบย่อๆ หรือโพสหลังประชุม 2-3 เดือนส่องให้เห็นความไม่ชอบมาพากลของสภาฯแห่งนั้นเอง รวมทั้งการโพสวาระการประชุมต้องเปิดเผยด้วย ไม่ใช่โพสหลังการประชุมเรียบร้อยไปแล้วค่ะ ดิฉันเป็นบุคคลหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากการลงมติของสภามหาวิทยาลัยเห็นด้วยอย่างยิ่ง ว่ายุคนี้สภามหาวิทยาลัยที่เป็นสถาบันการศึกษา ผลิตบัณฑิตรับใช้สังคม เป็นผู้ชี้นำสังคม ควรเป็นต้นแบบที่ดีในการดำเนินการตามระเบียบวิธีทางปกครองค่ะ