"ตะวันตกพบตะวันออก"


                                             

              ปัจจุบันนี้ ชาวตะวันออกคงได้ทราบพระสงฆ์มหายานรูปหนึ่ง ชาวเวียดนามมีชื่อว่า "ติช นัท ฮัน" อายุ ๘๓ ปีท่านได้เดินทางระหว่างตะวันตกและตะวันออก เพื่อค้นหาและสะท้อนเรื่อง ภัยสงคราม ความอิสรภาพ และความสุขของมนุษยชาติ ท่านถือว่าเป็นตัวแทนตะวันออกที่เดินทางไปศึกษา สอน และพำนักอยู่ที่ตะวันตก (บ้านพลัม) เพื่อย้ำความยิ่งใหญ่ของมนุษย์ในแง่ความรัก ความสุข ที่ทั้งตะวันตกและตะวันออกต้องการ

              ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ชาวตะวันตกและตะวันออกสนใจการเคลื่อนไหวและคำสอนของท่านอยู่เสมอ และท่านก็มีลูกศิษย์มากมายด้วย ทำให้คนดัง คนมีชื่อเสียงอยากพูดคุย สนทนาด้วย เพื่อแสวงหาหลักการดำเนินชีวิตหรือข้อสงสัยต่างๆของชีวิต

              ส่วนตะวันตก เป็นที่ทราบดีว่า หลายปีที่ผ่านมาชาวตะวันตกได้เผชิญกับปัญหาชีวิต จิตใจ สังคม เศรษฐกิจ อิทธิพลด้านวัฒนธรรมที่หลากหลายมากขึ้น ให้เกิดความแตกแยก แตกต่างๆ เกลียดชัง เกิดอาชญากรรมข้ามชาติมากมาย และรวมไปถึงปัญหาพลเมืองในประเทศที่มีพฤติกรรมที่รุนแรงมากขึ้น ทำให้การดำเนินชีวิตตกอยู่ในกับดักหรือหลุมดำ ที่ตอกย้ำด้วยความตีบตันของปัญญาในการแก้ไขปัญหา

               เป็นที่ทราบดีว่า อเมริกาคือ เมืองมหาอำนาจทางด้านทหาร เศรษฐกิจ วัฒนธรรม ฯ แต่ดูเหมือนอยู่ในภาวะเสี่ยงกับการมีตัวตนของตัวเอง ที่แทบจะเยี่ยงย้ายกายไปแต่ละส่วนของโลก มีแต่ความสุ่มเสี่ยงต่อชีวิต ปฏิเสธไม่ได้ในอดีตอเมริกาได้สร้างทุรกรรมเอาไว้มากมาย จึงต้องรับผลจุดนี้

               อย่างไรก็ตาม โลกมิได้มีแต่อเมริกาเท่านั้น ยังมีโลกอีกซีกที่คานไลฟ์สไตล์หรือการดำเนินชีวิตไปแบบของตัวเองนั่นคือ โลกตะวันออก ที่อิงธรรมชาติและศาสนาเป็นผู้ชี้นำ ในขณะตะวันตกอาศัยอำนาจทหาร เศรษฐกิจ เทคโนโลยี วัฒนธรรมฯ เป็นตัวขับเคลื่อนไป ทำให้เห็นความแตกต่างระหว่างสองซีกโลก

               มีนักพิธีกรทอล์กโชว์ท่านหนึ่ง ที่ดำเนินธุรกิจในสื่อของอเมริกาคนหนึ่งที่มีชื่อเสียงมากและร่ำรวยเป็นอันดับหนึ่งชื่อ "โอปราห์ วินฟรีย์" (Oprah Winfrey) อายุ ๕๙ ปี ขณะนี้เธอมีธุรกิจที่จะเปิดนิตยสารชื่อ "โอ" (O) ซึ่งเธอเป็นเจ้าของเอง เธอได้โอกาสสัมภาษณ์กับท่าน ติช นัท ฮัน ในเรื่องราวต่างๆ และนิตยสารนี้จะวางแผงในเดือนมีนาคมนี้

                บทสนทนากันทั้งสองถือว่า เป็นตัวแทนแนวคิดของตะวันตกและตะวันออกที่เกื้อกูลด้านแนวคิด การดำเนินชีวิต การดูแลจิตใจ ในแต่ละช่วงในปัจจุบัน ให้เป็นสุข ท่านติช นัท  ฮัน ได้แนะนำวินฟรีย์เรื่องการทำเจริญสติให้เกิดความสุข เพื่อลดความกดดันในจิตใจได้ และรับฟังคนอื่นอย่างตั้งใจ เพื่อลดการเข้าใจผิดซึ่งกันและกัน เพื่อมิให้นำไปสู่การใช้วาจาที่รุนแรงต่อกัน จนเลยไปถึงการทำสงครามกัน วิธีนี้จะช่วยสร้างสันติสุขในสังคมและตัวเองได้

                จากนั้นท่านจบลงด้วยการแนะนำมนตร์ ๔ บท ให้วินฟรีย์ปฏิบัติดังนี้

1) "Darling, I’m here for you."

สิ่งที่ดีที่สุดที่เราสามารถทำให้คนที่รักคือการบอกเขาว่าเราอยู่ตรงนี้และที่นี่สำหรับเขา

 

2) "Darling, I know you are there and I am so happy."

การที่เราตระหนักถึงการดำรงอยู่ของคนที่เรารักเป็นสิ่งที่มีค่ามากเราได้โอบกอดคนรักเราเข้ามาไว้ในใจเราและทำให้เรารู้สึกเป็นสุขและเราก็ควรบอกให้คนรักของเรารับรู้

 

3) "Darling, I know you’re suffering. That is why I am here for you."  

มนตร์นี้ใช้เมื่อคนรักของเรากำลังประสบทุกข์การบอกให้เขารู้ว่ามีเราอยู่ด้วยและสามารถช่วยบรรเทาความทุกข์ลงได้บางส่วน

 

4) "Darling, I suffer. I am trying my best to practice. Please help me." มนตร์นี้ใช้เมื่อคนรักทำให้เราเจ็บปวดเสียใจแทนที่เราจะทำร้ายเขากลับเราควรขอให้เขาช่วยอธิบายถึงสิ่งที่เขาอาจได้ทำลงไปอาจเป็นการกระทำหรือคำพูดที่ทำให้เราเกิดความทุกข์

 

จากคุณอรุโณทัย- http://www.oknation.net/blog/print.php?id=565403

 

                                                 

---------------------<๕/๓/๕๗>------------------------

หมายเลขบันทึก: 563290เขียนเมื่อ 5 มีนาคม 2014 18:57 น. ()แก้ไขเมื่อ 5 มีนาคม 2014 20:31 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

หมอเปิ้น ชอบแนวคิดและการสอนของท่านมากๆๆ ค่ะ ท่าน "ติช นัท ฮัน"

เอาชมพูเมืองเพชรมาฝากค่ะ


มนตร์ 4 บท เป็นสิ่งที่น่ายินดี...มีคุณค่า

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท