ผู้เขียนนำเรื่องเล่าของ คุณ กุลธิดา จันทรานุสรณ์ เขียนเล่าเรื่องส่งมาที่ ศจย.และได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการให้นำเสนอในเวทีการแลกเปลี่ยนความรู้ ในการประชุมบุหรี่กับสุขภาพแห่งชาติครั้งที่ 11วันที่ 16-17 สิงหาคม พ.ศ.2555 ผู้เขียนจึงนำมาเล่าโดยย่อ เพื่อเสริมกำลังใจคนทำงานเลิกบุหรี่และเหล้า
คุณ กุลธิดา จันทรานุสรณ์ [email protected]
เป็นพยาบาลวิชาชีพชำนาญการ โรงพยาบาลป่าบอน จังหวัดพัทลุง เล่าประสบการณ์การทำงานใน รพ.ป่าบอน เรื่องมีอยู่ว่า ..
“อ้อ พี่แบนนะเหรอ อยู่ไม่ไกลจากรพ.นี่เอง ได้ข่าวว่าแกกลับมาเหมือนเดิมอีกแล้ว
ชักมาอีกแล้ว”
“นะพี่ พี่ มาเยี่ยมเร็ว ตอนนี้อยู่ที่ตึกนะ”
“พี่แบนที่ติดเหล้าและบุหรี่นะเหรอ ที่มาบำบัดที่รพ.กับพี่เหรอ
เออ ไปเยี่ยมซิ ดีแล้ว ไม่ได้เยี่ยมตั้งนาน”
ถ้อยคำเหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่เราได้ยินจากบุคลากร รพ.ป่าบอน
โดยเฉพาะตึกผู้ป่วยใน ที่ล้วนต่างก็รู้จักพี่แบนเป็นอย่างดี
พี่แบนจะสูบบุหรี่ทั้งยาเส้นและดื่มเหล้ามา 30 ปีแล้ว จะสูบบุหรี่แบบมวนเองและบุหรี่มวนขาววันละ 30 มวน ยิ่งวันไหนเมาหนัก กินเหล้าเยอะก็จะสูบมาก เพราะช่วยให้ไม่เมามากเกินไปตามที่พี่แบนเคยเล่าให้ฟัง แต่ทุกครั้งที่เจอพี่แบนก็ไม่เคยเห็นไม่เมาสักครั้ง บางครั้งเมามากถึงขนาดเดินสายไปทั่วตำบล นอนข้างทางไม่ยอมกลับบ้าน พี่แบนเองเคยคิดที่จะเลิกบุหรี่และเหล้าหลายครั้ง ทั้งพยายามเลิกด้วยตนเอง หรือแม้แต่ไปบำบัดที่รพ.ประจำจังหวัด แต่ไม่เคยสำเร็จ
“อยากให้พี่แบนเลิกบุหรี่และเหล้าจริงๆ นะ”
เป็นคำพูดที่ยังคงก้องอยู่ในใจของเราเป็นแรงบันดาลใจว่าในอนาคต เราจะเป็นบุคลากรทางการแพทย์ที่ดี ช่วยเหลือผู้คนไม่ให้ตกเป็นทาสของยาเสพติดทั้งบุหรี่และเหล้าแบบพี่แบนอีก
บทเรียนที่เรียนรู้สำหรับตัวดิฉันเองคือการช่วยเหลือใครซักคนด้วยความจริงใจ เต็มใจ แม้ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยก็ตามแต่การทำให้เขาได้มีความหวัง ไม่ทำลายความหวังของเขาแล้ว สิ่งที่เราได้รับตอบแทนกลับมาแค่คำขอบคุณ ทั้งสีหน้า ท่าทางแล้ว เราจะรู้สึกเป็นสุขและอิ่มใจ และมีพลังที่จะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ต่อไป
ขอให้ทุกคน มีความสุขในการทำงานนะคะ
ถอดความโดย รติกร เพมบริดจ์ ([email protected])
5 มี.ค. 57
ใช่ค่ะคุณเพชรน้ำหนึ่ง
ต้องช่วยกันรณรงค์เผยแพร่สื่อต่างๆ ช่วยลดทาสอย่างพี่แบนให้ได้มากที่สุดค่ะ
ขอบคุณค่ะ