เส้นทางสู่ฝัน... ที่ฉันไม่ได้เลือก ภาค 1 @วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีลำพูน


ฉันมิได้หวังให้เธอเรียนได้ที่หนึ่ีง เพียงให้เธอเรียนและใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้ และเรียนรู้รากเหง้าของตัวเองว่าก่อกำเนิดมาจากเกษตรกร เธอไม่รังเกียจอาชีพที่เป็นเส้นเลือดหล่อเลี้ยงชีวิตคนทั้งประเทศ และทั่วโลก ฉันก็พอใจ และฉันก็เชื่อว่าที่นี่จะสร้างให้เธอเป็นนักคิด นักค้น ทางด้านการเกษตรที่ไม่แพ้ที่ใดแน่นอน เพราะที่นี่คือที่เดียวในประเทศไทยที่ผลิตนักเกษตรฐานวิทยาศาสตร์

เมื่อปีที่แล้วกลางเดือนกุมภาพันธ์..ช่วงผลัดเปลี่ยนผ่านฤดูหนาวสู่ฤดูร้อน  เด็กนักเรียนวัยรุ่นชายหญิงหลายคนที่กำลังจะจบการศึกษาระดับชั้น ม.3  จากโรงเรียนทาเหนือวิทยา  กำลังอยู่ในช่วงของการตัดสินใจครั้งสำคัญเพื่อหาสถานที่เรียน  บางคนเลือกที่จะไปเรียนต่อสายสามัญ ม.4 – 5 – 6 บางคนก็เลือกที่จะเรียนต่อวิทยาลัยอาชีวะ (สายอาชีพ)  และบางคนก็เลือกที่จะช่วยพ่อแม่สานต่องานเกษตรของครอบครัวควบคู่กับการเรียนต่อ กศน.

 

หนึ่งในเด็กกลุ่มนี้มีหลานสาวคนโต วัยสิบห้าหยกๆ ของฉันรวมอยู่ด้วย  เธอบอกกับฉันผ่านแววตาอันมุ่งมั่น และแน่วแน่ ในขณะที่ใบหน้าเธอแสดงความกังวนนิดๆ ว่า "น้าหนูยากเรียนบัญชี............." เธอบอกพร้อมเอ่ยชื่อสถานบันแห่งหนึ่งในตัวเมืองเชียงใหม่ พร้อมกับให้เหตุผลว่า “หนูชอบวิชาคำนวณ หนูคิดว่าการเรียนบัญชีสามารถหางานทำได้ง่าย และเป็นโรงเรียนไม่ไกลบ้าน”  ฉันยอมรับว่าชั่วโมงนั้นฉันเห็นด้วยที่หลานสาวฉันจะเรียนบัญชี  แต่ฉันก็อดคิดไม่ได้ว่าถ้าต้องเข้าไปเรียนในเมืองใครจะดูแลหลานสาวฉัน ไหนจะค่าเทอม ค่าหอพัก ค่าอยู่ ค่ากิน สารพัด ล้วนต้องใช้เงินทั้งสิ้น

 

ฉันเก็บความคิดนั้นไว้ไม่กล้าบอกหลานสาวตรงๆ บอกแต่เพียงว่าให้คิดให้ดีก่อน อาจมีที่เรียนที่อื่นที่ดี ใกล้บ้าน และเสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการเข้าไปเรียนในเมืองก็ได้  พร้อมกับฉันได้เสนอให้หลานสาวพิจารณา โรงเรียนฐานวิทยาศาสตร์ ระดับชั้น ปวช. สาขาเทคโนโลยีชีวภาพการเกษตร ซึ่งวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีลำพูน  http://www.lcat.ac.th/scencebased/index.htm กำลังเปิดรับสมัครนักศึกษาใหม่อยู่พอดี ซึ่งเป็นหลักสูตรที่ครอบคลุมทั้งการเรียนการสอนสายวิทย์ - คณิต ตามแบบสามัญ และครอบคลุมการเรียนการสอนในระดับ ปวช. ของสายอาชีวะ โดยมีที่พัก อาหาร และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ พอควรให้แก่เด็กที่เข้าเรียน

 

ยังไม่ทันที่ฉันจะบรรยายสรรพคุณของหลักสูตรนี้ได้ครบ หลานสาวฉันก็ปฏิเสธฉันเสียแล้วโดยเธอบอกว่า “หนูไม่ชอบวิทยาศาสตร์ และไม่ถนัดการเรียนเกษตร”  พร้อมกับให้เหตุผลเพิ่มเติมเพื่อให้ฉันเชื่อว่าเธอไม่ชอบและไม่ถนัดในวิชานี้จริงๆ อีกว่า “ที่โรงเรียนเก่าไม่มีครูวิทยศาสตร์ และช่วงที่เรียน ม.3 หนูต้องทำกิจกรรมเพื่อประเมินโรงเรียนในฝัน จนหนูแทบไม่ได้เรียนวิทยาศาสตร์”   เราคุยเรื่องนี้กันอยู่หลายครั้งฉันพยายามอธิบายเหตุผลให้เธอฟังโดยการชักแม่น้ำทั้งห้า โดยเฉพาะให้เหตุผลว่า “คณิตศาสตร์กับวิทยาศาสตร์นั้นมีพื้นฐานและรากเหง้ามาด้วยกัน เมื่อหนูชอบคณิต ก็ไม่น่าจะยากที่จะชอบวิทยาศาสตร์ ที่สำคัญน้าเชื่อว่าหนูเรียนได้หากหนูตั้งใจจริง” ฉันพูดจนเธอยอมเปลี่ยนใจจาก ปวช.บัญชี มาเป็น ปวช.เกษตร และได้รับการคัดเลือกให้เข้าเรียน ณ สถาบันแห่งนี้ตามความประสงค์ของฉัน

 

ที่จริงแล้วเหตุผลที่แท้จริงขอฉันส่วนหนึ่งก็เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายให้พ่อแม่ของหลานสาว  ซึ่งมีอาชีพเกษตรกรที่มีรายได้เพียงน้องนิดต่อเดือน  ซึ่งฉันเชื่อแน่ว่าหากหลานสาวฉันไปเรียนโรงเรียนพาณิชย์ในเมือง และต้องไปเช่าหอพักอยู่มันจะสร้างภาระอันหนักอึ้งให้กับพ่อแม่เขา และยิ่งไปกว่านั้นมันจะยากต่อการควบคุม แม้จะเชื่ออยู่ในใจลึกๆ ว่าเขาจะไม่ทำตัวนอกลู่นอกทางก็ตาม แต่การตัดไฟเสียแต่ต้นลม ก็ยังดีกว่ามาล้อมคอกตอนวัวหาย

 

เมื่อรู้ว่าหลานสาวฉันมีที่เรียนที่ไม่ไกลจากบ้านมากนักฉันก็สบายใจ  แม้จะกังวลอยู่บ้างว่าเธอจะปรับตัวได้ไหมกับสถานศึกษาใหม่ และการเรียนการสอนแบบฐานวิทยาศาสตร์ เพราะจากการบอกเล่าของหลานชายคนโต (เรียนที่นี่มาก่อน) บอกว่า “ฐานวิทย์ฯ จะเรียนหนักมาก” แต่ฉันก็ให้กำลังใจและบอกให้เธอสู้ ซึ่งไม่แน่อนาคตอาจมีโอกาสได้เข้าเฝ้าสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี  สักวันในภายภาคหน้าก็ได้

 

หลานสาวฉันเข้าเรียนที่นี่ได้ไม่ถึงสองเดือน  ฉันก็ได้รับข่าวร้ายเมื่ออยู่ๆ เธอบอกกับฉันว่าเธอปวดหัวเป็นไข้ ฉันก็แนะนำให้เธอหายากินและพักผ่อนเยอะๆ แต่เพียงวันรุ่งเธอก็โทรศัพท์มาบอกฉันว่า “หนูหลับตาไม่ได้น้า ปากหนูก็เบี้ยว” น้ำเสียงเธอเหมือนกับจะร้องไห้ ฉันและญาติตกใจมาก ว่านี่หลานสาวคนโตฉันเป็นไรกันแน่

 

ฉันรีบขับรถไปรับเธอ และพาเธอไปหาหมอทันทีโดยไม่รอช้า จากการตรวจอาการแพทย์วินิจฉัยว่า หลานสาวฉันป่วยเป็นโรค Bell's palsy ซึ่งเป็นลักษณะอาการของกล้ามเนื้อใบหน้าข้างหนึ่งอ่อนแรง เพราะเส้นประสาทคู่ที่เจ็ดอักเสบ โดยมีสาเหตุมารจากการติดเชื้อไวรัสซึ่งมีอยู่หลายชนิด ในช่วงที่ร่างกายอ่อนแอ แต่ไม่ต้องกังวลเพราะโรคนี้จะหายเองได้ แต่เพื่อให้เป็นการกระตุ้นให้หายไวขึ้น เหมาะจึงให้พาหลานสาวมาทำกายภาพบำบัดทุกวันจันทร์ – ศุกร์ เอาแล้วซิ.. “แล้วหลานฉันจะต้องเรียนด้วย จะเรียนทันเพื่อนไหมนี่” ฉันคิดพร้อมกับกังวลไม่น้อย

 

อาการป่วยครั้งนั้นของหลานสาวครั้งนั้นทุกคนที่บ้านรวมทั้งญาติๆ มีความวิตกเป็นอย่างมาก  โดยเฉพาะฉันที่เป็นคนผลักใสให้หลานสาวฉันก้าวไปสู่สิ่งที่เธอไม่ชอบ หากวันนั้นเธอเป็นไรไปหรือรักษาไม่หาย ต้องปากเบี้ยวไปตลอดชีวิต  ฉันคงจะไม่ให้อภัยตัวเอง และเสียใจไปตลอดชีวิต

 

หลานสาวฉันได้รับอนุญาตจากทางโรงเรียนให้กลับมาพักฟื้นที่บ้านจนกว่าอาการจะดีขึ้น เราทำทุกวีถีทางทั้งทำพิธีเรียกขวัญ (ตามประเพณีความเชื่อของคนกะเหรี่ยง) ควบคู่ไปกับการรับประทานยา และไปทำกายภาพบำบัดตามที่แพทย์นัดเพื่อให้เธอกลับมาเป็นเหมือนเดิม จนผ่านไปหนึ่งอาทิตย์อาการเธอเริ่มดีขึ้น และกลับไปเรียนได้ตามปกติ และจากนั้นอาการของเธอก็ค่อยๆ ดีขึ้นเป็นระยะ จนหายเป็นปกติโดยใช้เวลาเกือบสองเดือน

 

เมื่อผลการสอบเทอมแรกออกมาเธอทำได้ดีเกินคาด จนฉันแทบไม่เชื่อว่าเธอเคยป่วย และบอกกับฉันตลอดว่า “หนูเหนื่อยอะน้า.. หนูเรียนคณิต เคมี ฟิสิกส์ ชีวะ ไม่รู้เรื่องเลย”  แต่เธอก็ทำให้ฉันและใครๆ ทึ่งไปกับเธอเมื่อเธอได้ำเกรดเฉลี่ย 3.8 และอยู่ระดับต้นๆ ของเพื่อนร่วมชั้นเรียนทีเดียว และสิ่งที่เธอภูมิใจที่สุดและปลื้มอย่างมากคือ เธอได้รางวัลจากคุณครูท่านหนึ่ง (เธอพูดถึงอยู่บ่อยๆ) เป็นตุ๊กตาโดราเอมอน สีฟ้าตัวเขื่อง 1 ตัว เพราะเป็นตุ๊กตาที่เธอชอบ ไม่แพ้ไปกว่ามิกกี้เม้าส์ "ตุ๊กตาจากครูอ้อม" เสียเธอบอกและอวดกับฉัน...

การดำเนินชีวิตของเธอ ณ วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีลำพูน  ดำเนินไปอย่างเรื่อยๆ มันอาจเหนื่อยบ้าง ทุกข์บ้าง   สุขบ้าง  ฉันมิได้หวังให้เธอเรียนได้ที่หนึ่ีง เพียงให้เธอเรียนและใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้ และเรียนรู้รากเหง้าของตัวเองว่าก่อกำเนิดมาจากเกษตรกร เธอไม่รังเกียจอาชีพที่เป็นเส้นเลือดหล่อเลี้ยงชีวิตคนทั้งประเทศ และทั่วโลก ฉันก็พอใจ และฉันก็เชื่อว่าที่นี่จะสร้างให้เธอเป็นนักคิด นักค้น ทางด้านการเกษตรที่ไม่แพ้ที่ใดแน่นอน เพราะที่นี่คือที่เดียวในประเทศไทยที่ผลิตนักเกษตรฐานวิทยาศาสตร์



**ปล. 1. ขอขอบคุณคุณหมอ  และนักกายภาพบำบัด รพ.แม่ทา ที่ช่วยกันดูแลรักษาและให้คำแนะนำจนหลานสาวผมกลับมาหายเป็นปกติ
         2. ขอขอบพระคุณอาจารย์และบุคลากร วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีลำพูนทุกท่าน ที่คอยดูแล และให้กำลังใจหลานสาวผมเป็นอย่างดี

         3. ขอบคุณพี่ๆ เพื่อนๆ เกษตรฐานวิทย์ทุกคนที่ให้คอยช่วยเหลือและแนะนำหลานสาวผม

         4. เพื่อนที่บ้าน (โรงเรียนเก่า) ที่คอยให้กำลังใจ และมาเยียมเยียนอย่างไม่ขาดสาย

*** ติดตาม เส้นทางสู่ฝัน... ที่ฉันไม่ได้เลือก ภาค 2 @วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีลำพูน ในอีกไม่ช้า...

หมายเลขบันทึก: 563075เขียนเมื่อ 2 มีนาคม 2014 18:53 น. ()แก้ไขเมื่อ 3 มีนาคม 2014 09:09 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

-สวัสดีครับ

-ตามมาให้กำลังใจครับ

-หลานสาวของผมก็เรียนที่นี่..ครับ

-ฐานวิทยาศาสตร์..เช่นกันครับ

-เดี๋ยวตามไปอ่านต่อในบันทึกหน้าครับ..

ขอบคุณ คุณเพชรน้ำหนึ่ง เป็นอย่างมากครับ
- ยินดีครับที่หลานสาวผมเรียนที่เดียวกับท่าน แถมเรียนฐานวิทย์เหมือนกันด้วยครับ
- ด้วยความยินดีครับ.. ที่มีคนรอตามอ่าน.. อิอิ ภูมิใจไม่น้อยที่มีแฟนคลับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท