มีหลายเทคนิคในการพัฒนาทักษะศตวรรษที่21 ให้เกิดกับเยาวชน ที่นิยมมากที่สุดการจัดการเรียนรู้บนสภาพปัญหา(PBL) เท่าที่ประสบการณ์ในการจัดการเรียนรู้บนสภาพปัญหา(PBL)พบว่า
คุณครูส่วนมากหนักใจว่า PBL มีขั้นตอนอย่างไร มีรูปแบบอย่างไรทำไม่ทุกขั้นตอนผิดไหม วิชาศิลปะทำได้อย่างไร คณิตศาสตร์ทำได้อย่างไร ทำชั่วโมงเดียวได้ไหม หนึ่งอาทิตย์ได้ไหม ที่สำคัญมีให้ลอกไหม (ฮา) ฯลฯ
กระบวนการละครเป็นอีกเทคนิคหนึ่งที่เสนอให้คุณครูนำไปใช้(โดยเฉพาะในการจัดการเรียนรู้ในรายวิชาค้นคว้าอิสระ)
ละครกับการเรียนที่ไม่จำกัดในห้องสี่เหลี่ยม จากฉาก5ฉาก คือสาเหตุ จุดขัดแย้ง จุดจบ(ผล) จะทำอย่างไร และภาพฝันที่ต้องการ มันตอบโจษทักษะศตวรรษที่21ได้แล้วค่ะ โดยไม่ต้องนั่งสอนในห้องสี่เหลี่ยม
ละครจะนำความเชื่อ(นิทานพื้นบ้าน)มาเป็นโครงเรื่อง เพราะนิทานมีเส้นเรื่องที่ชัดเจนและเป็นที่จดจำของคนส่วนใหญ่ มีโครงเรื่องชัดเจนอยุ่แล้ว และนิทานที่ใกล้ชิดกับคนในท้องถิ่นนั้นๆ จะช่วยให้เข้าใจเรื่องนั้นได้ง่าย แล้วนำประเด็นที่ต้องการสื่อสารไปสอดแทรกไว้
แต่สำหรับพวกเรา(กลุ่มฮักนะเชียงยืน)เด็กๆ บอกว่าชีวิตจริงของพวกเขามาเลยการเรียนรู้จากปัญหาในชีวิตพวกเขาถูกหยิบขึ้นมาถกถียง ถูกถ่ายทอดออกมาเป็นบทละคร
ฉากแรก เป็นการแสดงถึงวิถีชีวิตวัฒนธรรมที่ดีงามและความอุดมสมบูรณ์ของชุมชน วิถีชีวิตเริ่มเปลี่ยนเมื่อนายทุน(เกษตรระบบพันธะสัญญา)เข้ามาวิถีชีวิตเริ่มเปลี่ยนชุมชนเริ่มใช้สารเคมีในการเพาะปลูก แต่ก็ยังมีเกษตรกรบางส่วนใช้นำ้หมัก ปุ๋ยหมัก เด็กๆต้องลงงานช่วยผู้ปกครองไม่ได้หลับนอนเต็มที่ ความรำ่รวยเริ่มเข้ามา ลูกหลานมีโทรศัพท์มีมอเตอร์ไซด์ มีรถยนต์ขับ ทำให้ต้องทำงานหนักมากขึ้นคลุกคลี่กับสารเคมีมากขึ้นตามลำดับ สิ่งที่ชาวบ้านลืมคือหนี้สินตามมา
ฉากสอง ความขัดแย้งเริ่มเกิดขึ้นเมื่อผลจากสารเคมีเริ่มปรากฎผิวหนังเป็นผดผื่นคัน เล็บดำ ชาวบ้านรู้ เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น แต่หนี้สินที่มากตามมาจึงไม่สามารถเลิกได้
ฉากสาม ผลจากการใช้สารเคมีปรากฏชัดเจน ผลการตรวจเลือด ผลการตรวจดิน อัตราการเจ็บป่วย และตายเริ่มเร็วขึ้น(50ปีเริ่มแล้ว)โรดเบเหวาน มะเร็ง มากขึ้น
ฉากสี่ จะทำอย่างไร เกษตรอินทรี เป็นสิ่งที่เด็กกลุ่มนี้เสนอให้เป็นทางเลือก
ฉากห้า ภาพฝันที่ต้องการคือต้องการให้มีตลาดเขียวเกิดขึ้น
เมื่อบทละครเรียบร้อย พวกเขาเริ่มซ้อมและเริ่มเร่ในชุมชน ครั้งสุดท้ายแสดงที่หมู่บ้านเขาเอง พ่อ แม่ ตา ยาย มานั่งดูละครที่สะท้อนชีวตจริงๆ ไม่ต้องบอกว่าบรรยากาศเป็นอย่างไร น้ำตาไหลกันทั้งนั้น วันที่พวกเขาแสดงรอบสุดท้ายและเปิดเวทีเสวนาโดยมีเกษตรอำเภอ พยาบาล นักเกษตรอินทรี นักวิชาการจาก มมส. ร่วมเปิดประเด็น เป็นเวทีเสวนาที่เล็กๆผู้คนไม่มาก แต่ยิ่งใหญ่ ทรงพลัง ที่นี่ ,ที่นี้ ,ที่นี้,ที่นี้,ที่นี้,ที่นี้,ที่นี้และที่นี้ มาช่วยกันลุ้นว่าความภาพฝันและความฝันของพวกเขาจะเป็นจริงได้ไหม
เกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา
- ทักษะที่ได้คือพวกเขาได้ฝึกทักษะการสื่อสาร ฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์ ฝึกทักษะการแก้ปัญหา
-พวกเขาได้เรียนรู้วิธีในการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข บนความคิดเห็นต่าง
- ความรู้ที่ได้ในครั้งนี้จะติดตัวไปโดยไม่มีวันลืม โดยที่ครูไม่ต้องบอกว่า เอ้าจดนะ เอ้าเขียนนะ ความรู้ที่คนเรียนอ่อนหรือเก่งได้เรียนได้เท่ากัน
- ที่สำคัญเราได้ผู้นำในชุมชนที่กล้าคิด กล้าทำ และมีคุณธรรม
นี้คือ ผลผลิต
คุ้มเกินที่นั่งบอกนั่งสอนในห้องสี่เหลี่ยม
.... เห็นกลุ่ม รวมกันแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เข้มแข็งดีนะคะ ดีใจด้วยค่ะ
ละคร ๕ ฉาก
ไม่รู้ถูกผิด...ฮา
นำชีวิตจริงมาเล่นเป็นละคร เล่นละครสะท้อนชีวิตจริง
ทำเล่น แต่เป็นจริง
เรียน แบบไม่ได้เรียน แต่ได้เรียนรู้
ขอชื่นชมครับ