"พี่หนาน"
นาย พรพจน์ พี่หนาน เรียงประพัฒน์

โครงการพัฒนาเชิงวัฒนธรรมของรัฐบาล


๗/๐๒/๒๕๕๗

**************

โครงการพัฒนาเชิงวัฒนธรรมของรัฐบาล

          เมื่อวาน ๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ มีโอกาสดีได้รับเกียรติจากกำนันตำบลบ่อทองมอบหมายให้เป็นตัวแทนของหมู่บ้าน เพื่อไปเข้าร่วมแสดงความเห็นหรือประชาคมกับ คณะเจ้าหน้าที่ของวัฒนธรรมจังหวัดและวัฒนธรรมอำเภอ ก็ดีใจมากที่ได้ทำหน้าที่แทนตรงนี้ ได้รับทราบนโยบายโดยย่อ และแนวทางการดำเนินงานของวัฒนธรรมทั่วประเทศ ที่เทศบาลทองแสนขัน แต่ระยะเวลาที่ใช้อาจจะดูน้อยไปหน่อย ชอบใจตรงที่แนวทางการดำเนินการนั้น ตรงกับแนวคิดทิฏฐธัมมิกัตถประโยชน์ของทางพุทธศาสนา ในข้อแรกคือ อุฏฐานสัมปทา  การถึงพร้อมด้วยความขยัน หมั่นเพียร สร้างงาน หางานทำ ไม่ขี้เกียจ โดยมองจากฐานของชุมชน ว่าในชุมชนมีสิ่งใดขาด เหลือ จุดเด่น ที่ควรจะยกย่องขึ้นมาเชิดหน้าชูตาได้อย่างสง่าผ่าเผยได้บ้าง  

          ความจริงผมเคยเขียนความตั้งใจเกี่ยวกับการพัฒนาชนบทของไทยตามแนวทางเศรษฐกิจเชิงพุทธไว้เมื่อ ๑๐/๐๕/๒๕๕๔  ตามที่ลงบันทึกไว้ และได้กล่าวไว้ว่าวัฒนธรรมนั้นสามารถสร้างเป็นจุดขายได้ และอยากเห็นรัฐบาลไทยมีแนวนโยบายในทำนองนี้เกิดขึ้นบ้าง  ตรงนี้  

และตอนนี้ก็เริ่มเห็นแล้ว โดยการนำร่องทำงานของกระทรวงวัฒนธรรม เป็นที่น่าภาคภูมิใจกับแนวทางการปรับแผนการพัฒนาของกระทรวงวัฒนธรรมที่มุ่งให้เป็นกระทรวงสังคมกึ่งเศรษฐกิจ โดยมีกรอบการขับเคลื่อนวัฒนธรรมใน ๓ มิติ คือ “สืบสาน สร้างสรรค์ บูรณาการ” โดยจัดทำเป็นโครงการรากวัฒนธรรม “ของดีบ้านฉัน” ขึ้นมาตาม  เอกสารนี้

         ความจริงก็ไม่ค่อยจะมีความแตกต่างจากการหาสินค้าโอท็อปสักเท่าไหร่เหมือนกัน แต่สิ่งที่ใฝ่ฝันหรือปรารถนาอยากจะเห็นหรืออยากได้เพิ่มมากกว่านี้ก็คือ  การที่รัฐจะต้องเพิ่มประเด็น  ลดรายจ่าย  ขยายโอกาส  อย่าขาดสติ ให้ได้ครบทั้งสี่ขั้นเมื่อขายวัฒนธรรมได้แล้ว  ต่อไปจะเก็บออมเงินจากการขายอย่างไร  ใช้จ่ายอย่างไร  ขยายโอกาสอย่างไร และ สอนหรือแนะวิธีอย่างไรที่จะไม่ให้คนที่ทำโครงการดังกล่าวในชุมชน "ขาดสติ” หรือประมาท  อยากให้รัฐบาลดำเนินการให้ครบทั้งระบบ  หากเรามีความเชื่อในหลักเศรษฐกิจเชิงพุทธ  เราก็ต้องทำทั้งระบบหรือให้ครบทั้ง ๔ ประการ พร้อมกับนำแนวคิดหรือหลักวิชาการต่าง ๆ เข้ามาเสริมด้วยอย่างเหมาะสม ลงตัว   ถ้าไม่ครบแล้วก็คงไม่สมบูรณ์ดั่งที่พระพุทธองค์มีพระประสงค์ไว้  ต้องดำเนินการทั้ง ๔ ด้านไปพร้อมๆ กัน จึงจะก่อให้เกิดความยั่งยืนยาวนาน...ตลอดไป

หมายเลขบันทึก: 561184เขียนเมื่อ 7 กุมภาพันธ์ 2014 14:16 น. ()แก้ไขเมื่อ 8 กุมภาพันธ์ 2014 18:19 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

สวัสดีค่ะ ดีใจด้วยนะคะที่รับหน้าที่สำคัญเรื่องวัฒนธรรม ขอฝากบางสิ่งบางอย่างให้พิจารณาด้วยนะคะ

สำหรับ กรอบการขับเคลื่อนวัฒนธรรมใน ๓ มิติ คือ “สืบสาน สร้างสรรค์ บูรณาการ” โดยจัดทำเป็นโครงการรากวัฒนธรรม “ของดีบ้านฉัน” นั้น ขอให้มีการสืบสานแบบอนุรักษ์ และอย่าสร้างสรรค์จนเกินงาม หมายความว่าให้คงความดั้งเดิมไว้ให้มากที่สุด ต้องออกตัวก่อนว่าตนเองไม่ใช่พวกอนุรักษ์นิยมสุดโต่งล้าหลังในการพัฒนา อาจตรงกันข้ามแบบสุดโต่งด้วยซ้ำ ในแง่วัฒนธรรมความดั้งเดิมไม่ใช่ความล้าหลัง มันเป็นปัจจุบันอยู่เสมอ และน่าสนใจ น่าภาคภูมิเสมอ การเห็นมันเปลี่ยนไปยิ่งมากเท่าใดก็ยิ่งเจ็บปวดและอับอายเท่านั้น ขอยกบางตัวอย่างที่เห็นในเชียงใหม่ เมื่อพาแขกต่างเมืองหรือต่างชาติไปรับรองโดยเลี้ยงขันโตกที่ร้านใหญ่มีชื่อ 2-3 แห่งมากกว่า 20 ปีที่ผ่านมา รู้ถึงความแตกต่าง เมื่อก่อนนี้ทั้งอาหารและการแสดงน่าประทับใจในฐานะที่ตนเองก็มาจากต่างถิ่น แต่เมื่อเวลาผ่านไปมันค่อย ๆเปลี่ยนไป สุกเอาเผากิน การแต่งกายก็พิลึกพิลั่นรุงรัง การสดงก็ไม่ประณึตสวยงาม รีบ ๆโกยรีบ ๆจบ แขกก็ไม่เคยออกปากชมในระยะหลัง ๆนี่ ใคร ๆก็อยากเห็น อยากลิ้มลองของแท้ของดั้งเดิมทั้งนั้น บางครั้งอยากปิดตาดู นอกจากไม่สวยงามน่าดูแล้วความรู้สึกยังบอกว่าน่าเกลียด ไม่ใช่เราคนเดียวที่คิด-รู้สึก คุยกับใคร ๆก็สอดคล้องกัน อนาคตวัฒนธรรมแบบนี้อาจขายไม่ได้ ควรรณรงค์กับพวกนายทุนด้วย ขอสั้น ๆเท่านี้ก่อน ความจริงสามารถเขียนได้หลายหน้าเลยค่ะ เกรงใจคนอ่าน เท่านี้ก็มี implication ไปสู่ทุกเรื่องของวัฒนธรรมค่ะ

ขอบคุณของดีบ้านฉัน ... 8 วิถีไทยค่ะ

ขอบคุณที่ได้แนวคิดดีๆ เรื่องวัฒนธรรม หาชาติใดในโลกจะทัดเทียม เสียดายแต่รัฐบาลเรายังใฝ่แต่"ประชานิยม"

ขอขอบคุณสมาชิก ครู อาจารย์ ทุกท่านที่ได้ให้กำลังใจมา ณ ที่นี้มากนะครับ

สมาน เขียว
Dr. Ple
GD
ธีระวุฒิ ศรีมังคละ
อัญชัญ ครุฑแก้ว

ขอบคุณอาจารย์ GD.ที่แสดงความคิดเห็นร่วม ได้อย่างละเอียดดีทีเดียว ผมเข้าใจที่อาจารย์ฝากความเป็นห่วงมา หากมีโอกาสได้คุยกับเจ้าหน้าที่วัฒนธรรมจังหวัด จะลองถ่ายทอดความเป็นห่วงนี้ "...สืบสานแบบอนุรักษ์ และอย่าสร้างสรรค์จนเกินงาม..." อีกทีหนึ่งนะครับ...โดยส่วนตัวผมแล้วก็คงช่วยอะไรไม่ได้มากหรอกครับ...เพราะไม่ได้รับการแต่งตั้งหรือมีหน้าที่ตรงนี้อย่างเป็นทางการ...เพียงแต่มาฟังแทนคณะกรรมการหมู่บ้านบางท่านที่ติดธุระเท่านั้น...ในหมู่บ้านเองก็ยังไม่ได้รับกระแสนี้สักเท่าไหร่ เพราะไม่เห็นบุคคลที่ทำหน้าที่โดยตรงไปเข้าร่วมประชาคมกับเขาเลย...ไม่แน่ใจว่ามีการประสานงานกันอย่างไร...

อาจารย์เคยดูรายการ คนไทยขั้นเทพ ไหมครับ อยากให้ลองดูการแสดงของภาคเหนือดูบ้างนะครับว่า เป็นเหมือนดั่งที่อาจารย์ต้องการหรือว่าเป็นห่วงบ้างหรือเปล่า?...ขอบคุณอีกครั้งนะครับ

ขอบคุณ อ.Dr.Ple ที่ให้กำลังใจแสดงความเห็นร่วมด้วยตลอดมา อีกท่านมากครับ

ขอบคุณอาจารย์สมาน เขียว อีกท่านนะครับที่ให้ความเห็นร่วม เห็นด้วยครับว่าไทยมีวัฒนธรรมที่ดีงามยากจะหาชาติใดในโลกทัดเทียมได้ หากสร้างให้เข้มแข็งก็สามารถสร้างเสริมการท่องเที่ยวได้อีกมากเลยทีเดียว...ขอบคุณอาจารย์มากครับในหลายๆ เรื่องที่ให้ความเห็นมา

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท