Synchronous และ Asynchronous คือ


Synchronous คืออะไร        
        การซิงโครโครไนซ์บิตและการซิงโครไนซ์บล็อก
        เมื่อสัญญาณข้อมูลถูกส่งผ่านไปตามสายส่งสัญาญาณ  เข้าสู่  DTE  ปลายทาง  สิ่งที่สำคัญก่อนอื่นก็คือ
อุปกรณ์ปลายทางจะต้องสามารถสัญญาณไบนารีหรือบิตซึ่งเป็นสัญญาณพื้นฐานที่สุดนี้ให้ได้อย่างถูกต้องตาม
จังหวะที่ส่งมา เสียก่อน  การที่อุปกรณ์ปลายทางสามารถรับส่งอุปกรณืไบนารีได้ถูกต้องตามจัหวะนี้เรียกว่า  การ
ซิงโครไนซ์บิต
       เมื่ออุปกรณ์ปลายทางสามารถรับส่งบิตต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้องแล้ว  อุปกรณ์ปลายทางก็ยังจำเป็นต้องรู้ว่าสัญญาณที่รับมานั้น  สำหรับสหัสแต่ละตัวมีการเริ่มต้นและสิ้นสุดที่ใหนเรียกว่าการซิงโครไนซ์บล็อก
       วิธีง่าย ๆ ที่จะทำให้มีการซิงโครไนซ์บิต และการซิงโครไนซ์บล็อกนั้น  ทำได้โดยการส่งสัญญาณไทมิ่งไปยังสายอีกเส้นหนึ่งขนานไปกับสายที่ส่งสัญญาณข้อมูล  แต่วิธีนี้จะไม่สามารถทำได้กรณีที่ติดต่อกัน  เป็นระยะไกล ๆ เพระค่าใช้จ่ายสูงมาก



Asynchronous คืออะไร    
         โดยทั่วไป asynchronous (ออกเสียง ay-SIHN-kro-nuhs จากภาษากรีก asyn- หมายถึง ไม่ และ chronos, หมายถึง เวลา) เป็นคุณศัพท์อธิบายวัตถุหรือเหตุการณ์ที่ไม่มีพิกัดด้านเวลา ในเทคโนโลยีสารสนเทศ ศัพท์นี้มีการใช้หลายความหมาย
           1) ในสัญญาณการสื่อสารภายในเครือข่าย หรือระหว่างเครือข่าย สัญญาณ asynchronous เป็นหนึ่งที่ส่งผ่านตามอัตรานาฬิกาต่างจากอีกสัญญาณ (สัญญาณ plesiochronous เกือบทั้งหมด แต่ไม่ synchronization และวิธีนี้ได้รับการปรับปรุงตัว และสัญญาณ synchronous ทำงานในอัตรานาฬิกาเดียวกัน
           2) ในโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ปฏิบัติการ asynchronous หมายถึง กระบวนการปฏิบัติงานอย่างอิสระของอีกกระบวนการ ขณะที่ ปฏิบัติการ synchronous หมายถึง กระบวนการทำงานเฉพาะผลลัพธ์ของอีกกระบวนการที่เสร็จสิ้นหรือหยุดปฏิบัติการ กิจกรรมแบบแผนอาจจะใช้โปรโตคอล synchronous ที่จะส่งไฟล์จากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง แต่ละการส่งผ่านได้รับ การตอบสนองได้รับการส่งออกชี้ถึงความสำเร็จหรือต้องส่งใหม่ แต่การส่งผ่านสำเร็จของข้อมูลต้องการตอบสนองไปยังการส่งผ่านก่อนหน้านี้ก่อน อีกเริ่มต้นอีกกระบวนการ


การทำงานของ Synchronous และ Asynchronous
การส่งแบบซิงโครนัสและการส่งแบบอะซิงโครนัส
           วิธีส่งข้อมูลในทางปฏิบัตินั้น  เมื่อแบ่งตามลักษณะการซิงโครไนซ์แล้วจะแบ่งได้เป็นการส่งแบบซิงโครนัส  และการส่งแบบอะซิงโครนัส  ซึ่งทั้งสองแบบนี้จะใช้วิธีแยกสัญญาณไทมิ่งจากสัญญาณข้อมูลที่รับมา
          การส่งแบบอะซิงโครนัสซึ่งส่วนใหญ่จะใช้กับระบบที่มีการส่งข้อมูลอัตราต่ำนั้น  DTE  ทางด้านส่งเมื่อต้องการส่งสัญญาณรหัสออกไป  ก็จะจัดสัญญาณนั้นให้อยู่ในรูปอนุกรมแล้วเติมบิตเริ่มต้น  ( start bit  )  ไว้ที่ด้านหน้า  และเติมบิตสิ้ดสุด  ( stop bit )  ไว้ที่ด้านหลัง  แล้วส่งออกไปตามจัหวะของสัญญาณนาริกาทางด้านส่ง  ส่วน  DTE  ทางปลายทางนั้น  เมื่อรับบิตเริ่มต้นได้ก็จะทำการรับสัญญาณข้อมูลที่ส่งตามมา  โดยใช้จังหวะของสัญญาณนาฬิกาของสถานีตัวเอง  และจะรับสัญญาณจนกว่าจะถึงบิตสิ้นสุดแล้วจึงหยุดรับ  ดังนั้นวิธีการนี้  DTE  ก็จะทำการซิงโครไนซ์บิตและซิงโครไนซ์บล็อกพร้อมกันไป  แต่วิธีนี้จะมีปัญหา  เกิดขึ้นได้ถ้าสัญญาณรหัสที่ส่งมามีความยาวมากขึ้น  เพราะนั้นหมายถึงจังหวะสัญญาณนาฬิการทางด้านส่งและด้านรับจะ
มีโอกาศเบี่ยง เบนกันไปได้มากขึ้น  เพราะฉะนั้นจึงมักจะใช้ส่งสัญญาณรหัสเป็นหน่วยสั้น ๆ

คำสำคัญ (Tags): #Synchronous#asynchronous
หมายเลขบันทึก: 561181เขียนเมื่อ 7 กุมภาพันธ์ 2014 11:33 น. ()แก้ไขเมื่อ 7 กุมภาพันธ์ 2014 11:33 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท