ปวดหลัง...ย่อมเป็นเห็นแก่งาน


ปวดหลัง...ย่อมเป็นเห็นแก่งาน

...เมื่อเช้า ส่งลูกชายเข้าห้องน้ำก่อนเข้าโรงเรียน เผอิญเงยหน้า สายตาปะทะแม่บ้าน เลยถามไปว่า ทำงานเหนื่อยไม่... ตอบว่า ปวดหลัง ต้องนั่งพัก จะเห็นว่า ปวดหลังมีอาการมากกว่าความเหนื่อย ผมถามไปว่า... แล้วไปรักษาที่ไหน บอกว่า ไปโรงพยาบาลรัฐ แถวๆมีนบุรี กรุงเทพ แล้วหมอว่ายังไง หมอบอกเป็นกล้ามเนื้อกระดูกซี่โครงอักเสบ ถามว่า แล้วรักษายังไงแล้วทำกายภาพบำบัดมั้ย... ตอบว่า ไม่ ...หมอให้ยามากิน ยามาทา แล้วบอกว่า ให้เอากระเป๋าน้ำร้อนประคบ

...ผมบอกตัวเองว่า ทำความสะอาดห้องน้ำลูกจ้างรายวัน จะเอาเวลาไหนไปต้มน้ำร้อน บรรจุใส่กระเป๋า แล้วนอนประคบ เห็นแต่วันๆทำแต่งาน ก็เลยถามว่า แล้วได้ประคบมั้ย ไม่... ตรงตามที่ผมคิดเปะ ได้แต่กินยา ยาทา แต่หมอก็ให้ทำท่าการบริหาร ท่า สองท่า เช่น ท่ายืนตรงก้มตัวลง แล้วหงายตัวขึ้นกลับท่าเดิม ผมก็เลยเพิ่มไปว่า ท่ายืนตรงเอามือจับเอวสองข้างแล้วดันเอวไปข้างหน้า ทำยกละ นับสิบ ประมาณสามยก น่าจะบรรเทาได้บ้าง

...แล้วก็ชวนมาหาหมอแพทย์ทางเลือก หรือผู้เชี่ยวชาญแพทย์ทางเลือก(ศัพท์วิชาการ) แม่บ้านบอกว่า ไม่มีมีเวลาไป ลาไม่ได้ ถ้าไปก็ขาดงาน แล้่วต้องให้สามี ให้ลูกพาไป แล้วไปที่ไหนค่ะ ไปที่กระทรวงสาธารณสุข ในวันพฤหัสบดีที่ 13 กพ. แคราย จังหวัดนนทบุรี ยิ่งไปไม่ได้คะ ไปไม่ถูก...

...ผมก็เลยยืนคิด อาการปวดเอวจากการทำงานพอทนได้ ถ้าไม่ล้มหมอนนอนเสื่อ แต่งานหาขาดห้ามลา นั่นหมายถึงเงินเลี้ยงชีพ ได้เงินมามาซื้อข้าวกิน ได้เงินมามารักษาตนเอง ได้เงินมามาใช้จ่ายในครัวเรือน และได้เงินมาๆๆๆ ...เยอะไปหมด

มาดูอาการปวดหลัง ครับ

โรคปวดหลัง…
          ปัจจุบัน โรคปวดหลังพบได้บ่อยในหมู่ ผู้ที่มีอาชีพนั่งทำงานเป็นเวลานาน ตั้งแต่วัยรุ่น วัยทำงาน จนถึงวัยสูงอายุ สาเหตุของโรคปวดหลังในกลุ่มนี้ ส่วนใหญ่เกิดจากพฤติกรรมการนั่งนานๆ หรือนั่งผิดท่าเช่น นั่งหลังโก่ง นั่งบิดๆ เนื่องจากการนั่งเป็นการเพิ่มแรงกดดันต่อกระดูกหลังมากที่สุด โดยเฉพาะนั่งนานๆ และโค้งงอผิดท่า บวกกับความตึงเครียดซึ่งจะทำให้กล้ามเนื้อบริเวณหลังเกิดการเกร็งจะยิ่งส่งผลให้ปวดหลังมากยิ่งขึ้น
อาการปวดหลัง คือ
          - ปวดหลังแบบเฉียบพลัน อาการมักจะไม่เกิน 6 สัปดาห์
             ถ้าอาการปวดมากกว่า 12 สัปดาห์ เรียกว่า "ปวดหลังเรื้อรัง" อาการส่วนใหญ่จะรู้สึกปวดตรงกลางหลังส่วนล่าง ซึ่งอาจเกิดขึ้นเฉียบพลันหรือค่อยเป็นทีละน้อย อาการปวดอาจเป็นอยู่ตลอดเวลาหรือปวดเฉพาะในท่าบางท่า การไอ จาม หรือบิดตัว เอี้ยวตัวอาจทำให้รู้สึกปวด มากขึ้น โดยทั่วไป ผู้ป่วยจะแข็งแรงดีและไม่มีอาการผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย การรักษาโรคปวดหลังจำเป็นต้องสังเกตว่ามีสาเหตุจากอะไร ถ้าหากเกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันของเราเองก็ควรแก้ไขเสีย หากมีอาการปวดมาก ให้นอนหงายบนพื้น แล้วใช้เท้าพาดบนเก้าอี้ให้เข่างอเป็นมุมฉาก สักครู่หนึ่งก็อาจทุเลาได้ หรือจะใช้ยาหม่อง หรือน้ำมันระกำ ทานวด หรือใช้น้ำอุ่นประคบก็ได้ และหมั่นฝึกกายบริหารให้กล้ามเนื้อหลังแข็งแรง

          - ถ้าเป็นเรื้อรัง หรือมีอาการชาที่ขา หรือขาไม่มีแรง อาจเกิดจากสาเหตุอื่น ควรแนะนำผู้ป่วยไปพบผู้รู้เรื่องปวดหลัง
             ซึ่งอาจต้องเอกซเรย์หลัง หรือตรวจพิเศษอื่น ๆ และให้การรักษาตามสาเหตุที่พบ
             การป้องกันทำได้โดยการออกกำลังกายให้แข็งแรงอยู่เสมอโดยเฉพาะกล้ามเนื้อหลัง
             การออกกำลังจะต้องค่อยสร้างความแข็งแรงทั้งกล้ามเนื้อหน้าท้องและกล้ามเนื้อหลัง และจะต้องให้ข้อมีการเคลื่อนไหวได้ดี ไม่มีข้อติด

          การออกกำลังอาจจะทำได้โดยการเดิน การขี่จักรยาน การว่ายน้ำ จะทำให้หลังแข็งแรง ส่วนการนั่งทำคอมพิวเตอร์ คีย์บอร์ดควรอยู่เหนือระดับเอวหรืออยู่เหนือตักเล็กน้อยจอคอมพิวเตอร์ควรตั้งอยู่ระดับหน้า เหมือนที่ตั้งโน้ตนักดนตรีและอยู่สูงพอดีระดับสายตา จะได้มองตรงๆ ได้ การนั่งทำงานทั่วๆ ไป เช่น การนั่งอ่านและเขียนหนังสือนั้น ควรนั่งตัวตรง หลังพิงแบบสนิท อย่านั่งก้มตัวมาก โต๊ะทำงานไม่อยู่ห่างมากเกินไป จะได้ไม่ต้องเกร็งกล้ามเนื้อหลัง นอกจากนี้ การเปลี่ยนอิริยาบทเมื่อรู้สึกเมื่อยขณะทำงาน จะช่วยคลายกล้ามเนื้อได้ พยายามเปลี่ยนท่านั่ง หรือลุกเดินเพื่อผ่อนคลายทุก 30 นาที ก็จะทำให้ผ่อนคลายการปวดหลังได้ อุปกรณ์การทำงานก็เป็นส่วนสำคัญในการป้องกันโรคปวดหลังเช่นกัน โดยควรจะเลือกเก้าอี้ที่หมุนได้เพื่อป้องกันการบิดของเอว มีที่พักของแขนขณะที่นั่งพัก ควรจะมีหมอนเล็กๆ รองบริเวณเอว การนั่ง ที่ถูกต้อง ต้องนั่งให้หลังตรง หลังพิงพนักเก้าอี้ เก้าอี้ต้องไม่สูงเกินไป ระดับเข่าควรจะอยู่สูงกว่าระดับสะโพก อาจจะหาเก้าอี้เล็กรองเท้าเวลานั่ง

          สำหรับใครที่มีอาการปวดหลังอยู่บ่อยๆ ลองกายบริหารเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อบริเวณหลังด้วยการนั่งบนเตียง ขาข้างหนึ่งเหยียดตรง ขาอีกข้างวางบนที่พักขา เหยียดแขน 2 ข้างตรง วางบนขาข้างที่เหยียดตรง หายใจเข้าลึกๆ และค่อยๆ ก้มศีรษะ ลำตัว และหลัง เลื่อนแขนไปให้สุดเท่าที่จะทำได้ หายออกช้าๆ แล้วกลับไปอยู่ในท่าเดิม ทำซ้ำ 10 - 15 ครั้ง”
 
           หนุ่มสาวออฟฟิศไฟแรงทั้งหลาย หากอยากทำงานให้มีประสิทธิภาพ จากความตั้งใจทำงาน ต้องรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง เพราะโรคปวดหลัง สร้างความทรมาน ความรำคาญ และเป็นอุปสรรคต่อการทำงาน 
           ใครที่ทานข้าวเที่ยงบนออฟฟิศเป็นประจำ ก็ลองเปลี่ยนบรรยากาศลงไปทานข้างล่างบ้างก็ดี
 
           ถ้าหากว่าเรายังต้องใช้ร่างกายในการทำงานแล้วล่ะก็...อย่าลืมรักษาร่างกายนี้ไว้ให้ทำงานได้นานๆ จะได้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ และมีความสุขกับการทำงานอีกด้วย

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 561182เขียนเมื่อ 7 กุมภาพันธ์ 2014 11:43 น. ()แก้ไขเมื่อ 7 กุมภาพันธ์ 2014 11:43 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

อาการปวดหลังสามารถทานสมุนไพรปวดเมื่อยของคุณสัมฤทธิ์ เพื่อลดความรุนแรงของโรคได้ดี ทานต่อเนื่องก็ไม่เป็นอันตราย และไม่มีผลข้างเคียงต่อร่างกาย ลองหาทานดูนะคะ http://www.smpksr.com/

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท