'มหาวิทยาลัยมหาสารคาม' ในวันที่แดดอ่อนลืมตา


‘มหาวิทยาลัยมหาสารคาม’ ในวันที่แดดอ่อนลืมตา

๙ ธันวาคม ๒๕๕๖ ปีนี้ กับ ๙ ธันวาคม ๒๕๓๗ ปีที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ก็ยังคงชื่อเดิมไม่เปลี่ยน ความเป็นมหาวิทยาลัยยังคงยืนยง สมกับปรัชญา  "พหูนํ ปณฺฑิโต ชีเว"  ซึ่งหมายความว่า ‘ผู้มีปัญญาพึงเป็นอยู่เพื่อมหาชน’

หรือตามความหมายโดยรวมภายใต้ตราโรจนากรก็คือ ความเจริญรุ่งเรือง อันเป็นมาจากความรู้และคุณธรรม ผสมผสานกับภูมิปัญญาท้องถิ่น ภายใต้ปณิธาน  มหาวิทยาลัยมหาสารคามเป็นสถาบันที่มุ่งมั่นในการสั่งสมแสวงหาความเป็นเลิศทางวิชาการ โดยศึกษาภูมิปัญญาท้องถิ่น  ผสมผสานกับวิทยาการที่เป็นสากลให้เกิดความงอกงามทางสติปัญญาสามารถพัฒนาตนเองให้เพียบพร้อมด้วยวิชาการ  จริยธรรมและคุณธรรม 

               

ในข้อความที่ฉันได้กล่าวมาข้างต้น ฉันเพียงอยากจะบอกว่า  ‘ฉันภูมิใจในมหาวิทยาลัยของฉัน’  แม้ว่าตัวฉันเองจะเรียนจบมานานแล้ว แต่ฉันก็ยังพันผูกกับสถานที่บ่มเพาะภูมิปัญญาแห่งนี้  หลายปีแล้วที่ตัวฉันเองเหยียบยืนอยู่บนพื้นที่ที่เดิมเรียกกันว่า  ‘ป่าโคกหนองไผ่’  อันเสมือนครัวของชาวบ้าน ตลาดสมุนไพร ของชาวบ้านท่าขอนยาง อำเภอกันทรวิชัย และชุมชนใกล้เคียง ได้ใช้เก็บผักหักฟืน เก็บของป่า ยาสมุนไพรที่มีอยู่หลากหลาย ซึ่งบัดนี้บริเวณดังกล่าว กว่า ๑,๓๐๐ กว่าไร่ ได้เปลี่ยนชื่อใหม่ว่า  ‘มหาวิทยาลัยมหาสารคาม’  เป็นสถานศึกษาบ่มเพาะภูมิปัญญาของคนในสังคม  ตัวฉันเองก็เป็นคนหนึ่งที่ได้อะไรจาก ‘มหาวิทยาลัยมหาสารคาม’  ที่เป็นมากกว่ามหาวิทยาลัย คือ มหาวิทยาลัยชีวิต  ที่ขัดเกลาความขลาดเขลา ความคิดความอ่าน ตระหนักในใช้ชีวิต การดำรงตนให้มีค่าแก่ชุมชนและสังคม ฉันถือว่าตลอดระยะเวลาที่ฉันร่ำเรียน ฉันได้เหยียบยืนบนผืนแผ่นดิน ‘มหาวิทยาลัยมหาสารคาม’ กี่รอยเท้าแล้ว  ฉันมิอาจตอบได้ แต่ฉันจะพยายามหารอยเท้าของตัวเองให้เจอ เพื่อบอกคนอื่นๆ ว่า ฉันเองก็มีรอยเท้าเป็นของตัวเอง ไม่ได้หยิบยืมใคร เพราะนั่นฉันถือว่าเป็นการทดแทนบุญคุณ  ‘มหาวิทยาลัยมหาสารคาม’  อีกแบบ ที่สำคัญมันเป็นการบอกรัก ‘มหาวิทยาลัยมหาสารคาม’ ในแบบของฉัน

 

มหาวิทยาลัยมหาสารคามแห่งนี้ อาจเสมือนร่างทรงบางอย่าง เป็นศาลปู่ตาของชาวบ้าน คนที่มีความเชื่อความศรัทธาในพลังบางอย่าง  หากแต่ก็เป็นรูปสัมผัสที่จับต้องได้ด้วยความรู้สึกทั้งภายในและภายนอก  ไม่แปลกที่หลายคนเคยเดินทางผ่าน ได้พักพิงอิงอาศัย จากไปแล้วยังรู้สึกโหยหา คิดถึง มิเสื่อมคลาย หากถามฉัน ฉันเองก็ยากอธิบาย  แต่ก็เพียงจะบอกว่า มหาสารคามเธอยังงดงามเช่นเดิม แม้จะผ่านร้อน ฝน หนาว มายาวนานก็ตาม

 

“มหาสารคาม ข้าพบเจ้าในวันที่แดดอ่อนลืมตา

ความงามของเจ้าแผดเผาเดียงสาข้าเสียวายวอด”

หมายเลขบันทึก: 556128เขียนเมื่อ 12 ธันวาคม 2013 07:31 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 ธันวาคม 2013 07:31 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

อ่านแล้วภาคภูมิใจ ที่ได้เป็นอยู่ที่นี่ครับ เป็นอยู่เพื่อมหาชน...

.... การปลูกฝังให้....รักองค์กร .... ทำหน้าที่ให้ดี .. มีความรับผิดชอบ ... เป็นคนคุณภาพ นะคะ ..... เพราะ... คนอายุสั้น...สถาบันอายุยืนยาว ๆๆๆๆๆ นะคะ

ขอบคุณค่ะ

-สวัสดีครับ...

-ตามมาร่วมภูมิใจกับสถาบันครับ...

-ขอบคุณครับ

ฮักนะ มหาสารคาม ขอบคุณมากครับผม

เรียนจบที่นี้ ทำงานที่นี่ รู้สึกภาคภูมิใจ ขอบคุณมากครับสำหรับข้อความดี ๆ ที่ทำให้ตระหนักถึงความรักในองค์กร

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท