ฉันเกิดในครอบครัวเล็กๆที่ค่อนข้างจะยากจน ที่ประกอบไปด้วย พ่อ แม่ พี่สาว และตัวของฉันเอง ฉันกับพี่สาวเกิดห่างกัน 2 ปี ตามที่องค์กรอนามัยโลกกำหนด...........อิอิอิอิ นิสัยของฉันกับพี่สาวจะแตกต่างกันมาก พี่สาวจะเป็นคนเงียบ นิ่ง แต่ตัวฉันกลับเป็นคนไม่นิ่ง ไม่เรียบร้อย พูดจาโผงผาง ไม่ค่อยอ่อนหวาน ด้วยความที่เป็นเด็กดื้อ มีอยู่วันหนึ่งฉันมีไข้สูง ในสมัยก่อนสมัยโบราณถ้าลูกเป็นไข้ ตัวร้อน พ่อแม่ก็แทบจะไม่ได้นอนเลย พ่อใช้ใบงิ้ว ซึ่งในสมัยโบราณมีความเชื่อว่าเป็นยาเย็นที่สามารถดูดพิษความร้อน ออกจากร่างกายเราได้ มาขยำใส่กับน้ำ แปะไว้ที่หน้าผากของฉัน และเป่าหัวให้ฉัน คืนนั้นทั้งคืนพ่อแทบจะไม่ได้นอนเลย นั่นเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ยืนยันได้ถึงความรักที่พ่อมีต่อฉัน
ในขณะที่หนูกำลังศึกษาอยู่ชั้นประถมศึกษา ปีที่ 6 ครอบครัวของฉันมีปัญหาด้านการเงิน ด้วยความที่เราจน พ่อจะทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะได้มาซึ่งเงิน ตอนนั้นพ่อกับเพื่อนร่วมกันทำธุรกิจ ธุรกิจหนึ่ง นั่นคือ “การเป็นเจ้ามือหวย” ตอนแรกธุรกิจนี้ก็ไปได้ดี สามารถเอาเงินมาจุนเจือครอบครัวของฉันได้อย่างคล่องมือ แต่โชคของเรามันไม่ได้ดีเสมอไป ช่วงนั้นเป็นช่วงที่พ่อกับเพื่อนดวงตกมาก เพราะว่าลูกมือถูกหวยเยอะ พ่อกับเพื่อนไม่มีเงินจ่ายให้ ฉันรู้สึกสงสารพ่อมาก แต่ไม่รู้ว่าจะช่วยพ่อได้อย่างไรกัน ฉันแอบได้ยินพ่อกับแม่คุยกันเรื่องขายที่ดินที่ปู่ซื้อให้เป็นของขวัญวันแต่งงานของพ่อกับแม่ เพื่อที่จะนำเงินไปจ่ายให้กับลูกมือ น้ำเสียงที่พูดพร้อมกับน้ำตาที่ไหลริน ฉันรู้ว่าพ่อต้องเสียใจมากแน่ๆ สมบัติชิ้นเดียวที่ปู่ตั้งใจซื้อให้ ต้องมาสูญหายไปภายในพริบตา หลังจากนั้นมาพ่อก็เลิกทำธุรกิจมืด เพราะพ่อคิดได้แล้วว่า การพนันไม่มีทางที่จะรวยได้ แ ละการเป็นเจ้ามือหวยก็ไม่มีทางที่จะรวยได้เช่นกัน เพราะ “หวย” ย่อมาจากคำว่า
ห = หายนะ
ว = วอดวาย
ย = ย่อยยับ
ปี 2549 พ่อเริ่มมีอาการปวดท้อง ไปหาหมอ หมอที่คลีนิกแห่งหนึ่งบอกว่าพ่อเป็นนิ่วในถุงน้ำดี ตอนนั้นที่พ่อบอกฉัน ฉันกลัว รู้สึกชาไปทั้งตัวเลย พูดอะไรไม่ออก บอกได้คำเดียวว่าเราจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไรกันถ้าไม่มีพ่อ อยู่น้ำตาไหล ไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว ความรู้สึกตอนนั้นเหมือนฉันตายไปแล้วครึ่งตัว แต่ด้วยความที่ฉันเป็นเด็กดื้อ ฉันบอกกับตัวเองว่ามันต้องมีทางออก เป็นแค่นี้ไม่ตายง่ายๆหรอก ฉันปลอบใจตัวเอง และปลอบใจแม่ และพี่สาวด้วย เพื่อที่จะให้ท่านทั้ง 2 คน สบายใจ เราพยายามไปรักษาทุกที่ ที่เขาบอกว่ามีหมอดี รักษาหาย ไกลแค่ไหนก็ไปรักษา เพื่อที่พ่อจะได้อยู่กับครอบครัวไปอีกนานแสน ประกอบกับช่วงเวลานั้นฉันจบประถมศึกษาปีที่ 6 พอดี ฉันตัดสินใจว่าจะไม่เรียนต่อ แต่พ่อไม่ยอม พ่อบอกว่า “ ไม่รู้ว่าจะอยู่ไปเพื่ออะไร อยู่เพื่อใคร ” พอฉันได้ยินดังนั้นน้ำตาก็ไหลออกมา อีกครั้ง ร้องไห้กอดพ่อ ฉันบอกพ่อว่าถ้าฉันเรียนแล้วใครทำงานช่วยแม่ เดี๋ยวจะไม่มีเงินมารักษาพ่อ พ่อบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วงพ่อหรอก พ่อเป็นโรคที่รักษาหายได้ เดี๋ยวเดียวก็หาย พ่อจะสู้และทำทุกอย่างเพื่อครอบครัว 1 ปีผ่านไป อาการของพ่อเริ่มดีขึ้นตามลำดับ ผลเอกซเรย์ไม่พบก้อนนิ่วในถุงน้ำดีแล้ว ฉันดีใจมาก มากที่สุดในชีวิตเลย พ่อหายเป็นปกติแล้ว
จบประถมศึกษาปีที่ 6 ฉันตัดสินใจที่จะไม่เรียนต่อเพราะมันต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก แต่พ่อไม่ยอมพ่อบอกพ่อจะไปทำงาน ในวันที่ฉันรู้ว่างานของพ่อ คือ “ เผาถ่านขาย ” ภาพที่ฉันเห็นมีเพียงก้อนสีดำ ฝุ่น ควัน มันคงจะเหนื่อยมาก และร้อนมากเลย พ่อลูบหัวฉันเบาๆแล้วบอกว่า “ แค่นี้พ่อทนได้ ถ้าลูกไม่เรียนแล้วจะกินอะไร พ่อไม่ได้อยู่เลี้ยงเราไปตลอดชีวิตนะ ไม่รู้ว่าพ่อจะอยู่ได้อีกนานสักแค่ไหน แล้วใครจะดูแลลูกตอนแกเฒ่า” คำพูดของพ่อวันนั้นบอกให้ฉันเตือนตัวเองเสมอมาว่าต้องตั้งใจเรียนให้ดีที่สุด
“ลูกคนขายถ่าน” คือคำตราหน้าที่ฉันถูกเพื่อนๆล้อ ตอนที่ไปเรียนใหม่ๆ เสียงหัวเราะเยาะ พร้อมคำพูดที่ถากถางว่าอาชีพนี้คงจะสกปรก มอมแมมมาก แรกๆฉันอายเพื่อนมาก แต่เพราะคำพูดของพ่อในวันนั้นที่บอกฉันว่า “ ไม่ต้องอายหรอก พ่อทำงานสุจริต ไม่ได้ไปปล้น ไปจี้ ไปฆ่า ใคร และมันก็ไม่ได้สกปรกอะไรมากก็แค่ตัวดำ อาบน้ำออกก็ขาวสะอาดเหมือนเดิมแล้ว เราทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ และมันคืออาชีพที่ทำให้เรามีเงินได้เรียนหนังสือ ” มันทำให้ฉันมีกำลังใจที่จะสู้ต่อไป และพร้อมที่จะเผชิญปัญหาต่างๆ เมื่อเผชิญหน้ากับคำว่าลูกคนขายถ่ายอีกครั้ง นอกจากจะไม่อายแล้วฉันยังยิ้มรับพร้อมบอกว่า “ใช่ค่ะ!!!!! หนูลูกคนขายถ่าน”
ทุกวันนี้ที่ฉันมีชีวิตอยู่ได้ ก็เพราะได้กำลังใจจากพ่อ ถึงแม้เวลาที่ท้อแท้ เหนื่อย สิ้นหวัง คิดอะไรไม่ออก ฉันก็จะคิดถึงพ่อ และในขณะที่หนูมีความสุขหนูก็คิดถึงพ่อเหมือนกัน หนูอยู่ได้ทุกวันนี้ ก็เพราะฉันมีพ่อ “ หนูรักพ่อค่ะ ”
ศศิธร บุตรดา
พนักงานช่วยเหลือคนไข้
-สวัสดีครับ
-ตามมาให้กำลังใจและอ่านบันทึกเรื่องพ่อจากบันทึกนี้ครับ
-เป็นอีกบันทึกหนึ่งที่อ่านแล้วประทับใจมากๆ ครับ
-พ่อผมก็เผาถ่านขายเหมือนกันครับ..
-ตัวอาจจะดำแต่ใจขาวสะอาดตามที่พ่อคุณศศิธร ได้บอกเอาไว้ ว่า"
-ขอบคุณครับ