ถอดบทเรียนการบูรณาการมิติจิตตปัญญากับการพัฒนาคุณภาพ
สถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (องค์การมหาชน) มีภารกิจหลักคือ ส่งเสริม สนับสนุนให้เกิดกลไกในการพัฒนาระบบการให้บริการที่ดีมีคุณภาพของสถานพยาบาลทุกระดับ เพื่อให้ระบบสุขภาพของประเทศ มีบริการสุขภาพที่ได้มาตรฐาน เป็นที่ไว้วางใจของสังคม เป็นระบบคุณภาพที่พึงประสงค์ มีความทั่วถึง Equity มีคุณภาพที่ดี Quality และมีประสิทธิภาพ Efficiency
ระบบสุขภาพของประเทศไทยที่พึงประสงค์ ควรมีการยกระดับมิติด้านจิตใจ เพื่อยกระดับระบบสุขภาพสู่สุขภาวะ โดยการส่งเสริมและกระตุ้นให้คนทำงาน มีการเรียนรู้และเข้าใจในมิติจิตใจมากยิ่งขึ้น ด้วยการสร้างความรัก ความเมตตา ความเอื้ออาทร ตระหนักและรับรู้คุณค่าของงานที่ทำ มีความเข้าใจในคนอื่นและผู้ป่วยมากยิ่งขึ้น และเห็นความหมายของงานที่ตนเองรับผิดชอบ สามารถแสดงออกมาอย่างเป็นรูปธรรม
สถาบันจึงคิดค้นวิธีการพัฒนาคุณภาพที่มุ่งไปสู่ความยั่งยืน โดยการผสมผสานมิติจิตใจ จิตวิญญาณของคนทำงาน การเห็นคุณค่าและความหมายของงานเข้ามาใช้ในการพัฒนาคุณภาพควบคู่ไปกับมาตรฐาน หรือ SHA ขึ้น โดยร่วมมือกับสำนักงานสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ดำเนินการตั้งแต่ปี 2552 เป็นต้นมา โดยมีกรอบแนวคิดที่สำคัญคือ
SHA เป็นแนวคิดการพัฒนาคุณภาพโดยใช้มิติจิตวิญญาณเป็นพื้นฐาน เพื่อมุ่งสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนโดยคนทำงานคุณภาพมีความสุข ผู้รับบริการมีความสุข ด้วยการนำมิติจิตใจ การเห็นคุณค่าในตนเองและคุณค่าในคนทำงาน เปลี่ยนจากการมุ่งเน้นผู้ป่วยเป็นศูนย์กลางเป็นการมุ่งเน้นที่ความเป็นมนุษย์ (Human center) ของทั้งผู้ให้บริการและผู้รับบริการ มีวัตถุประสงค์เพื่อต่อยอดการพัฒนาคุณภาพที่ดำเนินมาด้วยกระบวนการ HA และกระตุ้นการปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ของบุคลากรในเรื่องการสร้างเสริมสุขภาพควบคู่กับการรักษาพยาบาล ให้ครบทุกมิติทั้งกาย ใจ สังคม และปัญญา เกิดระบบสุขภาพที่เชื่อมโยงกันอย่างไร้รอยต่อ (Seamless) ทำให้บุคลากรสุขภาพมีความรู้ความเข้าใจทั้งมุมมองด้านมิติความปลอดภัย (Safety) และมาตรฐานการทำงาน (Standard) ผสมผสานกับการใช้มิติจิตวิญญาณ (Spirituality)
โครงการ SHA เริ่มดำเนินงานมาตั้งแต่ปี 2552 มีโรงพยาบาลทั่วประเทศที่เข้าร่วมโครงการ ประมาณ 250 แห่ง การขับเคลื่อนตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา มีการสอดแทรกต้นทุนและหล่อหลอมแนวคิด SHA เข้าไปในตัวบุคลากรที่เข้าร่วมโครงการหลายหลักสูตร ไม่ว่าจะเป็นการฟังอย่างลึกซึ้ง, Narrative Medicine, Salutogenesis, Patient Experience, Healing environment การขับเคลื่อนดังกล่าวทำให้เห็นการเปลี่ยนแปลงในบุคลากรสาธารณสุขที่เข้าร่วมโครงการ และมีความสุขในการทำงาน
ก้าวย่างสู่ของจริง....
เพื่อให้เกิดรูปธรรมและข้อมูลที่สามารถใช้อ้างอิงทางวิชาการได้ สถาบันจึงเห็นความสำคัญของการนำ evidence base เช่นการจัดการความรู้ การถอดบทเรียน ทั้งจากผู้ป่วย/ผู้รับบริการ ผู้ปฏิบัติงาน เพื่อนำมาสรุปเป็นข้อมูลที่เป็นรูปธรรมสำคัญในการขับเคลื่อนโครงการเพื่อแสดงผลลัพธ์ของการทำงานขับเคลื่อนแนวคิดทางด้านมิติจิตปัญญาให้มีความชัดเจนและเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น สถาบันจึงร่วมมือกับสำนักงานวิจัยระบบสุขภาพ (สวสส.) ผู้ทรงคุณวุฒิ นักวิชาการ นักวิจัย แพทย์ พยาบาลที่มีองค์ความรู้และประสบการณ์ จัดทำโครงการถอดบทเรียน ซึ่งอยู่ในระหว่างการศึกษา จำนวน 3 โครงการ ได้แก่
1.โครงการศึกษาการรับฟังเสียงสะท้อนและประสบการณ์ของผู้ป่วยและญาติ (Patient Experience) เพื่อสะท้อนว่าระบบบริการคุณภาพที่ฟังเสียงสะท้อนผู้ป่วยนั้นเป็นแนวทางในการพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่อง โดยดำเนินการในสถานพยาบาลที่ผ่านการรับรองคุณภาพตามมาตรฐาน HA จำนวน 27 แห่ง ใช้แบบสอบถามประสบการณ์ผู้ป่วยที่ปรับมาจาก Picker s Institute โดยการสัมภาษณ์และสนทนากลุ่มผู้ป่วยและญาติ จำนวนทั้งสิ้น 2,140 คน จากทุกภูมิภาคของประเทศไทย เสียงสะท้อนจากผู้ป่วยและญาติทำให้สถานพยาบาลได้เรียนรู้ ดังนี้
ภาพจาก emmottontechnology.com
2. โครงการศึกษากระบวนการประเมินมิติจิตใจเพื่อเพิ่มประสิทธิผลของคุณภาพการดูแลรักษา (Spiritual assess in medical care) เนื่องจากสุขภาวะ มีความหมายมากกว่าการมีร่างกายที่สมบูรณ์หรือมีสุขภาพจิตดีแต่รวมถึงมิติของความเป็นมนุษย์ที่เข้าถึงความหมายของชีวิต (Meaning of Life)ความสมบูรณ์ของมนุษย์ที่จะลดละอัตตาหรือตัวตน เพื่อเป็นแนวทางให้บุคลากรสาธารณสุขมีความเข้าใจมิติทางด้านจิตวิญญาณ สามารถบูรณาการเข้าในงานประจำได้ สถาบันจึงร่วมกับผู้ทรงคุณวุฒิ นักวิชาการ และผู้ปฏิบัติงานที่สนใจทางด้านจิตวิญญาณ ศึกษามิติจิตวิญญาณในกระบวนการดูแลรักษาใน 3 Model ดังนี้
2.1 มิติจิตวิญญาณในการทำงานชุมชน ศึกษาโดยอ.อังคณา นามบุตร รพ.หนองวัวซอ
2.2 การศึกษาเครื่องมือประเมินสุขภาพในมิติทางจิตวิญญาณ ในบริบทของ Palliative care ศึกษาโดย อ.อุบล จ๋วงพานิช รพ.ศรีนครินทร์
2.3 การพัฒนาระบบเพื่อการพัฒนาสุขภาวะทางจิตวิญญาณในโรงพยาบาล กรณีศึกษา รพ. นาดูน ศึกษา โดย นพ.พิทักษ์พงษ์ พรรณพราว
3.โครงการถอดบทเรียนและจัดการความรู้ “การเปลี่ยนแปลงทัศนคติความเชื่อและจิตสำนึกของบุคลากรในโครงการ SHA”เพื่อศึกษาการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นของบุคลากรในโครงการ SHA ในประเด็น ปัจจัยที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง พฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลง และบทเรียนจากการเรียนรู้แนวคิด SHA เพื่อสามารถนำไปใช้ในการขับเคลื่อนแนวคิดมิติจิตปัญญาในการพัฒนาคุณภาพของสถานพยาบาลอย่างยั่งยืนต่อไป
………………………………………………………..
ชอบโครงการนี้โครงการถอดบทเรียนและจัดการความรู้ “การเปลี่ยนแปลงทัศนคติความเชื่อและจิตสำนึกของบุคลากรในโครงการSHA”
มาให้กำลังใจทีมพี่อุบลและทุกๆๆทีมครับ
สู้ๆๆครับ
นำบันทึกมาแนะนำคุณลูกหมูเต้นระบำนะคะ เผื่อ SHA ได้นำไปใช้ประโยชน์ในการเป็นคลังความรู้ค่ะ
ชอบกระบวนการทางจิตที่น้องสรุป ขอบคุณมากครับผม
จะพยายามค่ะ
พี่แก้วอยู่โครงกรนี้นะครับอาจาย์
โครงการศึกษากระบวนการประเมินมิติจิตใจเพื่อเพิ่มประสิทธิผลของคุณภาพการดูแลรักษา (Spiritual assess in medical care) เดี๋ยวบอกพี่แก้วให้ครับ ...อาจารย์เป็นกำลังใจ
ขอบคุณมากครับอาจารย์จัน
ขอบคุณครับพี่ ติดตามผลงานพี่เสมอครับ
ขอบคุณมากครับป้าแดง ป้าทำได้แน่ๆ และป้าทำอยู่แล้วด้วย ..
SHA .... ทำดีเป็นทีม.....ขอบคุณค่ะ
ขอบคุณมากครับพี่ ดร.เปิ้ลครับ พี่สบายดีนะครับผม..
วันหลังจะชวนป้าแดงมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันดีไหมคะ เพื่อหาเครื่องมือประเมินด้านจิตวิญญาณ กำลังปรับโครงร่างอยู่นะคะ ลูกหมู พี่แก้วต้องเรียงลำดับงาน
-สวัสดีครับ
-ตามมาเยี่ยมและให้กำลังใจ
-สบายดีนะครับอาจารย์..
สบายดีครับพี่เพชร แต่งานยุ่งไปหน่อยครับ ..รำลึกถึงพี่เสมอครับ..
คือพลังและกำลังใจที่ SHA ปลูกฝังให้แก่คนทำงาน ขอบคุณค่ะ