เพราะพ่อคือ...ผู้ให้


ทุกคนควรเป็นคนดีของแผ่นดิน

เนื่องในวันที่  5 ธันวาคม ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  และยังเป็นวันพ่อแห่งชาติอีกด้วย  ในวันนี้ประชาชนชาวไทยจะได้ร่วมกันร่วมกันลงนามพวายพระพร และเฉลิมฉลองในวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรวมกันเป็นประจำทุกปี โดยตั้งแต่ดิฉันเกิดมานับว่าเป็นความโชคดีมากที่ได้ไปเป็นเด็กชนบทอยู่ที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน  ด้วยพระมหากรุณาธิคุณได้มีการเสด็จพระราชดำเนินของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยเสด็จเยี่ยมราษฎร รวม 6 ครั้ง ได้แก่

ครั้งที่ 1 วันที่ 16-17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2523

ครั้งที่ 2 วันที่ 19-20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2524

ครั้งที่ 3 วันที่ 14-16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2525

ครั้งที่ 4 วันที่ 7-9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2527

ครั้งที่ 5 วันที่ 18-19 มีนาคม พ.ศ. 2534

ครั้งที่ 6 วันที่ 19-20 มีนาคม พ.ศ. 2536

เมื่อก่อนดิฉันยังเด็กมาก คุณพ่อมักเล่าให้ฟังเสมอว่า “เมื่อก่อนท่านเสด็จฯ มาจังหวัดแม่ฮ่องสอน เมื่อพ่อแม่รู้ จะต้องพาลูกๆไปเข้าเฝ้าทุกครั้ง” จนเมื่อคุณพ่อทำงานเป็นพนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ทำให้ต้องติดตามข่าวสารและปฏิบัติงานในหน้าที่ เพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดเกี่ยวกับการไฟฟ้า ทำให้ดิฉันได้ติดตาม และไปเข้าเฝ้าเกือบทุกครั้งที่ทั้งสองพระองค์เสด็จเยี่ยมราษฏรที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนด้วย   

ดิฉันคิดเสมอว่า แม่ฮ่องสอนในอดีต นับว่าทุรกันดารมาก ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางด้วยรถยนต์  เครื่องบิน เฮลิคอปเตอร์ หรือแม้แต่ด้วยวิธีการใดก็ตามดูจะเป็นหนทางที่ลำบากยากยิ่งไปหมด  แต่ไม่เคยมีพื้นที่ใดที่พระองค์ท่านไม่เสด็จไป และเมื่อท่านเสด็จไปที่ใดก็ตาม ที่นั่นจะมีการพัฒนาเกิดขึ้นเสมอ ดังเช่น

เมื่อ วันที่ 7-9  กุมภาพันธ์ พ.ศ.2527 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมราษฎร

" พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จทอดพระเนตร พื้นที่สร้างอ่างเก็บน้ำปางตอง ณ บ้านปางอุ๋ง และเสด็จฯ เป็นองค์ประธานในพิธีสวนสนามรวมพลัง ทสปช. ณ สนามกีฬาจังหวัด ประทับแรม ณ เรือนประทับแรมปางตอง "  (http://www.3armyarea-rta.com/armyisoc3/aisoc12.htm)

ซึ่งในปัจจุบันนี้ก็เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของจังหวัดแม่ฮ่องสอนอีกแห่งหนึ่ง  

คุณพ่อของดิฉันมักเล่าให้ฟังเสมอว่า “เพราะมีคนจนมากมายที่นี่ ในหลวงไม่เคยทอดทิ้ง”  “โครงการต่างๆ ของในหลวงมีมากมาย ในหลวงมักมาเป็นประจำทุกปี จะเห็นได้จาก 3 ครั้งแรกในหลวงมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ทอดทิ้ง” “แต่เนื่องจากช่วงหลังสุขภาพของพระองค์ไม่ค่อยแข็งแรงนัก ก็จะเว้นห่างไปบ้าง” คุณพ่อมักบอกให้ลูกๆ เป็นคนดี นอกจากเป็นคนดีของครอบครัวแล้ว ยังต้องเป็นคนดีของแผ่นดินด้วย ไม่ต้องมีมาก แต่มีพอดี ไม่ต้องมีความสุขมาก แต่มีความสุขแบบพอดี บางครั้งก็ไม่ค่อยเข้าใจคุณพ่อมากนัก แต่ดูเหมือนวิถีทางแบบพ่อ ที่เป็นชายวัย 58 ปี ก็จะมีความสุขกับการทำงานให้ผู้อื่น คุณพ่อไม่ได้จบกิจกรรมบำบัด  แต่คุณพ่อช่วยเหลือเด็กพิเศษ ช่วยคนพิการ ช่วยผู้สูงอายุที่เผชิญอากาศหนาวในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ในแบบของพ่อ  ดิฉันไม่รู้ว่าจะเติบโตมาได้อย่างไรถ้าไม่มีพ่อ เพราะพ่อเป็นผู้เลี้ยงดูชีวิตในวัยเด็กกว่า 60-70% เนื่องจากแม่ก็ทำงานนอกบ้านเช่นกัน  และงานของแม่ก็ไม่ได้เลิกตรงเวลาหรือเลิกเป็นเวลาพอที่จะมีเวลาพอดูแลเด็กๆ  ดังนั้น คุณพ่อจึงทำงานเลี้ยงลูกๆ เป็นส่วนใหญ่  วันหนึ่งพ่อก็เอา “หนังสือคำสอนของพ่อ” มาให้อ่านทำให้ดิฉันเริ่มคิดว่า จะใช้ชีวิตที่มีเพื่อตนเองหรือเพื่อผู้อื่น ชีวิตที่เกิดมาจะมีคุณค่ามากกว่าที่เป็นอยู่ได้อย่างไร  การให้ จึงเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ดิฉันได้เรียนรู้จากพ่อของแผ่นดิน และจากคุณพ่อของดิฉันเอง

 

 

เสด็จเยี่ยมราษฎร ณ โครงการหลวงแม่ลาน้อย จังหวัดแม่ฮ่องสอน

 เครดิตภาพ : http://www.facebook.com/media/set/?set=a.415885705169500.1073741853.117993451625395&type=1

ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ทรงพระเกษมสำราญ ตลอดกาล ตลอดไป ด้วยเกล้า ด้วยกระหม่อม ขอเดชะ

 

 

เพราะมีพ่อคนนี้...จึงมีวันที่ได้เติบโต

(ภาพเหล่านี้เอามาจากภาพที่คุณพ่อถ่ายจากภาพที่แขวนในบ้านอีกที...หวังว่าจะเป็นความภูมิใจเล็กๆ ของพ่อนะค่ะ)

 

 

หมายเลขบันทึก: 555381เขียนเมื่อ 4 ธันวาคม 2013 17:27 น. ()แก้ไขเมื่อ 4 ธันวาคม 2013 18:15 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

ขอชื่นชมพระบารมีพ่อหลวง ณ แม่ฮ่องสอน ด้วยคนในบันทึกนี้ ขอบคุณมากครับผม

เห็นภาพพ่ออุ้มลูกน้อยทั้งสองแล้ว ดูอบอุ่นยิ่งนะครับ

ชอบภาพสมัยก่อนๆๆ

ดูครอบครัวอาจารย์แล้วอบอุ่นดีครับ

ขอบคุณมากๆครับ

วันที่ข้าพเจ้าเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร รัฐศาสตร์บัณฑิต

(เกียรตินิยมอันดับสอง) แห่งจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย จากพระหัตถ์ของ

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ ๑๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๑๑ ซึ่งได้พระราชทานพระบรมราโชวาทว่า :

" ความเจริญของประเทศชาติ เป็นความเจริญส่วนรวม ซึ่ง

เกิดจากผลงานหรือผลของการกระทำของคนทั้งชาติ ถือได้ว่าทุก

คนแบ่งหน้าที่กันทำประโยชน์ให้แก่ชาติ ตามความถนัดและความ

สามารถและเกื้อกูลกันและกัน ไม่มีผู้ใดจะอยู่ได้และทำงานให้แก่

ประเทศชาติได้โดยลำพังตนเอง "

อ.ขจิต และ คุณนงนาท ขอบคุณมากค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท