เงินสุขภาพดี


Our soul is for the benefit of mankind

 

ลูกสงขลานครินทร์ทุกคนทราบความหมายของวลีข้างต้นดี

 

นับตั้งแต้ก้าวเข้ามาในรั้วมหาวิทยาลัยวันแรก เราถูกสอนถูกกระตุ้นให้รู้จักความหมายของคำๆนี้ แต่จะมีสักกี่คนที่จะเข้าใจ ประพฤติและปฏิบัติตามพระราชปณิธานของพระบรมราชชนก

คงไม่แปลกนักที่บัณฑิตทุกคนที่จบจากสงขลานครินทร์จะเรียกตัวเองว่าเป็นลูกพระบิดา ผมก็เป็นลูกพระบิดา หมอทุกคนเป็นลูกพระบิดา พยาบาลทุกคนเป็นลูกพระบิดา คนทำงานในโรงพยาบาลก็เป็นลูกพระราชบิดา หน้าที่ที่พวกเราปฏิบัติอยู่ก็เป็นการเจริญรอยตามพระองค์ ผู้ซึ่งเป็นพระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบัน

แล้วถ้าจะถามว่า คนอื่นจะเรียกตัวเองว่าเป็นลูกพระบิดาด้วย จะได้ไหม คำๆนี้สงวนสิทธิ์สำหรับคนที่จบจากสงขลานครินทร์เท่านั้นใช่ไหม หรือใช้สำหรับบุคลากรทางแพทย์ได้เท่านั้นหรือ

ตอบได้เลยว่า "ผิดครับ"

ทุกคนเป็นลูกของพระองค์ หากระลึกได้เสมอว่าเรากำลังประกอบกรรมดี เป็นผู้ให้ ระลึกถึงการเป็นผู้ให้ การยังประโยชน์ต่อเพื่อนมนุษย์เป็นกิจที่หนึ่ง ดังที่ผมจะเล่าต่อไปนี้

 

วันหนึ่ง ขณะที่ผมกำลังทำงานอยู่ในโรงพยาบาลตามปกติ เพื่อนรุ่นพี่ผู้มากประสบการณ์แจ้งให้ผมทราบว่า มีคนจะมาบริจาคเงินเพื่อสมทบทุนมูลนิธิโรงพยาบาลสงขลานครินทร์เป็นจำนวนเงิน ๕๐๐,๐๐๐ บาท ท่านเป็นผู้บริหารระดับสูงของบริษัทน้ำมันแห่งหนึ่งซึ่งดำเนินการขุดเจาะก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยอยู่ ในบรรดาแท่นขุดเจาะต่างๆของบริษัทนั้นมีพนักงานของบริษัทหมุนเวียนสับเปลี่ยนขึ้นไปทำงานบนฐานขุดเจาะราวพันคน ท่านบอกว่าท่านมาเป็นตัวแทนของพนักงานในองค์กรครับ

จะว่าไป การบริจาคเงินจากบริษัทขุดเจาะก๊าซธรรมชาตินั้นน่าจะเป็นเรื่องปกติ บริษัทเช่นนี้เขามีเงินมากมายมหาศาล ในแต่ละปีที่ผ่านมาก็คงจะมีการบริจาคเงินเพื่อการกุศลไปหลายบาท และนี่ก็คงเป็นเยี่ยงการบริจาคตามปกติของเขา แต่ผมคิดเร็วไป นี่ไม่ใช่เงินของบริษัท แต่เป็น "เงินสุขภาพดีของพนักงานต่างหาก"

 

เงินสุขภาพดี ชื่อนี้ผมคิดขึ้นมาเอง (เขาจะเรียกว่าอะไรผมก็ไม่ได้ถามมา)

 

เรื่องมันมีอยู่ว่า บริษัทน้ำมันแห่งนี้ มีนโยบายให้พนักงานของเขาออกกำลังกาย ทั้งคลายเครียดจากการทำงาน ทั้งยังมีผลดีต่อสุขภาพโดยรวม นัยว่า หากได้ออกกำลังกายกันถ้วนทั่ว สุขภาพจิตดี สุขภาพกายดี ก็เป็นผลดีสะท้อนกลับมายังผู้ทำงานและบริษัทนั่นเอง โดยเขาได้วางกลยุทธ์ที่น่าสนใจ คือ ให้เงินตามปริมาณการออกกำลังกายครับ (ผมของเรียกว่า P4P นะครับ คุ้นหูดี) ทุกๆครั้งที่พนักงานออกกำลังกาย เขาก็จะแปลงหน่วยระยะทาง ระยะเวลาออกมาเป็นกิโลเมตร และให้ค่าตอบแทนกิโลเมตรละ ๑๐ บาท

เงินนี้ยังไม่ได้เข้ากระเป๋าพนักงานนะครับ เขาได้ประชุมและคิดร่วมกัน ว่าท้ายที่สุดในแต่ละปีจะมีเงินค่าสุขภาพดีเท่าไหร่ และจะเอาเงินจำนวนนี้ไปทำอะไรให้สังคม จุดมุ่งหมายของการออกกำลังกายไม่ใช่เพื่อเงิน ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ เงินที่ได้มาเป็นผลพลอยได้

อ่านไม่ผิดหรอกครับ ผมเขียนตามที่เขาพูดนั่นแหละ "เงินที่มีอยู่ จะไปใช้ให้เกิดประโยชน์กับสังคม"

ปีที่ผ่านมา เหล่าบรรดาพนักงานบนแท่นขุดเจาะได้ออกกำลังกาย รวมระยะทางกันได้กว่า ๔๘,๐๐๐ กิโลเมตร ได้เงินมา ๔๘๐,๐๐๐ บาท บริษัทจึงเติมให้ครบเป็นจำนวนเต็ม ๕๐๐,๐๐๐ บาทและผลการประชุมก็สรุปออกมาว่า ในปีนี้จะบริจาคเงินเข้ามูลนิธิโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ในนามของพนักงานองค์กร

 

CSR หรือ corporate social responsibility เป็นคำที่คุ้นหูมากในปัจจุบัน สาระหลักก็คือการช่วยกันดูแลสังคม บางบริษัทอาจจะจะถนัดปลูกป่า พาเด็กไปเที่ยว อ่านหนังสือให้คนตาบอด ไปเยี่ยมบ้านพักคนชรา หรืออีกมากมายนับไม่ถ้วน

กิจกรรมที่เล่ามานี้ก็เป็น CSR ที่น่าสนใจ จับต้องได้ เกิดประโยชน์ทั้งผู้ให้และผู้รับ ผมมีความเชื่อว่า เมื่อไหร่ที่เงินส่วนที่บริจาคมาได้ตกไปถึงคนไข้ เมื่อนั้นผลบุญจากการให้ก็จะตกไปยังผู้รับมากยิ่งขึ้น

 

ผมเขียนเรื่องนี้ขณะบินอยู่ที่ความสูง ๓๘๐๐๐ ฟุต ตามที่นักบินผู้ช่วยบอก อากาศดีครับ มองเห็นเกาะสมุยและพงันชัดเจน ด้านล่างสีฟ้าครามคือท้องทะเลของอ่าวไทย ที่ซึ่งกำลังมีคนกลุ่มหนึ่งกำลังปฏิบัติงานอยู่บนแท่นขุดเจาะก๊าซธรรมชาติ และผมมีความเชื่อว่า ในบรรดากว่าพันคนของบริษัทเชฟรอนนั้น น่าจะมีสักคนที่กำลังวิ่งเก็บรอบเพื่อคนอื่นอยู่

 

"ประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เป็นกิจที่หนึ่ง"

จับต้องได้แม้ไม่ใช่หมอ ไม่ใช่พยาบาล

 

ขอบคุณครับ

๒๕ พย ๕๖

 

ปล.รูปแหลมตะลุมพุก สวยดีนะครับ

 

เห็นรูปนี้แล้วคิดถึงพี่ชิว เครื่องบินในวงรุ้ง

หมายเลขบันทึก: 554618เขียนเมื่อ 26 พฤศจิกายน 2013 16:38 น. ()แก้ไขเมื่อ 26 พฤศจิกายน 2013 16:38 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ทึ่งคุณหมอเขียนบนฟ้า

ชอบอันนี้เลยครับ

CSR หรือ corporate social responsibility เป็นคำที่คุ้นหูมากในปัจจุบัน สาระหลักก็คือการช่วยกันดูแลสังคม บางบริษัทอาจจะจะถนัดปลูกป่า พาเด็กไปเที่ยว อ่านหนังสือให้คนตาบอด ไปเยี่ยมบ้านพักคนชรา หรืออีกมากมายนับไม่ถ้วน

อยู่บนฟ้าไม่มีคนกวน ไม่มีโทรศัพท์

ถ้าไม่มีการสั่นสะเทือนก็มีสมาธิดีครับ

หลายเรื่องเสร็จบนฟ้านั่นแหบะครับ อ.ขจิต ฝอยทอง

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท