เคยไปอ่านและตอบ บันทึกนี้ ดังนี้
คุณพิมล มองจันทร์เขียนร่ายไว้
ดูกร แม้ความเด็กจะเป็นช่วงเพลาที่หอมหวาน แต่มินานก็คลาคลายลงไป ด้วยเหตุอันใดฤามิใช่ธรรมชาติ ที่มาพิฆาตเอาความงามแห่งเยาวัยพังทลาย ก็กลับกลาย หมุนเปลี่ยนเป็นความแก่ชราแลโรคาก็มาพาลเบียนเบียดเรา ด้วยความเขลาเหตุอันนี้ จึงบังเกิดมีอวิชชาในจิต ความระนึกคิดจึงปรวนแปร ละลืมกระแสความจริงว่าทุกข์สิ่ง ย่อมเป็นไปตามวัฏฏะแห่งกฎธรรมชาติ แม้หากคนจะบังอาจแหกกฎ แต่กำหนดที่แท้จริงแล้ว ยากที่คนจะคลาดแคล้วไปได้ คงมีเพียงพระจอมไตรโลกนาถบรมราชสมภารเจ้าที่พาหมู่เหล่า เวไนยสัตว์เข้าสู่นฤพาน อันสุขเกษมศานติภพเลอลบกว่าแผ่นพื้นใดใด แต่ก็หาได้มีใครสนใจ อย่างยิ่งยวดแม้มีผู้บ่มบวชเจริญพรต ก็ใช่ว่าจะละลดปลดตัณหาอันพันผูกลงได้บ้าง กลับทวี ความบรรลัยก์ในธรรมพรต บ้างก็กำหนดคุณวิเศษด้วยอุปทาน บ้างก็พบสุขเกษมศานต์ด้วยเหล่าสานุศิษย์น้อมนำและแห่แหน อยุธยามีขาดแคลนคนดี พุทธศาสนาก็มีอยู่บ้าง ผู้ถึงสุขบ่ร้าง ดับทุกข์บ่เหลือค้าง เข้าสู่นิรพาน ธานี ๚๛
เราไปหัดเขียน
เท่าที่อ่านดู รู้สึกว่าไม่ยากเย็นเข็ญใจ เขียนสั้น-ยาวเพียงไหน ขึ้นอยู่กับใจท่านเขียน พากเพียรจึงลองหัด ไม่ถนัดชัดเจน หากบิดบิดเบี่ยงเบน รบกวนเปนหน้าที่ท่านเจ้าบ้าน วานช่วยอ่านเสริมเติมแต่ง ตัดต่อแบ่งถ้อยคำความ ทำตามท่านนิยาม พยายามจรดจารเรียนรู้...
ภาษาไทยสนุกนะคะ เชิญชวนหัดเขียนกลอน กาพย์ ร่าย บทกวีแบบอื่น ๆ เช่น กลอนเปล่า ไฮกุ โคลงสองหรือโคลงสีสุภาพกันค่ะ
ได้ความสุข จัดเป็นกิจกรรมบำบัดได้นะคะ
ปล. วันนี้เขียนหลายบันทึกหลังจากเว้นไปนาน
ภูสุภา
๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๖
ขอบคุณมากครับผม
ภาษาไทย งดงามจริงๆนะครับ
แต่ละอย่างของ กาพย์ โคลง กลอน ร่าย หรือ ร้อยแก้ว ร้อยกรองใดๆ
ให้อารมณ์ที่แตกต่าง อย่างน่าอัศจรรย์