รัฐบาลจอมหลอกลวง


เนื้อหาการแถลงข่าวชมรมแพทย์ชนบทวันที่ 17 พฤศจิกายน 2556

ต่อประเด็นการนัดชุมนุมวันที่ 20 พ.ย.56 ว่าทำไมต้องไปชุมนุมหน้าบ้านนายกรัฐมนตรี

แถลงโดย นายแพทย์ปวิตร วณิชชานนท์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลละงู จังหวัดสตูล

รองประธานชมรมแพทย์ชนบท

  

จากการที่ชมรมแพทย์ชนบทได้นัดชุมนุมใหญ่หน้าบ้านนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 20 พฤศจิกายน 2556 นี้ ได้มีคำถามสำคัญที่ชมรมแพทย์ชนบทขอชี้แจงต่อสาธารณะต่อประเด็นคำถามที่ว่า “ทำไมต้องนัดไปชุมนุมแสดงอารยะขัดขืนที่หน้าบ้านายกยิ่งลักษณ์ชินวัตร ทำไมไม่ไปชุมนุมที่กระทรวงสาธารณสุขและการชุมนุมในครั้งนี้ต้องการอะไร”

นายแพทย์ปวิตร วณิชชานนท์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลละงู จังหวัดสตูล รองประธานชมรมแพทย์ชนบทได้แถลงข่าวแจ้งว่า “การนัดชุมนุมครั้งนี้เป็นผลสืบเนื่องมาจากการขับเคลื่อนคัดค้านนโยบาย P4P และขอเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ไม่เอา รมต.ประดิษฐ สินธวณรงค์ เมื่อ5 เดือนที่แล้วมา เพราะกระทรวงสาธารณสุขได้ดื้อรั้นผลักดันนโยบายเก็บแต้มแลกเงินด้วยการใช้มาตรการ P4P, ยกเลิกระเบียบเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่าย, การพยายามยึดแทรกแซงและฮุบ สปสช., การปลด นพ.วิทิต อรรถเวชกุล ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรมอย่างไม่เป็นธรรม เป็นต้น แต่ในครั้งนั้นรัฐบาลได้ทูตและส่งเทียบมาเชิญ ขอให้มีการเจรจากันที่ทำเนียบรัฐบาลในวันที่ 6 มิถุนายน 2556 โดยมีเลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เป็นคนกลาง จากการเจรจาก็ทำให้ได้ข้อตกลง ที่มีการนำเข้ารับทราบเป็นมติ ครม.ในการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร ที่จังหวัดกำแพงเพชรในวันที่ 10 มิถุนายน 2556 โดยให้กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการตามข้อตกลงให้เสร็จใน 60 วันและในช่วงสามสี่เดือนนี้ กระทรวงยังเดินหน้านโยบายที่ผิดพลาด การบรรจุวิชาชีพนักเรียนทุนให้เป็นข้าราชการที่ไม่เป็นธรรม และการบรรจุลูกจ้างชั่วคราวเป็นพนักงานกระทรวงสาธารณสุข (พกส.) ที่มีกฎกติกาจากส่วนกลางที่คนทำงานดีกลับไม่ได้บรรจุ รวมทั้งการที่กระทรวงสาธารณสุขมีแนวทางในการฮุบงบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้ามาจัดสรรเองด้วย MOC ที่ไม่ได้รับการยอมรับจากทุกฝ่าย ซึ่งทุกนโยบายล้วนมีปัญหา สร้างความแตกแยกและความปั่นป่วนจนเจ้าหน้าที่ไม่เป็นอันทำงานทั้งสิ้น”

นายแพทย์ปวิตร  กล่าวเสริมว่า “บัดนี้เวลาได้ล่วงเลยไปแล้วกว่า 160 วันแล้ว แต่กระทรวงสาธารณสุขก็ไม่ได้รักษาสัจจะ ไม่เคารพมติการเจรจา ไม่ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี แพทย์ชนบทจึงมีความเห็นร่วมกันในการทวงสัจจะที่กระทรวงสาธารณสุขละเลย และเนื่องจากข้อตกลงนี้เป็นมติ ครม. เป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องร่วมแสดงความรับผิดชอบต่อการไม่รักษาสัจจะของ รมต.ประดิษฐและปลัดณรงค์ สหเมธาพัฒน์ นายกรัฐมนตรีผู้ดำริให้มีการเจรจา จึงควรได้รับรู้ว่า รมต.ประดิษฐและปลัดณรงค์สมคบกันไม่ดำเนินการตามมติ ครม.ใหม่ ประกอบกับทำเนียบรัฐบาลเป็นเขตหวงห้ามการชุมนุมตาม พรบ.ความมั่นคง การมาชุมนุมที่หน้าบ้านนายกรัฐมนตรี ตามที่เคยมีการนัดหมายไว้แล้วยกเลิกไป จึงมีความชอบธรรมและเป็นสถานที่ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการแสดงเจตนารมย์ในครั้งนี้ส่วนการที่ไม่ไปที่กระทรวงสาธารณสุขนั้น เพราะไม่มีประโยชน์ใดที่จะไปเรียกร้องให้ดำเนินการตามมติ ครม.ใหม่ จากคนที่ดื้อด้านไม่ทำตามมติ ครม.เอง ไม่มีประโยชน์ในการไปแสดงออกหรือพูดคุยกับคนที่ไม่มีสัจจะ เพราะแม้จะรับปากแต่เราก็ไม่เชื่ออีกต่อไป”

อย่างไรก็ตาม นายแพทย์ปวิตร กล่าวทิ้งท้ายว่า “ด้วยสถานการณ์บ้านเมืองที่มีความขัดแย้งสูงยิ่ง และหลายท่านแสดงความห่วงกังวลมาด้วยความหวังดี ชมรมแพทย์ชนบทเข้าใจดีว่า การชุมนุมยืดเยื้อมีความเสี่ยงสูงและยากต่อการรักษาความปลอดภัย ดังนั้นการชุมนุมที่หน้าบ้านนายกรัฐมนตรี จึงจะเป็นการชุมนุมด้วยสันติที่ไม่ยืดเยื้อ ไม่ค้างคืน และเมื่อประกาศเจตนารมณ์เสร็จสิ้น สมาชิกแพทย์ชนบทและสมาชิกโรงพยาบาลชุมชนใครจะเดินทางไปเข้าร่วมการชุมนุมแสดงอารยะขัดขืนที่เวทีอื่นใดก็เป็นเสรีภาพส่วนบุคคล”

หมายเลขบันทึก: 553820เขียนเมื่อ 17 พฤศจิกายน 2013 16:50 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 พฤศจิกายน 2013 16:50 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ไปว่ากระทรวงคงไม่ได้อะไร ต้องไปต่อว่าคนที่ดูแลกระทรวง นับตั้งแต่ รมต ลงมา ซึ่งก็เป็น แพทย์ ด้วยกันครับ

นั่นสิคะอาจารย์ ไม่เข้าใจว่าทำไมมีคนยินดียอมเป็นเครื่องมือของคนเห็นแก่ได้พวกนี้กันเยอะนัก ตั้งแต่หัวแถวจนมาถึงท้ายแถว ทำให้เรื่องอะไรๆก็เลวร้ายไปได้หมด เพราะคนที่ควรรักศักดิ์ศรี รักหน้าที่ของตัวเองก็ไม่มีกำลังอำนาจพอจะทัดทานคัดค้านกันเลย (จริงหรือนี่)

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท