ชีวิตที่พอเพียง: 2036. นั่งเครื่องบินไปชุมพร


 

          ที่จริงวันที่ ๑๙ ต.ค. ๕๖ ผมก็จะได้ไปเยี่ยมแม่ตามกำหนดนัดหมายรวมญาติ ทำบุญประจำปีให้พ่อ และบรรพบุรุษ    แต่ในช่วง ๒ สัปดาห์ที่ผ่านมา  แม่ (ซึ่งอายุ ๙๔ แล้ว) ไม่สบาย เข้าๆ ออกๆ โรงพยาบาล ๒ ครั้งแล้ว     ผมจึงหาโอกาสไปเยี่ยมก่อน    จนในที่สุดตัดสินใจเดินทางไปเยี่ยมด้วยเครื่องบิน นกแอร์    จากการค้นหาทางเดินทางด้วยเครื่องบินไปชุมพร ทำให้ทราบว่า โซล่าร์แอร์ ที่ผมเคยเดินทาง และแล่าไว้ ที่นี่ บัดนี้เลิกบินแล้ว

          ผมซื้อตั๋วผ่านทาง อินเทอร์เน็ต    ซึ่งหากทำเป็นก็สะดวกมาก    แต่ผมทำไม่เป็น เพราะไม่เข้าใจระบบป้องกันของบัตรเครดิต    ต้องปรึกษาทางธนาคาร    ซึ่งเมื่อจัดการระบบเรียบร้อย การซื้อตั๋วหรือสินค้าผ่านบัตรเครดิตก็สะดวกมาก   และน่าจะปลอดภัยดีด้วย    การดำเนินการครั้งนี้ ผมได้ความรู้มาก

          เช้าวันอาทิตย์ที่ ๒๙ ก.ย. ๕๖ ลูกสาวคนโตขับรถไปส่งที่ดอนเมือง    จากบ้านใช้เวลาเพียง ๒๐ นาที   เช็คอินแล้วเข้าไปผ่านการตรวจความปลอดภัย    แล้วเดินไปจนสุดอาคาร ระยะทางกว่า ๑๐๐ เมตร    เพราะเครื่องบินออกจากประตูหมายเลข ๗๔    ผมดีใจที่ได้มีโอกาสเดินออกกำลัง    เพราะเช้านี้แม้ผมจะตื่น ตั้งแต่ตีสี่   แต่ก็ไม่ได้ออกไปเดิน เพราะฝนตกหนักมาก    เดินไปจนสุดทาง ต้องลงบันไดเลื่อนไปอีก ๒ ครั้ง    ลงไปที่ชั้นเสมอดิน   เพราะประตู ๗๑ - ๗๗ เป็นประตูขึ้นรถ ไม่ใช่ประตูขึ้นเครื่อง    ต้องนั่งรถขึ้นเครื่องอีกทีหนึ่ง

          เนื่องจากผมไปเช้า    ที่นั่งในโถงรอมีที่นั่งว่างมาก    ผมจึงเลือกไปนั่งใกล้ปลั๊กไฟ เพื่อเสียบไฟใช้ MacBook Air ประจำตัว    เมื่อเสียบก็พบว่าไม่มีไฟ    ไปนั่งอีกที่หนึ่ง ก็ไม่มีไฟอีก    แสดงความชุ่ยของ การท่าอากาศยาน

          ระหว่างนั่งรอที่ประตู ๗๔ ผมได้ยินเสียงตะโกนเรียกผู้โดยสารของ แอร์เอเซีย ที่ประตู ๗๖ ซึ่งอยู่ใกล้ๆ    เรียกผู้โดยสารที่จะเดินทางไปสุราษฎร์ธานี    ทำให้ผมนึกถึงความรู้สึกตอนต้องนั่งแอร์เอเซียไปสิงคโปร์    ตอนเข้าคิวขึ้นเครื่องที่สุวรรณภูมิ บรรยากาศสับสนวุ่นวาย จนผมนึกว่าเหมือนท่ารถเมล์    เดี๋ยวนี้การเดินทางด้วยเครื่องบิน เปลี่ยนยุคแล้ว    ใครๆ ก็เดินทางได้    ระหว่างที่นั่งพิมพ์อยู่นี้ เครื่องกระจายเสียงเรียกชื่อผู้โดยสาร ๒ คนสุดท้าย ที่จะเดินทางโดย แอร์เอเซียไปสุราษฎร์ธานี ให้ไปที่ประตู ๗๖    แล้วผมก็เห็นคนแก่เดินง่อกแง่ก ๒ คน เป็นหญิงและชายเดินไป    ผมคิดว่าสองคนนี้น่าจะอายุใกล้เคียงกับผม และสาวน้อย    แต่ความแข็งแรงคงจะพอๆ กับสาวน้อย  

          ที่ป้ายตรงทางออกของเที่ยวบินที่ผมจะเดินทางไปชุมพร เขาขึ้นว่าเป็นเที่ยวบิน Nok Air DD 610 และ Nok Mini SE 610    ผมได้รู้จัก Nok Mini เพิ่มขึ้น    คงจะคล้ายการบินไทยกับไทยสมาย   

          ก่อนขึ้นเครื่อง พบ ผศ. ดร. เผชิญชัยภัตไชยสิทธิ์ รองอธิการบดี สจล. ชุมพร ท่านใหม่    ท่านเข้ามาทัก และเล่าเรื่องราวความก้าวหน้าของ สจล. ชุมพร   ว่ากำลังจะตั้งคณะวิศวกรรมศาสตร์

          ผมเลือกที่นั่งเครื่องบินมาล่วงหน้า ทาง อินเทอร์เน็ต    แต่เลือกผิด เพราะไม่รู้จักทำเลของตัวเครื่องบิน   ซึ่งเป็นเครื่อง SAAB 340B Plus จำได้คลับคล้ายคลับคลาว่าเหมือนกับที่ผมเคยเดินทางไปแม่สอด    (แต่เมื่อตรวจสอบบันทึก ที่นี่ พบว่าเป็นเครื่องบินคนละชนิด)    ผมเลือกที่นั่งด้านหน้าที่สุด ที่มีเหลือ และเป็นด้านที่หันไปทางชายฝั่ง  ได้ 4C    ปรากฏว่า เครื่องบินแบบนี้นั่งด้านหลังดีกว่า ไม่หนวกหู เสียงเครื่องยนต์    และไม่โดนปีกเครื่องบินบังวิสัยทัศน์เบื้องล่าง    ที่นั่งของผมโดนทั้งเครื่องยนต์ทั้งปีกบัง เกือบมองอะไรไม่เห็น    ผมจึงนั่งหลับ ครู่เดียวเครื่องบินก็ร่อนลง    การเดินทางใช้เวลา ๑ ชั่วโมง ๑๐ นาที  

          เครื่องบินเต็มลำ    น่าจะเป็นนักท่องเที่ยวสองในสาม    นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มีเป้าหมายไปเกาะเต่า

          น้องชายมารับผมไปเยี่ยมแม่ที่โรงพยาบาลชุมพร   แม่เป็นโรคคนแก่ ที่มีโรครุมเร้าหลายโรค แต่กำลังใจดี   และความจำดี    เมื่อผมไปถึง แม่ทักว่าแก่ น้องๆ ฮากันตึง    เราช่วยกันชักชวนให้แม่กินอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กินไข่ขาววันละ ๖ ฟอง    เพื่อเพิ่มโปรตีนในร่างกาย    แม่เป็นโรคเบื่ออาหาร และขาดอาหาร   และไตไม่ดี

          ลูกหลานเหลนมาเยี่ยมกันคับคั่งในวันนี้    ทำให้ครึกครื้นและแม่กินอาหารได้มากเป็นพิเศษ   คนเฝ้าบอกว่า แม่ตื่นตั้งแต่ตีห้า     และรอว่าวันนี้ลูกที่เป็นหมอสองในสามคนจะมาเยี่ยมพร้อมกัน 

          ตอนเย็น น้องชายคนเดิมมาส่ง    ผมจองที่นั่ง 2A ไว้     เจ้าหน้าที่บอกว่า ไม่มีหน้าต่าง    เขาเสนอให้ผม นั่งที่นั่ง 1A ซึ่งมีหน้าต่าง     แต่กว่าเครื่องบินจะขึ้น ก็มืดเสียแล้ว    มองไม่เห็นทิวทัศน์เบื้องล่างเสียแล้ว    และที่นั่งแถวหน้าสุดนั่งไม่สบาย

          ที่สนามบินชุมพร ผมพบ รศ. ปาริชาต วลัยเสถียร และคณะรวม ๗ คน กลับจากไปเก็บข้อมูลความสำเร็จ ของการพัฒนาชุมชนต้นน้ำที่อำเภอพะโต๊ะ    ที่ ผศ. ดร. จิตติ มงคลชัยอรัญญา คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มธ.   ทำงานร่วมกับ คุณพงศา ชูแนม อนุรักษ์ต้นน้ำ  และพัฒนาการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำชุมชน    จนได้รับ รางวัลโครงการพลังงานหมุนเวียนระดับชุมชน ชนะเลิศอันดับ ๑ ของอาเซียน ในงาน ASEAN Energy Awards 2013      ผมชื่นใจ ที่ผลงานผลิตโรงไฟฟ้าพลังน้ำชุมชนบ้านคลองเรือ อ. พะโต๊ะ นี้ เป็นความร่วมมือระหว่างชุมชน  กฟผ.   มธ.   คณะวิศวกรรมศาสตร์ มอ.   และ สจล. ชุมพร    การที่ภาควิชาการทำงานเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ร่วมกับชุมชน และภาครัฐบาล เป็นเรื่องที่น่าชื่นชมยิ่ง 

          เปลี่ยนมาเรื่องเศร้าสำหรับบ้านเมืองบ้าง    ผมได้รับรู้เรื่องราวการสร้างตัวขึ้นเป็นนักการเมืองระดับชาติ ของบางคน    ด้วยเส้นทางที่สำหรับผม น่าขยะแขยง    แต่เป็นที่ยอมรับของคนทั่วใป “เพราะเขาใจดี ชอบช่วยเหลือ”   “ไม่ว่าใครเป็นนักการเมือง ก็โกงทั้งนั้น    เราเลือกคนที่เอื้อเฟื้อกับเราดีกว่า”   การเมืองแบบ เงินนิยม    จะพาสังคมไทยดิ่งนรกลงไปแค่ไหน    เราจึงจะรู้สึกตัว และกู้ชาติขึ้น

          น้องชายที่อยู่ที่สุราษฎร์ธานีเล่าว่า คนที่สุราษฎร์นิยมส่งลูกไปเรียนที่มาเลเซีย ว่าคุณภาพดีกว่ามาก   และใช้เงินน้อยกว่าให้เรียนในเมืองไทย    เพราะที่เมืองไทยค่าส่งเรียนพิเศษแพงมาก    เขาบอกว่า คนที่มีเงินมากก็ส่งไปเรียนที่สิงคโปร์   เพราะคุณภาพยิ่งดีกว่า     สะท้อนการปรับตัวของคนไทยต่อการศึกษา ของลูก ในสภาพที่คุณภาพการศึกษาไทยตกต่ำ    สภาพเช่นนี้ จะยิ่งทำให้ช่องว่างทางสังคมยิ่งถ่างกว้างขึ้น

          ที่หน้าโรงพยาบาลชุมพรมีต้นก้ามปูใหญ่หลายต้น    รูปทรงสวยงาม และมีต้นเกล็ดนาคราชขึ้นคลุม ลำต้นกิ่งก้านสวยงามมาก    และเราไปกินอาหารเที่ยงที่ร้าน ต. บางหมาก    ซึ่งมีต้นไม้สวยหลายต้นแบบชาวบ้าน    จึงได้รูปสวยๆ มาฝาก    ทดแทนรูปที่ตั้งใจไปถ่ายจากเครื่องบินแต่ถ่ายไม่ได้

วิจารณ์ พานิช     

๒๙ ก.ย. ๕๖

 

ต้นก้ามปูมีเกล็ดนาคราชขึ้นคลุมต้นเขียวครึ้มสวยงาม

 

 ต้นเกล็ดนาคราชขึ้นคลุมลำต้น

เฟิร์นต้นเล็กๆ ขึ้นที่ริมถนนหน้าคลินิกของหมอศิริวรรณ ฮุ่นตระกูล

ต้นเฟิร์นจิ๋วถ่ายชิด ให้เห็นลักษณะใบ

เห็ดขอนไม้ ที่ร้านยายปวด ต. บางหมาก

ว่านสี่ทิศ

 

ดอกไม้กับแมลง

ต้นไม่ทราบชื่อ

เกล็ดนาคราชอีกชนิดหนึ่ง

เหลนสองในเจ็ดคนมาเล่นกันในห้อง ทำให้ทวดครึกครื้น

 

แม่กับลูกชายคนโต

 

เครื่องบิน Nok Mini ขากลับ

 

 

 

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 553664เขียนเมื่อ 15 พฤศจิกายน 2013 17:25 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 พฤศจิกายน 2013 17:25 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

ขอบพระคุณอาจารย์มากครับที่เล่าเรื่องดีมีประโยชน์ เพิ่มความรู้ให้ผมเยอะเลยครับ เห็นภาพถ่ายแล้วยิ่งสุขใจ โดยเฉพาะภาพลูกหลานเหลนที่มีความสุึข ก็ทำให้ผู้ป่วยพลอยสุขใจได้ด้วย

 

สวัสดีครับอาจารย์

ขอให้ท่านมีสุขภาพกาย สุขภาพใจที่แข็งแรงอยู่กับครอบครัวของอาจารย์ไปอีกนาน ๆ นะครับ

..

ด้วยความเคารพรักครับ

ดูอบอุ่นจังเลยนะครับ

เสียดายไม่เห็นอาจารย์วิจักขณ์มากับอาจารย์ด้วยนะครับ

..

ผมขอฝากความระลึกถึงอาจารย์วิจักขณ์ผ่านอาจารย์ด้วยนะครับ

กราบขอบพระคุณมากครับ

อ่านแล้วคิดถึงแม่ของผมครับอาจารย์

ปีนี้แม่อายุ ๘๖ แล้ว ผมมีโอกาสเยี่ยมแม่ตัวเองน้อยกว่าอาจารย์ครับ

ขอบคุณมากนะคะ ทำให้ดาทราบชื่อ ต้นเกล็ดนาคราช เคยถ่ายภาพไว้ที่หล่นลงมาจากต้นยางนาและบนต้น  เกล็ดนาคราชปกคลุมบนกิ่งสูงมากมายค่ะ แต่ช่วงนี้เริ่มแห้งเพราะเข้าฤดูหนาว..ผลัดใบแก่แห้ง ใบเริ่มจะล่วงมากแล้วค่ะ

 

 

เห็นอาจารย์ภาพนี้แล้วเข้าใจเลยว่าทำไมโดนคุณแม่แซว ธรรมดาที่เห็นอาจารย์จะดูหนุ่มกว่าที่เห็นวันนี้นะคะ

ต้นไม่ทราบชื่อของอาจารย์ เรามักจะเรียกว่า ต้นอะรูมิไร้ค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท