วันที่ ๔ พ.ค. ๕๕ ผมไปชุมพรโดยเครื่องบินเป็นครั้งแรก เพราะไปคนเดียวไม่คุ้มที่จะขับรถไป จึงลองนั่งเครื่องบินไปบ้าง ผมเคยนั่งเครื่องบิน CARD Dornier 228-200บรรทุกผู้โดยสารได้ ๑๘ที่นั่งของสายการบินเดียวกันนี้ คือ Solar Air ไปแม่สอดในเดือน ก.ย. ๕๓ ดังบันทึกนี้
เวลาบิน ๑๐.๐๐ - ๑๑.๑๕ น. ผมได้ที่นั่ง 2C ริมหน้าต่างด้านทิศตะวันตก เพื่อจะไม่โดนแดด และเพื่อให้ได้ชมวิวชายฝั่ง เนื่องจากเครื่องบินเป็นเครื่องบินใบพัดและไม่มีระบบปรับความดันอากาศ เครื่องบินจึงบินต่ำ ผมจึงเตรียมชมวิวและถ่ายภาพเต็มที่ โดยเตรียมเอากล้อง Canon PowerShot SX10 IS อายุประมาณ ๓ ปี ไปด้วย
เจ้าหน้าที่ของ Solar Air เป็นคนหนุ่มสาวทั้งนั้น เมื่อเช็คอินแล้ว เขาบอกให้ผ่านการตรวจความปลอดภัย ไปนั่งรอตรงบริเวณที่มีป้ายบอกชื่อ Solar Air บริเวณกว้างขวางมีที่นั่งสบาย แต่รอจน ๙.๔๐ น. เจ้าหน้าที่ก็ยังไม่เรียกไปขึ้นรถเพื่อต่อไปขึ้นเครื่อง ผู้โดยสาร (ซึ่งเป็นฝรั่งทั้งนั้น ยกเว้นผม) เข้าไปถามเจ้าหน้าที่ซึ่งตอนนั้นอยู่คนเดียวและเป็นนักศึกษาผู้หญิงฝึกงาน บอกว่าเครื่องจะออกช้า เพราะต้องรอ VIP เธอไม่รู้ว่าจะออกเมื่อไร
ทันใดนั้นเจ้าหน้าที่ชายตัวจริงก็มาถึงเคาน์เตอร์และตอบคำถามของผมว่าเครื่องออกตรงเวลา ไม่มีการรอ VIP นักท่องเที่ยวฝรั่งได้โอกาสใช้ผมเป็นพนักงานไต่ถามความมั่นใจว่าเมื่อเครื่องบินไปลงที่ชุมพรแล้ว เธอจะเดินทางอย่างไร เพื่อไปเกาะเต่า ผมซักถามแล้วให้ความมั่นใจเธอว่าเธอซื้อตั๋วไปเกาะเต่า บริการทุกอย่างรวมในตั๋ว บริษัทจะดูแลรับผิดชอบจนไปถึงเกาะเต่า ไม่ต้องกังวล ที่จริงถ้าผมไปต่างประเทศ และเจอบริการในบรรยากาศแบบนี้ ผมก็จะแสดงความกังวลยิ่งกว่านักท่องเที่ยวสาวคนนี้ นั่งรอจนถึง ๙.๕๐ น. จึงเห็นเจ้าหน้าที่ของสายการบินที่เป็นผู้ใหญ่ ๒ - ๓ คนเดินมา และเจ้าหน้าที่ชายหนุ่มพูดวิทยุมือถือ
ตอนนี้เวลา ๑๐.๐๐ น. ผู้โดยสารฝรั่งไปซักถามเจ้าหน้าที่ชายหนุ่ม เขาตอบอ้อมๆ แอ้มๆ แล้วเคาน์เตอร์ก็แทนด้วยเจ้าหน้าที่หญิงสาว ๒ คน ผมไปถามว่าเครื่องออกกี่โมง ตอบว่าสิบโมง รอให้ข้างล่างแจ้งขึ้นมาจึงจะพาผู้โดยสารไปขึ้นรถ พอเวลา ๑๐.๑๐ น. เขาก็เรียกขึ้นเครื่อง โดยพาออกไปทางด้านหลังห้องนั่งรอ ไปลงลิฟต์ผ่านทางเดินไปขึ้นรถตู้ ๒ คันไปขึ้นเครื่อง
เครื่องบินเป็น CARD Dornier 228-200 มี ๑๙ ที่นั่ง มีเจ้าหน้าที่สาวประจำเครื่อง ๑ คน จึงมีที่นั่งผู้โดยสาร ๑๘ คน วันนี้มีผู้โดยสาร ๑๓ คน เป็นฝรั่ง ๑๒ คน ไทยคนเดียวและแก่ผิดกลุ่มคือผม มีคนอเมริกันอายุประมาณ ๔๐ เศษ ที่บอกว่ามีบ้านอยู่ที่ปะทิว และไปๆ มาๆ ระหว่างกรุงเทพกับปะทิว โดยมีงานความร่วมมือระหว่างรัฐบาลสหรัฐกับกองทัพไทย เขาบอกว่ามีการเก็บยุงไปศึกษาชนิดด้วย ผมถามว่าเป็นงานของ CDC หรือเปล่า เขาตอบว่าทำนองนั้น เข้าใจว่าผู้โดยสารนอกนั้นคงจะเป็นนักท่องเที่ยวทั้งหมด
พอเครื่องขึ้น ผู้โดยสารก็ถ่ายรูปวิวกันพึ่บพั่บ จนไปออกทะเลตรงปากอ่าวแม่น้ำท่าจีน เห็นชายฝั่งทะเลและปากอ่าวแม่น้ำแม่กลองอยู่ไกลๆ ผมเตรียมกล้องถ่ายรูปมาพร้อมดีมาก เครื่องบินบินสูง ๒.๖ ก.ม. (ดูจากนาฬิกาข้อมือ) จึงเห็นชายฝั่ง เห็นอ่าว ชายหาด เกาะ และท่าเทียบเรือ ใช้กล้องที่ขยายได้ ๒๐ เท่าถ่ายเอาไว้ดูรายละเอียดทีหลัง เพื่อเทียบกับแผนที่
บริการบนเครื่องมีสำลีอุดหู น้ำผลไม้ ๑ กล่อง และเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ๑ ห่อ ผมนั่งดูวิวและถ่ายรูปชายฝั่งไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเครื่องบินลงจอดที่สนามบินชุมพร (อยู่ที่อำเภอปะทิว อยู่เหนือตัวเมืองประมาณ ๓๐ ก.ม. ก่อนลงจอดผมถ่ายรูปวิทยาเขตชุมพร ของ สจล. ที่อยู่ติดกับสนามบิน
ผม AAR การบริการขึ้น (boarding) เครื่องบิน โซล่าร์ แอร์ กับตนเองว่า เรายึดติดกระบวนทัศน์ของการให้บริการขึ้นเครื่องของเครื่องบินลำใหญ่ มีผู้โดยสารคราวละกว่าร้อยถึง ๔๐๐ ซึ่งเป็นเรื่องโกลาหล ใช้เวลามาก แต่นี่ผู้โดยสารแค่สิบกว่าคน และเครื่องบินลำเล็กนิดเดียว กระบวนการขึ้นเครื่องเพียงไม่กี่นาที และเครื่องบินก็แท้กซี่ไประยะทางสั้นๆ ก็ทะยานขึ้นฟ้าแล้ว ดังนั้นที่ผมและผู้โดยสารฝรั่งกังวลเชิงตำหนิบริการของเขา จึงไม่ถูกต้อง
เครื่องบินชนิดนี้มีข้อเสีย ๒ อย่าง คือเครื่องเสียงดังหนวกหู และเครื่องปรับอากาศไม่ดี อากาศร้อน แต่การที่เครื่องบินต่ำ ได้ดูวิวและถ่ายรูปช่วยให้ข้อด้อยไม่เป็นเรื่องใหญ่
คุณไอศูรย์ ภาษยะวรรณ์ กรรมการสภาหอการค้า ผู้ประสานงานนัดหมายผมไปพูดตามบันทึกนี้ มารับที่สนามบิน และพาไปกินก๋วยเตี๋ยวทะเลเป็นอาหารเที่ยง ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวต้นมะยม ชายหาด ต. สะพลี อ. ปะทิว สถานที่ดีมากได้ลมทะเลสดชื่น และระหว่างนั่งรอก็มีฝนเทลงมา ก๋วยเตี๋ยวอร่อยสมกับการนั่งรอนาน ผมตั้งใจว่ามาชุมพรคราวหน้าจะพาครอบครัวมากินก๋วยเตี๋ยวร้านนี้ แต่เมื่อเอาเรื่องนี้ไปปรารภกับน้องสะใภ้ ปรากฎว่าเขารู้จักร้านนี้เป็นอย่างดี
ทางหอการค้าจังหวัดชุมพรจัดให้ผมนอนค้างที่โรงแรมเอเต้ ซึ่งเป็นโรงแรมใหม่ระดับ ๔ ดาว ที่ออกแบบสวยงาม และบริการดีมากที่ห้องมีหนังสือคู่มือท่องเที่ยวชุมพรน่าอ่านมาก ผมลองค้นในอินเทอร์เน็ต มีอยู่ที่นี่
ขากลับวันที่ ๕ พ.ค. ๕๕ เวลาบิน ๑๔.๐๐ - ๑๕.๑๕ น. คุณโหน่งกรรมการหอการค้ามาส่งที่สนามบิน ผมได้ที่นั่ง 6C เห็นแต่ทะเล ไม่เห็นฝั่ง ชะโงกดูพบว่าฟ้าไม่ใสอย่างเมื่อวาน เพราะวันนี้มืดฝน และเครื่องบินบินสูงกว่าเมื่อวาน คือสูงถึง ๓ ก.ม. วันนี้ผู้โดยสารเต็มทุกที่นั่ง ๑๘ คน. และเป็นต่างชาติทั้งหมด ยกเว้นผมคนเดียว คนต่างชาติเป็นญี่ปุ่น ๒ คน นอกนั้นเป็นฝรั่ง สังเกตว่าผู้โดยสารวันนี้แต่งตัวเรียบร้อยกว่าเมื่อวาน และฟ้ามีเมฆมากทั้งเมื่อมองจากเครื่องบิน และเมื่อมองจากพื้นดิน แสดงว่าฤดูฝนมาถึงแล้ว
เพิ่มเติม ๑๕ พ.ค.๕๕
วันที่ ๑๕ พ.ค. ผมนั่งเครื่องบินการบินไทยไปหาดใหญ่ และขอที่นั่งริมหน้าต่าง เพื่อเปรียบเทียบวิวจากเครื่องบิน ปรากฏว่าไม่เห็นอะไรเลย มีแต่เมฆทึบแบบหมอก เครื่องบินบินสูง ๑๐ ก.ม. หรือ ๑๐,๐๐๐ เมตร มาเห็นชายฝั่งมัวๆ ตอนเครื่องบินลดระดับที่สงขลา
วิจารณ์ พานิช
๕ พ.ค. ๕๕ ปรับปรุง ๑๕ พ.ค. ๕๕
เดาว่าเป็นแม่น้ำท่าจีนช่วงไหลผ่าน จ. สมุทรสาคร
ถนนกลางภาพคือถนนพระราม ๒
ชายทะเลตรงปากแม่น้ำท่าจีน เห็นปากแม่น้ำแม่กลองอยู่ไกลๆ
เดาว่าเป็นบ้านแหลม เพชรบุรี
ชะอำ
เขาอะไรอยู่แถวหัวหิน
ปราณบุรี
อ่าวประจวบ เห็นสนามบินอยู่ตรงกลางภาพ
บางสะพาน มีท่าเทียบเรือน้ำลึก
ปากคลอง ปะทิว
เครื่องบิน ที่สนามบินชุมพร
ร้านก๋วยเตี๋ยวต้นมะยม
อาจารย์หมอค่ะ..ขอบคุณค่ะ ได้ชื่นชมไปกับภาพถ่ายที่ระบุ landmark ในแต่ละพื้นที่ได้ขัดเจนนะค่ะ..:-))