ประสบการณ์ในการใช้ธรรมะรักษาโรค ของคุรพัชรินทร์ ขวารัตน์ หัวหน้าแผนกผู้ป่วยนอก โรงพยาบาลหนองม่วงไข่


ปีนี้ข้าพเจ้ามีอายุ 42 ปี  รู้สึกได้ชัดว่าร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงเหมือนเดิม จริงๆร่างกายก็เริ่มส่งสัญญาณสัญญาณเตือนมาประมาณ 3 เดือนแล้ว    แต่ข้าพเจ้าก็อ้างเหตุผลสารพัด และละเลยในการดูแลตัวเอง  (ปีนี้ไม่ค่อยมีวินัยสักเท่าไหร่  ไม่ค่อยออกกำลังกาย  ฝืนทำงานเกินศักยภาพของร่างกาย   และมีความเครียดสะสมเรื้อรัง)   จนในที่สุดร่างกายมันก็ไม่ไหวจริงๆ  มันปวดมาก  อ่อนล้า อ่อนเพลีย  และที่กระทบกับการทำงานมากที่สุด คือ การคิดและการตัดสินใจผิดไปจากเดิม   ยิ่งเมื่อต้องนั่งทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์  อาการยิ่งกำเริบ  และแต่ละวันต้องใช้เวลาในการพักประมาณ 10 -12 ชั่วโมงจึงจะหายล้าและอ่อนเพลีย 

            ข้าพเจ้าได้ตัดสินใจไปปรึกษาแพทย์  และผลคือข้าพเจ้าได้รับยาเป็นกอบเป็นกำ  (ซึ่งตัวข้าพเจ้าเองนั้นได้ใช้แพทย์ทางเลือกในการดูแลตนเอง และในรอบ 2 ปีที่ผ่านมาข้าพเจ้าไม่ได้ทานยาสังเคราะห์ใดๆทั้งสิ้น)  การป่วยครั้งนี้ข้าพเจ้าจึงตัดสินใจเลือกรักษาโรคตามวิถีทางของตนเอง แต่ยังใช้ยาทาแก้ปวดของหมอโรคกระดูกอยู่ (เพื่อไม่ให้หมอเสียใจ)  ออกกำลังกายโดยการกดจุดและทำโยคะ  และใช้การสวดมนต์  นั่งสมาธิในการเยียวยาตนเอง    (เมื่อได้นั่งสมาธิประมาณวันละ 30 นาที  จะรับมือกับความเจ็บป่วยและอาการปวดได้ดี)  นับว่าเป็นโชคดีของข้าพเจ้าที่ได้เคยปฏิบัติธรรมมาบ้าง (แม้การปฏิบัติจะยังลุ่มๆดอนๆก็ตาม) ก็พอช่วยให้อยู่กับความเจ็บป่วยได้อย่างไม่ต้องทุกข์จนเกินไปนัก  และที่เห็นผลได้ชัดเจนมากคือในระหว่างการลา ข้าพเจ้าเข้าไปอยู่ที่วัด  (ได้พักทั้งกายและใจ)  ข้าพเจ้ารู้สึกว่าตนเองหายจากโรคนี้แล้ว  เพราะความไม่สบายทั้งหลายหายไปหมดตั้งแต่วันที่ 3 ที่ไปปฏิบัติธรรม 

            จนถึงเวลานี้ข้าพเจ้ายังอดทึ่งไม่ได้  ไม่น่าเชื่อเลย  ข้าพเจ้าไม่ได้ทานยาสักเม็ด  และไม่ได้ใช้การรักษาตามที่หมอโรคกระดูกแนะนำเลย   อุปทานไปเองหรือเปล่า    คำตอบคือเปล่า  เหตุผลเพราะการทำสมาธิมีผลในการเยียวยาอาการเจ็บป่วยทั้งทางร่างกายและจิตใจด้ตามผลการศึกษาวิจัยที่แพทย์และนักวิทยาศาสตร์หลายๆท่านได้ทำไว้     

            แม้วันนี้ข้าพเจ้าจะยังไม่หายขาดจากโรคที่เป็นอยู่ แต่ข้าพเจ้าก็เชื่อมั่นในการดูแลสุขภาพของตนเอง นอกจากปรับตัวในเรื่อง อาการการกิน การพักผ่อน และการทำงานแล้ว  สิ่งที่ข้าพเจ้าต้องทำอย่างต่อเนื่องคือการศึกษาและใช้หลักธรรมะในการใช้ชีวิตเพื่อรักษาสมดุลของร่างกายและจิตใจ  ข้าพเจ้าจะป่วยแค่ร่างกายเท่านั้น และจะรักษาใจไม่ให้ป่วยตามไปด้วย 

 

 

หมายเลขบันทึก: 553151เขียนเมื่อ 11 พฤศจิกายน 2013 14:14 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 พฤศจิกายน 2013 14:14 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

               ใจเป็นใหญ่...ใจเป็นประธาน

       ขอบคุณมากครับสำหรับเรื่องราวดี ๆ ที่มีมาฝาก

ดีมากที่รู้ทางแก้ไขปัญหาสุขภาพ แต่ยังเป็นทางตันที่จะแก้ไข พ.ร.บ. นิรโทษกรรม

ขอบคุณที่แบ่งปันเรื่องราวดีๆมาให้อ่านค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท