วันที่ 17 ตค. 56 (วันที่ยาวนานมาก......... ผมตื่นตีสาม จำไม่ได้แน่ว่าเข้านอนเมื่อไหร่ อาจจะหลังเที่ยงคืน)
เช้าวันนี้ หลังจากหลวงปู่เดินจงกรมเสร็จ..............ก็ร้องถามว่า "ด็อกเตอร์ ไปใส?" ผมกำลังเดินจงกรมอยู่ข้างๆ ก็เดินไปกราบ...
หลวงปู่สอนผมหลายเรื่อง.............. (ผมจะมีความสามารถพิเศษอยู่อย่าง.....คือ "ไม่เกิน 2-3 วัน ลืมได้ทุกเรื่อง" 5555 ที่ไม่มาเขียนออกบางบันทึก คือ .ลืม. จริง 555 ขนาดพยายามจำเป็นเรื่องๆ ข้อๆแล้วนะครับ ...... พี่ผมปลอบใจว่า .ไม่เป็นไร เชื่อไหม เมื่อถึงเวลา คำสอนต่างๆจะมาเอง..... ไม่ต้องจำ!! <จริงครับ น่าแปลก!!> )
- หลวงปู่บอกการปฏิบัติของตนนั้น .ไม่เคยขาด. (หลวงปู่อายุ 90 ย่าง 91 แล้วนะครับ) หลวงปู่บอกตน ยังต้องเดินจงกรม นั่งสมาธิอยู่ไม่ให้ขาด ตอนเช้าตีสี่ หลวงปู่จะทำวัตร ผมมีโอกาสได้ฟัง หลวงปู่สวดมนต์ทำวัตร สำเนียงสวดภาษาอีสาน (ไม่แน่ใจ) ผมว่าหาผู้ที่สวดสำเนียงนี้ยากแล้วครับ เป็นบุญที่ได้ฟัง :)
- ข้อวัตร วินัยพระต่างๆ หลวงปู่ไม่ยอมให้ขาด ต้องรักษาไว้ พระ เณร โยม เมื่อหลวงปู่เห็นกำลังมีโอกาสทำผิด หลวงปู่จะสอนและทำให้ดูเป็นตัวอย่าง ............ เงินทอง ไม่ไปจับเด็ดขาด ข้าวของที่ประเคนแล้ว โยมไปโดน ก็ต้องประเคนใหม่ (อันนี้โยมต้องรู้เอง ว่าพระจะผิดวินัยฯ)
......
- หลวงปู่สอนเรื่อง ครอบครัว .............. ศีลที่เสมอกัน ทำให้ครอบครัวเข้าใจกัน..............
- หลวงปู่บอกว่า......... เดี๋ยวนี้ ไม่อยากอาหาร ที่ฉันนั้นก็เพื่อรักษาธาตุขันธ์ (ผมเคยได้คุยกับพระฯ ทราบว่าหลวงปู่เดี๋ยวนี้ฉันน้อยมาก นับเป็นคำๆได้) หลวงปู่เล่า.....พอถึงเวลาฉัน มันก็ง่วงนอน ดูมัน....... พวก "มาร" .....กิเลส-มาร ทุกคำพูดที่หลวงปู่พูด ล้วนมีความหมาย พี่ผมสอนให้น้อมเข้าใส่ตัว.... ท่านสื่อสารสอนเรา บางครั้งเรายังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ บางเรื่องมานั่งนึกย้อนกลับ เราโดนเข้าให้แล้วยังไม่รู้ตัว....... (นับว่าครูบาอาจารย์ ท่านมีวิธีสอนที่ "สุดยอด" มาก ถ้าได้มาสัมผัสเอง.... จะมานั่งกราบแล้วก็กลับบ้าน เราจะไม่ได้อะไรมากนัก.... ผมไม่รู้ว่าจะอธิบายอย่างไร เอาเป็นว่า "ครูบาอาจารย์" ที่ปฎิบัติดีปฏบัติชอบ นับวันเริ่มน้อยลงไปทุกวันแล้วนะครับ...... )
- เช้านั้นที่ผมจำได้ดี (แต่ไม่เข้าใจทั้งหมด) คือหลวงปู่พยายามแยก "มาร" 5 จำพวกให้ผมฟัง....... เช้าๆหลวงปู่ก็จะบ่นว่า .ดูซิ พอเราจะออกเดินจงกรม มันก็ขัดเข้งขัดขา ขาติด ก้าวขาไม่ออก...... .มาร. ตัวนี้ก็เอาเรื่องเหมือนกัน.... " ขันธ-มาร" (คงเป็นอาการเจ็บข้อของหลวงปู่.....เราคิดไป.. จริงๆแล้ว หลวงปู่ให้เรา คิดเข้ามาใน "ใจ" เราครับ.....คิดกลับเข้ามาสอน "ใจ" เราเอง .....ตามทันมั้ยครับ.....น้อมเข้ามาใส่ "ใจ" ท่านไม่จำเป็นต้องสอนตัวเองแล้ว ก็เหลือแต่เราที่ต้องเรียนรู้....)
- หลวงปู่นั่งแจง มาร ทั้ง 5 ว่า มี (ตามแบบฉบับหลวงปู่เอง)
1. กิเลส-มาร มารที่เกิดจากกิเลสของเรา อยากได้ อยากมี อยากเป็น .....ง่วง!!!! ขี้เกียจ!!! (สองอันหลังนี้ โดนเข้าเต็มหน้าเลย 55555)
2. ขันธะ-มาร มารที่เกิดจากธาตุขันธ์ รูปขันธ์เรานี่แหละ ร่างกายเจ็บป่วย...... มารที่คอยมาดึงเราไม่ให้ปฏิบัติ เราต้องฝืน ต้องสู้มัน........
3. มัจจุมาร............. ความตาย ......... ที่รอเราอยู่ มีเกิด มีแก่ มีเจ็บ และมีตาย มัจจุมารฯ (หลวงปู่ไม่ต้องอธิบายมาก มารตัวนี้มาเมื่อไหร่ ไม่มีใครนรู้ แต่เป็นตัวหยุด!!! การปฏบัติเราได้ทันที!!! หมดโอกาส!!)
4. สังขาร-มาร (ฟังไม่ชัดเหมือนกัน ข้อนี้ครับ) สังขารคือการปรุงแต่ง....... (ครูบาอาจารย์ ท่านรู้ว่า ลูกศิษย์ฯ แต่ละคนควรจะต้องเน้นแนวทางไหนก่อนหลัง....) ผมเชื่อว่าข้อนี้ผมยังไม่ถึงขั้นที่หลวงปู่จะมานั่งอธิบายให้เข้าใจ.....
5. เทวบุตร-มาร อันนี้ขอละไว้ในฐานที่ ไม่เข้าใจบ้าง-เข้าใจบ้าง 5555
- หลวงปู่ย้อนถามผมหลายเรื่อง คำตอบผมอยู่ในใจ ซึ่ง....ลูกศิษย์คนนี้ยังทำไม่ได้ และคงต้องทำต่อไป........
- การ "ละ" การ "วาง" ...................... ." มีอะไร ที่เราจะเอาอีกหรือ??? " ผมคิดว่าในที่นี้หมายถึง "ชีวิต" ต่างๆ เราก็ไปยึด ไม่มั่น ทั้งที่เราก็ไปก็เข้ากำหนดอะไรไม่ได้...... เราเองยังกำหนดเราเองไม่ได้!!! วันนี้ วันไหน เมื่อเราต้องตายไป.... จะเร็วหรือช้า อย่างที่ผมเคยเขียน ถ้าพรุ่งนี้เราต้องตายไป (โชคดีหน่อยเรารู้ตัวก่อน) เราจะไปกำหนดกฏเกณฑ์ใครๆ ได้มากมายแค่ไหน..... เฮ้ออออ....... เซ็ง!!! ยิ้มๆขำๆ!!
.......... ไว้มาเขียนต่อคร้าบบบบบบ
*****************************
ผมไปค้นจากอากู่ได้ความว่า (ขอให้่ทานพิจารณษแล้ว โอปนยิโก ด้วยนะครับ.....)
[234] มาร 5 (สิ่งที่ฆ่าบุคคลให้ตายจากคุณความดีหรือจากผลที่หมายอันประเสริฐ, สิ่งที่ล้างผลาญคุณความดี, ตัวการที่กำจัดหรือขัดขวางบุคคลมิให้บรรลุ ผลสำเร็จอันดีงาม — the Evil One; the Tempter; the Destroyer)
1. กิเลสมาร (มารคือกิเลส, กิเลสเป็นมารเพราะเป็นตัวกำจัดและ
2. ขันธมาร (มารคือเบญจขันธ์, ขันธ์ 5 เป็นมาร เพราะเป็นสภาพอันปัจจัย
3. อภิสังขารมาร (มารคืออภิสังขาร, อภิสังขารเป็นมาร เพราะเป็นตัวปรุงแต่งกรรม นำให้เกิดชาติ ชรา เป็นต้น ขัดขวางมิให้หลุดพ้นไปจาก
4. เทวปุตตมาร (มารคือเทพบุตร, เทพยิ่งใหญ่ระดับสูงสุดแห่งชั้น
5. มัจจุมาร (มารคือความตาย, ความตายเป็นมาร เพราะเป็นตัวการตัดโอกาส ที่จะก้าวหน้าต่อไปในคุณความดีทั้งหลาย — the Mara as death)
http://www.84000.org/tipitaka/dic/d_item.php?i=234
ก
สาธุ...ด้วยคร้า...
เอ !!! แล้วพยามาร หัวเหลือง ที่ อ. was ชอบเอ่ยนี่เป็นมารแบบไหนน้อ อิ อิ อิ
มารหัวเหลือง.......ไม่มีในนิยามที่ชัดเจนนัก อันนี้ต้องถามคนตั้งนะ 55555
อนุโมทนาบุญด้วยครับ
เป็นบุญที่ได้อ่าน
มาเขียนบ่อย คอยเตือนข้าน้อยก็ดีนะครับ
ขอบคุณครับ
ขอสาธุๆด้วยคนครับ
หลวงปู่สอนดีมากๆครับ
ชอบคำสอนนี้ครับ
หลวงปู่สอนเรื่อง ครอบครัว .............. ศีลที่เสมอกัน ทำให้ครอบครัวเข้าใจกัน..............
มาร่วมอนุโมทนาบุญ ด้วยนะคะ
- ชอบแนวคิด เกี่ยวกับ สิ่งที่เราคิดว่า เราจำไม่ได้ !! ....แต่เมื่อถึงเวลา สิ่งเหล่า นั้น จะถูก นำมาใช้เอง.......
อนุโมทนาบุญ ด้วยนะคะ ท่านอาจารย์