พี่เลี้ยงฝึกหัด
จากการทำงานจิตอาสามาระยะเวลาหนึ่งก็ถึงคราวจำเป็นที่จะ ต้องมีคนดำรงสืบทอดรุ่นต่อไปให้เป็นเเนวทางเดียวกันโดยที่มีรุ่นต่อไปสานต่อการทำงาน...ทั้งนี้ในการทำงานของเเต่ละรุ่นนั้นมีเป้าหมายเดียวกันเเต่วิธีในการไปถึงเป้าหมายนั้นอาจเเตกต่างกันไปตามความคิดเเละศักยภาพหรือบริบทที่เปลี่ยนเเปลง "การทำงานสิ่งเเวดล้อมเป็นงานที่ไม่เสร็จ"(คำพูดของ อ. ศศิน เฉลิมลาภ) ฉะนั้นเมื่อเป็นงานที่ไม่เสร็จก็ต้องใช้ระยะเวลาในการพัฒนางานซึ่งระยะเวลานี้เองที่เป็นอีกปัจจัยหนึ่งในการสร้างรุ่นถัดมาเพื่อสืบเจตนารมณ์ของงานต่อไป ...ข้าพเจ้าทำงานจิตอาสามา 1 ปีเศษๆ...ได้เรียนรู้เเละรับรู้สิ่งต่างๆมากมายในชีวิตจริง ถ้าเราไม่ได้ลงทำงานจิตอาสาจริงจะไม่รู้เลยว่าจิตอาสาทำงานอย่างไร ! ... เมื่อก่อนข้าพเจ้าอยู่ในบทบาทของประธานกลุ่มซึ่งเปรียบได้กับผู้นำหลักที่คอยควบคุมเเละดูเเลบางครั้งอาจเป็นผู้ตามบ้างเเล้วบางครั้งอาจเป็นผู้นำบ้างเพราะความสามารถของเเต่ละคนไม่เหมือนกัน...ตอนนี้ได้มาอยู่ในบทบาทของพี่เลี้ยงซึ่งมีคนเคยถามผมว่า "พี่เลี้ยง" เป็นอย่างไร "ผมตอบได้เลยว่าผมไม่รู้เพราะผมไม่เคยเป็นพี่เลี้ยงมาก่อนเเต่ผมจะทำงานในลักษณะของกึ่งครูกึ่งนักเรียน คือ คอยสอนในสิ่งที่เขาไม่รู้ คอยสอนในสิ่งที่เป็นบทเรียน คอยป้อนข้อมูล ซึ่งจากบทบาทของครูเเล้วในการทำงานเป็นทีมจะขาดสิ่งนี้ไม่ได้เลย คือ เพื่อนร่วมงาน หรือบทบาทของนักเรียน ที่จะลงไปกับเขาในการทำงานเพราะมีที่ปรึกษาอย่างเดียวไม่เพียงพอที่จะพัฒนางานให้พลาดน้อยที่สุด เนื่องจากการทำงานกับชุมชนมีปัจจัยต่างๆที่เข้ามามากมายที่อาจทำให้ "เสียสมาธิ" ของงาน ... การเป็นพี่เลี้ยงฝึกหัดยังต้องพัฒนาสิ่งที่ผมมองว่าเป็นโมเดลเเรก คือ "การเป็นทั้งครูเเละนักเรียน" ในคนๆเดียวกัน...
เข้ามาให้กำลังใจครับ
ขอชื่นชมพี่เลี้ยงด้วยคนครับ
มาเล่าอีกนะครับ
เป็นกำลังใจนะคะ...
-สวัสดีครับ..
-เจ๋งมาก ๆครับน้อง...
-เขียนบ่อย ๆนะครับ..
-รอติดตามอ่านครับ
ขอขอบคุณมากๆ... สำหรับคำติชมข้างต้นครับ...