นับตั้งแต่ฉันเกิดมากับครอบครัวของพ่อ + แม่
ฉันมีน้องสาวอีก ๑ คน เรามีด้วยกัน ๒ คนพี่น้อง
รวมครอบครัวของฉันมีด้วยกัน ๔ คน...
พ่อ-แม่ ไม่มีลูกชายมีแต่ลูกสาว...
พ่อ - แม่ ของฉันไม่ค่อยทะเลาะกันเหมือนกับ
ครอบครัวอื่น มีบ้างแต่เพียงแค่ขัดคอกัน...
ไม่ทันข้ามวันพ่อก็มาง้อแม่แล้ว...เป็นแบบนี้เรื่อยมา...
ฉันจึงทึกทักว่า...ครอบครัวของเราอบอุ่น
เพราะไม่เคยเห็นพ่อลงมือตบตีแม่แม้แต่ครั้งเดียว...
มีแต่เห็นว่า...พ่อชอบแซวแม่...
เมื่อฉันโตขึ้น ฉันได้แต่งงานกับพ่อเรของพี่ภัคร...
เรียกว่า "นานมาก ๆ"
ช่วงแรก ๆ สัก ๓ - ๔ ปี ได้กระมังที่ฉันได้อยู่
ด้วยกันกับพ่อเรของพี่ภัคร...
แต่พอเมื่อฉันสอบบรรจุติด ก.พ. ได้บรรจุเป็นข้าราชการ...
นับแต่นั้นเรื่อยมา...ครอบครัวของฉันกลายเป็นว่า...
เราไม่ได้อยู่ด้วยกันทุกวันเหมือนตอนแรก ๆ ที่แต่งงานกัน...
ฉันเทียวไปทำงานต่างอำเภอ...ตั้งแต่พี่ภัครอายุได้ ๖ เดือน...
จนบัดนี้ "พี่ภัคร" จะอายุ ๒๗ ปี แล้ว ฉันก็ยังเทียวแบบนั้น...
จนฉันชาชินกับเรื่องนี้ไปเสียแล้ว...
แต่การปฏิบัติตนเองของฉัน ๆ ไม่เคยพลาดที่จะไม่กลับบ้าน
ทุก ๆ สัปดาห์ คือ เย็นวันศุกร์ ทุกสัปดาห์...
ฉันต้องกลับมาดูแลครอบครัวของฉัน...
ฉันทำเยี่ยงนี้ตลอดมา ตั้งแต่ปี ๒๕๓๑ จนถึงบัดนี้...
และก็เป็นแบบนี้เรื่อยมา...
การอยู่ห่างกันของครอบครัว บางคนบอกว่า "ไม่ดี"...
บางคนบอกว่า "ดี" เพราะจะได้ไม่ค่อยทะเลาะกัน...
คนเราเมื่อแต่งงานกัน แรก ๆ ก็ดีอยู่หรอก...
แต่คนเราก็ย่อมมีบ้างที่จะต้องมีการขัดคอกัน...
เริ่มแรกและสุดท้ายก็ลงเอยด้วยการทะเลาะกัน...
แต่สำหรับฉัน...เราไม่ค่อยได้ทะเลาะกัน...
มีบ้างบางครั้งที่ขัดคอกัน...ครอบครัวของฉันเหมือนกับ
ครอบครัวของพ่อ - แม่ ฉัน...ไม่ทันข้ามวัน...เราก็ดีกัน...
การที่พวกเราอยู่ห่างกันนั้น...ใช่ว่าพวกเราอยากจะทำ
เหตุเป็นเพราะพวกเราต้องหาเลี้ยงชีพ เพื่อเลี้ยงดูครอบครัว
จึงทำให้เราต้องห่างกัน...ห่างกันจนเรารู้ใจกัน...
ไว้ใจซึ่งกันและกัน...ฉันรู้นิสัยของพ่อเรของพี่ภัคร...
และพ่อเรของพี่ภัครก็รู้ใจฉัน...เราต่างไว้ใจซึ่งกันและกัน...
รวมทั้งอายุวัยของฉันกับพ่อเรของพี่ภัคร...
เรามีอายุห่างกัน ๑๒ ปีเต็ม...จึงทำให้เราสองคน
อยู่ด้วยกันเหมือนพ่อ พี่ เพื่อน กันมากกว่า...
อาจต่างกันด้วยวัยวุฒิ จึงทำให้เราเคารพสิทธิซึ่งกันและกัน...
การมีชีวิตคู่นั้น...ขึ้นอยู่กับการให้เกียรติซึ่งกันและกัน...
การไว้วางใจกันนั้น...จะทำให้ชีวิตคู่ดูอบอุ่นยิ่งขึ้น...
ฉันปฏิบัติเยี่ยงนี้เสมอมา...ถึงเวลาฉันก็กลับบ้านตรงเวลา...
หากมีเหตุขัดข้อง ฉันจะโทร.บอกและเล่าให้ทางบ้านฟังอยู่เสมอ...
ฉันทำตัวอย่างให้ลูกได้ดู ได้เห็น ได้จำว่า...
พ่อ - แม่ ครองตนในเรื่องครอบครัวกันอย่างไร?
เราจะไม่นำตัวอย่างที่ไม่ดีมาให้ลูกดู ลูกเห็น...
เพราะพวกเราต้องการให้ลูก ๆ จำภาพที่ดี ๆ ของพ่อ - แม่
เพื่อเขาจะได้นำไปเป็นเยี่ยงอย่างกับการที่พวกเขา
ได้มีชีวิตคู่...ฉันก็ไม่รู้ว่าที่ฉันปฏิบัติอยู่นี้ใช่หรือไม่...
กับคำว่า "ครอบครัวอบอุ่น"...แต่ในใจฉันว่า "ใช่"
เพราะการที่ครอบครัวไม่ทะเลาะเบาะแว้งกัน
มันจะนำมาซึ่ง "ความรัก + ความอบอุ่น"
สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ มันจะเป็นพลังทำให้ครอบครัว
เกิดความเข้มแข็ง และคนในครอบครัวเกิดสุข...
โดยสุขทั้งกายและสุขทั้งใจ...
นี่คือ...ครอบครัวของฉันอาจเหมือนและไม่เหมือนกับ
ครอบครัวของคนอื่น...
ปล. เมื่อฉันได้เรียนจบแล้วและรู้เรื่องของการเรียนรู้แล้ว...
ฉันจึงนำมาปฏิบัติต่อชีวิตของฉัน...และครอบครัวของฉัน...
นี่คือ..."ครอบครัวของฉัน"
-สวัสดีครับ
-ขอบคุณการ"ครองเรือน"ที่น่านำเอาเป็นแบบอย่างครับ
-หลานสาวโตขึ้นมากนะครับ...
เป็นครอบครัวตัวอย่างที่หาได้ไมาง่ายนักครับ
เป็นที่น่าอิจฉาจากครอบครัวหลายๆครอบครัวครับ
ขอบคุณสำหรับบันทึกดีๆนี้ ขอบคุณครับ
ขอบคุณค่ะ คุณเพชรน้ำหนึ่ง
ชีวิตคนเรา...ไม่เหมือนกันหรอกค่ะ...จะดีจะชั่วอยู่ที่ทำตัว จะชั่วจะดีอยู่ที่ตัวทำคร้า...
ขอบคุณค่ะ ลุงเขียน...
ทุกครอบครัวสร้างได้ ขึ้นอยู่กับแต่ละคนแล้วละค่ะว่าจะเต็มใจ ตั้งใจสร้างหรือเปล่า?
ขอบคุณสำหรับดอกไม้กำลังใจจากทุก ๆ ท่านคร้า...
ทุกนาวาชีวิต...ปรารถนาไปให้ถึงฝั่งนะคะ...ชื่นชมและเป็นกำลังใจค่ะ
การมีชีวิตคู่นั้น...ขึ้นอยู่กับการให้เกียรติซึ่งกันและกัน...
การไว้วางใจกันนั้น...จะทำให้ชีวิตคู่ดูอบอุ่นยิ่งขึ้น...
มาชื่นชมการครองตน ครองคน ครองงาน ของ คุณบุษยมาศ ค่ะ
ยินดีด้วยนะคะ
ขอบคุณค่ะ ดร.พจนา
ขอบคุณค่ะ ดร.Joy + คุณ nui
ขอบครัวอบอุ่น
สังคมก็อบอุ่นครับ
ขอบคุณพี่บุษยมาศมากๆๆ
ขอบคุณค่ะ ดร.ขจิต
ถูกต้องแล้วคร้าบบบบบบ...