รักไม่ยอมเปลี่ยนแปลง


... ไม่มีอะไรเลยจริงๆ ที่เป็นแก่นสารสาระ ...ยื้อแย่ง แข่งขัน กอบโกย ตะบี้ตะบัน ..เพื่อที่สักวันหนึ่งก็จะลาจากกันไป...สองมือเปล่าๆ

  รักไม่ยอมเปลี่ยนแปลง

เกศินี จุฑาวิจิตร


         ฉันก้าวขาลงจากรถด้วยใจเอิบสุข... ได้กลับมาที่นี่อีกครั้งหนึ่ง

         ปรายสายตาไปโดยรอบ พึงใจอยู่เงียบๆ กับความสงบ เป็นระเบียบ ทั้งสีเขียวของต้นหญ้าก็ช่วยคลายร้อนไปได้มาก   “ผู้ปกครอง” เดินมาต้อนรับ ยิ้มแย้มด้วยอัธยาศัย ฉันรีบแนะนำตัวเองและแจ้งวัตถุประสงค์การมา เยือน  เธอพยักหน้ารับด้วยทราบล่วงหน้าแล้วจากหนังสือราชการที่เดินทางมาถึงก่อน

         วันนี้ฉันพานักศึกษาเอกพัฒนาชุมชน 9 คน ออกมาสัมภาษณ์คุณตาคุณยายที่อยู่ในสถานสงเคราะห์คนชราแห่งนี้  เพื่อประเมินความพึงพอใจในการรับบริการ  ผู้ปกครองพาฉันเดินเข้าไปในอาคารห้องพักที่มีการแบ่งเขตแดนค่อนข้างชัดเจน  

         ตรงนี้... เป็นห้องพักรวม ดูคล้ายกับหออภิบาลผู้ป่วยในโรงพยาบาล มีเตียงตั้งอยู่เป็นระยะๆ ไม่แออัด   

         ตรงนั้น... เป็นที่อยู่ของผู้ป่วยติดเตียง  บางคนมีญาติมาคอยดูแล แต่บางคน..ไม่มีใคร

         ตรงโน้น...  โซนของผู้ที่มีอาการ “หลง”...  คนกลุ่มนี้จะถูกขีดวงให้อยู่ในห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ เฉพาะตน  ฉันเดินผ่านห้องสี่เหลี่ยมนั้นด้วยใจหดหู่.. หดหู่กับความซึมเศร้าและระทดท้อ  ครั้งหนึ่งของพวกเขาและเธอ ล้วนคือคนหนุ่มสาวที่แข็งแรง สดใส บางคนสร้างคนและบางคนสร้างโลก.. แล้ววันนี้ของพวกเขา คือ ชีวิตเฉาๆ เช่นนี้หรือ

         เสียงของตัวละครตัวหนึ่ง ในวรรณกรรมซีไรต์เรื่อง “เวลา” ของ ชาติ กอบจิตติ ก้องเข้ามาในหู “ไม่มีอะไร ไม่มีอะไรจริงๆ” ชีวิตจากครรภ์มารดาสู่เชิงตะกอน

         ... ไม่มีอะไรเลยจริงๆ ที่เป็นแก่นสารสาระ ...ยื้อแย่ง แข่งขัน กอบโกย ตะบี้ตะบัน ..เพื่อที่สักวันหนึ่งก็จะลาจากกันไป...สองมือเปล่าๆ

         เดินผ่านตู้น้ำเย็น ผู้ปกครองแนะนำให้รู้จักคุณยายคนหนึ่งที่กำลังยืนกดน้ำดื่ม ฉันยกมือพุ่มไหว้  รับทราบภายหลัง หญิงชราวัย 71 ปีคนนี้ ไม่ใช่สมาชิกที่นี่ ... แต่มาอยู่ที่นี่ในฐานะผู้ติดตามและดูแลสามี วัย 75 ปี ซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียง

         ฉันเดินตามเธอไปเงียบๆ จากเตียงหนึ่งไปอีกเตียงหนึ่ง ไปอีกเตียงหนึ่ง จนถึงเตียงในสุดติดผนังห้อง  ...

ชายชราผมขาว ตัวโต นอนราบอยู่บนเตียงนั้น  เปลือกตาคล้ายจะปิด ผิวพรรณสะอาดสะอ้าน.. คุณตานอนป่วยแบบนี้มาแปดปีแล้ว .. แปดปีที่ภรรยาของเขาไม่เคยห่างหาย  ในยามเขาที่ต้องนอนเป็นคนไข้ในโรงพยาบาล เธอก็นั่งอยู่ข้างเตียง เวลาที่เขาเข้ามาอยู่ในสถานสงเคราะห์

 เธอก็ตามมาอยู่ด้วย  คอยดูแลปรนนิบัติ อาบน้ำ เปลี่ยนผ้าอ้อม หวีผม เช็ดเท้า ซักผ้า รวมไปถึงทำความสะอาดห้องพัก

         ... ที่นี่กลายเป็นบ้าน ...

         ในยามดึกที่เตียงข้างๆ ต่างหลับใหล แต่สำหรับเธอ  มันเป็นเวลาที่จะต้องคอยปลุกเขาให้ตื่นขึ้นเพื่อทานยาตามที่หมอสั่ง และยังต้องคอยพลิกตัวให้อย่างเป็นเวลา  ปัญหาจากแผลกดทับจึงไม่เคยเป็นประเด็น ... เพราะลองว่าถ้าหมอสั่งให้ทำอะไรแล้วล่ะก้อ.. ไม่มีเสียล่ะที่คุณยายจะไม่ปฏิบัติตาม ...

         คุณยายเล่าว่า ตัวเธอและสามีมีอาชีพปลูกกล้วยไม้ส่งออกและตัดเสื้อผ้า มีฐานะไม่ลำบาก อยู่ด้วยกันมานานแต่ไม่มีลูก เมื่อสิบปีก่อนคุณตาเริ่มล้มป่วย คุณยายพยายามทุกวิถีทางที่จะพาไปรักษาที่นั่นที่นี่  เงินทองที่สะสมไว้ก็เริ่มร่อยหรอ สุดท้ายจึงขายบ้านและเข้ามาอยู่ในสถานสงเคราะห์ แม้ญาติพี่น้องจะหยิบยื่นโอกาสและชวนไปอยู่ด้วย แต่คุณยายก็ไม่ยอมไป  แม้พวกเขาจะเต็มใจ หากเธอก็เกรงใจ

         “... อาจเป็นเพราะเราคู่กันมาแต่ชาติไหน จะรัก..รักเธอตลอดไป เป็นลมหายใจของกันและกัน...” เสียงเพลงบางๆ ลอยมาตามลม

         วันนี้จึงอิ่มเอมนัก อิ่มแรก คือ การได้เตือนตัวของตัวเอง ความจริงของชีวิตที่ต้องหมั่นย้ำทุกนาที  อย่าไป “หลงยึด” และ “ติดกับ”  เพราะชีวิตไม่มีอะไร  ถ้าไม่ “สร้าง” อะไรที่มีคุณค่าต่อผู้อื่น ก็ไม่รู้จะเกิดมา “เพื่อ” อะไร  ...ส่วน ขันธ์ห้า...ก็ ก้อนทุกข์ดีๆ นี่เอง ไม่ใช่คน ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่เรา ไม่ใช่เขา 

         ส่วนอีกอิ่มหนึ่งของฉันวันนี้ ... อิ่มกับรักที่ไม่ยอมเปลี่ยนแปลง ... สียังมีเปลี่ยน เขียนยังมีวันลบ ละครยังมีวันจบ แต่จะจบใจ(คุณยาย)นี้ไม่มีทาง !!!

 

                                      ______________________________

 

          

หมายเลขบันทึก: 549412เขียนเมื่อ 27 กันยายน 2013 11:04 น. ()แก้ไขเมื่อ 27 กันยายน 2013 11:04 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

มาให้กำลังใจคุณยายและสามีครับ

อาจารย์สบายดี

อยากมีโอกาสลงชุมชนกับอาจารย์บ้าง

เอามาฝากครับ

ค่ายบูรณาการโรงเรียนบ้านหนองผือและบ้านเขานางสางหัว(2)

 

   มาให้กำลังใจค่ะ ..... เป็นความรักที่  "ประเมินค่ามิได้"  จริงๆๆค่ะ 

 

 

   ขอบคุณบันทึกดีดีนี้้ค่ะ

...เป็นกำลังใจให้คุณยายและคุณตานะคะ...

อ่านแล้ว ลึกซึ้ง งดงาม ครับ...

เป็นกำลังใจให้คุณตา คุณยาย ด้วยคนครับ

ขอบคุณที่แบ่งปันเรื่องราวดีๆครับ อาจารย์

ขอบคุณมากค่ะ สำหรับบันทึกดีๆ เป็นกำลังใจให้คุณตาและคุณยาย นะคะ

อ่านแล้วซึ้งกับความรักที่ไม่ต้องการอะไรตอบแทนจริงๆค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท