มัทนา
มัทนา (พฤกษาพงษ์) เกษตระทัต

วันนี้เอง เร่งกระทำ ซึ่งหน้าที่


จาก หัวข้อธรรมในคำกลอน

ท่านพุทธทาส 

จะทำงานการใดตั้งใจมั่น

อย่าผลัดวันทำเล่นเช้าเย็นสาย

ไม่ทิ้งคาอากูลมากมูลมาย

เร่งคลี่คลายให้เสร็จสำเร็จการ                                                                 

                                   signature 

(ภาพจาก แฟ้มภาพพุทธทาสภิกขุ 4)

หมายเลขบันทึก: 54900เขียนเมื่อ 17 ตุลาคม 2006 11:11 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 16:07 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)
ได้รูปดีๆ มาจากแฟ้มภาพมากมาย ...ขอบคุณครับ ว่างๆ ช่วยบอกด้วยครับว่า ...ทำไมจึงสนใจธรรมะ ... "ธรรมะ ทำไม.... ทำไม ธรรมะ?"  

ขอบคุณค่ะที่แวะมา ส่วนทำไมสนใจธรรมะนี่ ขออนุญาตตอบยาวค่ะ : P

  • คงต้องยกประโยชน์ให้คุณพ่อค่ะ ตั้งแต่เด็กมาเห็นพ่ออ่านอะไรก็จะอ่านตาม เข้าใจมั่งไม่เข้าใจมั่ง
  • หนังสืิอของพ่อเล่มที่ทำให้มาศึกษาพุทธศาสนาจริงจังคือ พุทธศาสนาในฐานะเป็นรากฐานของวิทยาศาสตร์ของท่านประยุทธ์ ปยุตโต ค่ะ พ่อให้มาเพราะไปถามพ่อว่า
  • เนี่ยะ มีฝรั่งมาถามตอนไปอยู่ host family ที่ออสเตรเลียว่าศาสนาพุทธเป็นยังไงคราวหน้าถ้ามีคนถามตอบไงดี

ก็ศึกษามาเรื่อยๆ เพราะรู้สึกว่าเราเป็นชาวพุทธ ก็ควรจะรู้ ไม่ได้มีแรงจูงใจอะไรมากค่ะ

  • จนเมื่อสามสี่ปีที่แล้วตอนเรียนเอกใหม่ๆ เรียนปรัชญาเรื่อง อะไรจริง ไม่จริง, อะไรมีอยู่ ไม่มีอยู่, กระบวนการคิด cognitive process อะไรคือ conscious... แล้วพยายามหาจุดยื่นตัวเองว่าเราคิดอย่างไร ยิ่งอ่านของฝรั่งยิ่งงง งงมาก อึดอัด ตกลงเวลาเขียนวิทยานิพนธ์เราจะเขียนยังไง เราเป็น positivist realist constructivist หรือ postmodernist ก็เลยลองหันมาดูว่าแล้วศาสนาพุทธมองเรื่องนี้อย่างไร โป๊ะเชะค่ะ ศาสนาพุทธตอบได้ถูกใจมาก
  • แล้วพอดีก็ได้พบเจอกับคนที่ชวนสนทนาธรรมะ ชวนฝึกสมาธิมากขึ้น มีการจัด retreat ที่นี่ มีพระมาเทศน์เรื่อยๆค่ะ (มีกัลยาณมิตร)
  • หลังๆนี้เริ่มมาิ่อ่านศาสนาเปรียบเทียบด้วยค่ะ เพราะครอบครัวสามีเป็นคริสต์ค่ะ
  • คำตอบสุดท้ายของคำถามทำไมธรรมะ ...คือ เพราะ "ทุกข์" ค่ะ ไม่ชอบเวลาตัวเองโกรธหรือโมโห  ไม่ชอบตัวเองเวลาขี้เกียจ  :  )

 

พี่เองสนทนาธรรม แก่นศาสนาอื่น ๆ กับกัลยาณมิตร เป็นระยะ ๆ

เชื่อไหมว่าเขา(เพื่อนคนนี้เป็นคาธอลิค)รู้แก่นของศาสนาพุทธ เป็นอย่างดี

(มากกว่าพี่หรือเปล่า?)

สองวันนี้ เขากับพี่ถกกันว่า เนื้อหาแท้ ๆ(part ใหญ่ ๆ) ของศาสนา(ใดก็ตาม)อาจคล้ายกัน แต่ไม่เหมือนกันนัก ทั้งวิถี วิธี และแก่น..โดยเฉพาะ จุดorigin

เขาเชื่อว่า ต้องมีsome thing or some one แน่นอน

พี่ก็เสนอแนวตัวเองว่า ถ้าดูตามวิทยาศาสตร์(แฝงแนวคิดทางพุทธ) ก็คือ ชาติภพ..

ท้ายสุดเราสองคน เห็นตรงกันไว้ก่อนว่า เราต้องศึกษาอีกมาก ๆ ๆ ๆและ มาก

เหมือน แก้ว กับ เพชร

ใครดูเผิน ๆ ก้อาจจะบอกว่า คล้ายกัน

แต่สำหรับศาสนาแต่ละศาสนา เป็นเพชร ทั้งนั้น

ต้องศึกษาหาวิธีดูเหลี่ยม ดูมุม ดูคุณค่าของเพชร...

เห็นด้วยไหมเอ่ย..แลกเปลี่ยน คคห น่ะค่ะ

อยากรู้เรื่องธรรมะ ก็ไปคุยกับพระสิครับ อยากซื้อเพชร ไปถามหาที่ร้านขายปลาจะได้ เพชร หรือ? โถ่

จาก น้องเอง

พี่เอง + น้องกวิน:

เรื่องศาสนาเปรียบเทียบแล้ว มันคิดว่า แปลให้เหมือน มันจะเหมือนได้ระดับหนึ่ง

มัทเชื่อและเห็นมาเองว่า คนที่ไม่ได้นับถือพุทธต้องปฎิบัติลึกซื้งมากเท่านั้น ถึงจะได้ไปในที่ที่พุทธชี้ไป คือ ทางเค้ามันเป็นคนละทาง แต่มันก็ไปถึง ถ้าเค้าเข้าใจในอะไรบางอย่างที่มันมากไปกว่าความสามารถของภาษาคนจะเขียนออกมาเป็นรายลักษณ์อักษรได้ เค้าต้องรู้จักมองเข้าไปข้างใน ข้อดีของคริสต์คือคนที่มีเมตตานั้นสุดแสนจะมีเมตตา มันมีพลังมากๆๆๆๆๆๆ

แต่ถ้าเอาตามพระคัมภีร์นั้น ยิ่งถ้าเชื่อตามตัวอักษรตามกฎแล้วหล่ะก้อ ไม่มีทางไปที่ที่พุทธชี้ไปได้ค่ะ แต่ก็ไม่ได้แปลว่าเค้าจะไม่เป็นคนดีนะคะ 

แต่ไปขึ้นคนละฝั่งเท่านั้นเอง

นี่คือความเชื่อความเข้าใจส่วนตัวค่ะ คุยลงรายละเอียดได้อีกเยอะ

เช่น คริสต์บอกว่าตายแล้วไม่เกิดใหม่ พุทธนั้นถ้าอยู่เหนือโลกียะได้ บรรลุจริงๆก็ไม่ควรมีอะไรมาเกิดใหม่ น่าคิดนะคะ

 

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท