.เยือนถิ่นมีมนต์ขลัง ณ ลังกาวี...


เยือนถิ่นตำนานพระนางเลือดขาว ณ ลังกาวี

                                   เยือนถิ่นมีมนต์ขลัง ณ ลังกาวี 

เกาะลังกาวี เป็นเกาะทางตอนเหนือของประเทศมาเลเซีย อยู่ทางตอนใต้ของประเทศไทยใกล้กับจังหวัดสตูล ใช้เวลาเดินทางไม่นาน

หากใครต้องการข้อมูลเกี่ยวกับเกาะลังกาวี อ่านได้ที่ ..... ลังกาวี ......

บรรยากาศโดยทั่วไปของลังกาวี หากไม่ใช่ทะเลและแหล่งท่องเที่ยวแล้ว ดูเหมือนจะต้องมนต์จริง ๆ อธิบายไม่ถูกคะ 

*************************************

เราเริ่มต้นออกเดินทางจากสตูลไป.ท่าเรือตำมะลัง.อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองระหว่างทางร่มรื่นด้วยสวนยางพารา

 .... ที่ท่าเรือตำมะลังมีบริการที่จอดรถฟรี เลือกที่จอดได้ตามสบาย จากนั้นก็ไปติดต่อซื้อตั๋วโดยสารเรือด่วนปรับอากาศหรือเฟอร์รี่ คนละ 300 บาท เรือมี 3 เที่ยว คือ เวลา 09.30 น. 13.30 น. และ 16.00 น. หรืออาจจะแลกเงินริงกิตมาเลเซียติดตัวไปบ้างก็ได้คะ จากนั้นตรวจหนังสือเดินทางให้เรียบร้อยก่อนไปขึ้นเรือนะคะ....

เราใช้เวลาอยู่กลางทะเลประมาณ 1 ชั่วโมง (เวลาที่ลังกาวีเร็วกว่า 1 ชั่วโมง) ถึงท่าเรือแล้วต้องผ่านการตรวจคนเข้าเมืองก่อนคะ

เริ่มต้นการเดินทางที่เกาะลังกาวี โดยการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ ดร.มหาธีร์ ซึ่งรวบรวมของที่ระลึกจากการไปเยือนประเทศต่าง ๆ มีทั้ง เครื่องแก้ว คริสตัล และรถยนต์

 

เดินทางกันต่อ ..ไปรอคิวขึ้นกระเช้าหรือ cable car ชมเกาะลังกาวีมุมสูงกันก่อนคะ (ค่าใช้จ่ายคนละ 250 บาทโดยประมาณ)  

 

ระหว่างรอคิวไปขึ้นกระเช้า..ก็ลุ้นว่าจะได้ขึ้นหรือเปล่า กลัวจะหยุดให้บริการเพราะฝนตกปรอย ๆ แต่พอได้ขึ้นแล้วสวยงามคุ้มค่ากับการรอคอยคิวคนขึ้นกระเช้าที่นานจนเมื่อย ..

ลงจากกกระเช้าก็ต้องไปที่ สุสานพระนางมัสสุหรี หลังจากได้รับชมวิดีทัศน์ประวัติของพระนาง สรุปได้ประมาณนี้คะ 

     "พระนางมัสสุหรีเป็นหญิงสาวชาวบ้านที่มีความเพียบพร้อมทั้งงานบ้านงานเรือนและความสวยงาม  พระอนุชาของสุลต่านหลงรักและรับเป็นพระชายาองค์รองและมีบุตรเป็นชายชื่อ "วันฮาเกม"  แต่ด้วยพระชายาองค์ใหญ่ซึ่งมีฐานะเป็นปะไหมสุหรีมีบุตรเป็นหญิง ตามกฎของราชสำนัก ฯ พระชายาที่มีบุตรเป็นชายจะได้รับตำแหน่งปะไหมสุหรี  

     หลังจากนั้นเกิดสงคราม ทำให้ พระอนุชาขององค์สุลต่านซึ่งเป็นพระสวามีของพระนางมัสสุหรี ต้องเดินทางออกรบ จึงเป็นโอกาสของผู้ที่ปองร้ายคิดร้าย ต่างหาเรื่องสร้างสถานการณ์ว่า พระนางมัสสุหรีแอบคบชู้ ทำให้องค์สุลต่านตัดสินประหารชีวิตพระนางมัสสุหรี ด้วยกริช โดยที่สวามีของนางไม่อาจกลับมาช่วยเหลือได้ทัน

     ก่อนที่จะสิ้นพระชนม์ พระนางมัสสุหรีได้อธิษฐานว่า "หากนางไม่มีความผิด ขอให้โลหิตที่หลั่งออกมาเป็นสีขาวเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของนาง และขอให้เกาะลังกาวีไร้ความเจริญไป 7 ชั่วคน" แต่เมื่อเพชฌฆาตลงคมกริชประหาร คมกริซนั้นกลับไม่ระคายผิวนางเลย เมื่อเป็นเช่นนี้พระนางมัสสุหรีจึงบอกกับเพชฌฆาตให้กลับไปนำกริชพิเศษของต้นตระกูลจากบ้านของนางมา และเมื่อคมกริชจรดลงไปบนคอของนาง โลหิตสีขาวก็พวยพุ่งขึ้นข้างบนราวกับเป็นร่มโดยไม่ตกลงบนพื้นดินเลย เมื่อศักราช (อิสลาม) 1235 หรือ คริสต์ศักราช 1819 (พ.ศ. 2362) 

      ด้านพี่ชายของพระนางมัสสุหรีเกรงว่าหลานชายวัย 5 เดือน ทายาทคนเดียวของพระนางมัสสุหรีจะมีภัย จึงนำลงเรือล่องมายังเกาะภูเก็ต และเริ่มตั้งรกรากที่นี่ โดยโอรสของพระนางมัสสุหรีนับเป็นทายาทรุ่นที่ 1 "  


        

บ้านจำลองของพระนาง

 

     หมดเวลาเที่ยวแล้วจ้า..ก่อนกลับต้องไปหาซื้อของฝาก ของที่ระลึกกันที่ ตลาดกัวฮ์ ซึ่งเราได้แต่ขนม ชอคโกแลตและช้อนส้อมกลับบ้านมาด้วยคะ 

 

...ขอบคุณที่ติดตามอ่านบันทึก....

บันทึกเมื่อวันที่ 21 กันยายน 2556

หมายเลขบันทึก: 548899เขียนเมื่อ 21 กันยายน 2013 18:21 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 กันยายน 2013 18:53 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (14)

 

ยังไม่เคยไปเที่ยวลังกาวีเลยจ้ะ  ขอบคุณจ้ะ

เคยไปเมื่อสิบกว่าปีมาแล้ว ไม่แน่ใจว่ามีเคเบิลคาร์ชมมุมสูงหรือไม่แต่แน่ใจว่าไม่ได้ขึ้น ไปสุสานพระนางและได้ซื้อปาเต๊ะกลับมาเป็นของฝาก เกาะลังกาวีพ้นคำสาปแล้วยังคะ ชอบที่ค่าเงินริงกิตของมาเลเซียไม่ขึ้นลงเลยจนบัดนี้

อยู่ไกล้แต่ไม่เคย ต่างขากบางแห่ง อยู่ไกลแต่ไปถึง

 

ดูแล้วน่าไปมาก

แต่ยังไม่มีโอกาสไปเลยครับอาจารย์

...สวยงาม...น่าไปเที่ยวนะคะ...

ขอบคุณดอกไม้กำลังใจจากทุกท่านมาก ๆ คะ          

  คุณมะเดื่อ   อาจารย์ขจิต  - - ต้องหาโอกาสมาสัมผัสให้ได้นะคะ ธรรมชาติสมบูรณ์คะ

คุณ GD คะ - - ผ่านไปกี่ปี ค่าเงินริงกิต ก็เปลี่ยนแปลงไม่มาก ไม่รู้ว่ารัฐบาลทำได้อย่างไร

                    ตอนนี้ลังกาวีรอทายาทรุ่นที่ 7 มาแก้คำสาป..ตามข่าว....ทายาท

คุณวอญ่า   ..ไกลคือใกล้..ใกล้คือไกล มั้งคะ ^_^

 ดร.พจนา คะ  

สวยงาม สงบ ธรรมชาติงดงาม ยังนึกอยู่ว่า ถ้าลังกาวีเป็นของประเทศไทยจะยังคงธรรมชาติได้แบบนั้นอีกหรือไม่  >_^

เคยไปที่กัวลาลัมเปอร์ค่ะ (ไปร่วมเสนองานวิจัยและรับฟังการเสนองานวิจัย 6 วัน เที่ยว 1 วัน) ที่ลังกาวีได้แต่ดูจากรายการ TV และอาศัยอ่านจากที่กัลยาณมิตรเล่าให้ฟัง แบบนี้แหละค่ะ ขอบคุณนะคะ

ขอบคุณคะ คุณไอดิน-กลินไม้

อยากให้หาโอกาสมาเที่ยวนะคะ เงียบ สงบ ^_^

เอามาฝากค่ะ อิอิ อย่าสนใจคนนอนเลย 555

 

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท