คารวะ“ครู”


อาชีพครูต้องไปโรงเรียนตลอด จวบจนอายุ ๖๐ ปีหรือกว่าจะถึงวันเกษียณ

กันยายนเดือนสุดท้ายของปีงบประมาณ เป็นเดือนที่ครูบางคนต้องเลิกลาจากงานสอนเด็ก ๆ ที่ทำต่อเนื่องมาตลอดชีวิตราชการ อารมณ์ความรู้สึกคงจะหวิว ๆ บ้าง ด้วยความผูกพัน ซึ่งพอกพูนขึ้นตามกาลเวลา

บางคนว่าอาชีพครูต้องไปโรงเรียนตลอด จวบจนอายุ ๖๐ ปีหรือกว่าจะถึงวันเกษียณ เมื่อครั้งเป็นเด็กทุกคนต้องไปโรงเรียนอยู่แล้ว แต่คนเป็นครูแม้จะเรียนจบก็ยังต้องไปโรงเรียน ฉะนั้นกับโรงเรียนหมายถึงที่ทำงานที่ตนคลุกคลี ครูทุกคนคงหวั่นไหวบ้าง บางคนอาจถึงกับใจคอไม่ดี โดยเฉพาะใกล้ถึงวันต้องยุติบทบาทหน้าที่ ผมนึกถึงภาพถ่ายของตัวเองที่น่าจะบอกความรู้สึกดังกล่าว

ภาพแรกเป็นภาพหน้าโรงเรียนยามโพล้เพล้ ดวงอาทิตย์กำลังจะลาลับเหนือศาลาที่พักอยู่ไกล ๆ ซึ่งโรงเรียนสร้างไว้ต้อนรับแขกผู้มาเยือนหรือเป็นที่ให้นักเรียนนั่งพักรอผู้ปกครอง รวมถึงรอรถโดยสารก่อนจะกลับบ้านหลังโรงเรียนเลิก

ความมืดคลี่ขยายเข้าปกคลุม ภาพอาคาร ทางเข้า สนาม เริ่มลางเลือน นึกแล้วเป็นดั่งโรงละคอนหรือเวทีแสดงอะไรสักอย่าง หลังการแสดงเลิก ม่านถูกรูดออกมาปิดเรื่องราวและสิ่งต่าง ๆ ทั้งหมด คนดูพากันทะยอยเดินออก เหตุการณ์ซึ่งผ่านสายตาเมื่อครู่ ไม่ว่าจะทุกข์ สุข เฮฮาหรือเศร้าโศกเสียใจ กำลังจะเลือนลับ เพื่อไปสู่เหตุการณ์ใหม่ ความซาบซึ้ง ความประทับใจ อาจทำให้อาลัยอาวรณ์ โดยเฉพาะกับนักแสดงบนเวที

อีกภาพเป็นภาพกล้วยไม้เกาะประดู่กิ่งอ่อนขนาดใหญ่อยู่ข้างถนน อาจเป็นแค่กล้วยไม้ริมทาง แต่ด้วยความที่อยู่ในโรงเรียน กล้วยไม้นี้จึงถูกฟูมฟัก ทะนุถนอม จากบุคลากรและครูเป็นอย่างดี ผมเองคิดเปรียบเทียบกับเด็ก ๆ หรือลูกศิษย์ ซึ่งส่วนใหญ่ขาดความพร้อมในเรื่องต่าง ๆ

ผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนผม ส่วนมากเป็นเกษตรกรหรือแรงงาน ครูที่นี่หรืออาจจะเป็นโรงเรียนอื่น ๆ ที่มีสภาพคล้ายกันนี้ ต้องทำงานหนักกว่า ผมเชื่ออย่างนั้น เพราะต้นทุนของนักเรียน โดยเฉพาะความพร้อมในการเรียนรู้มักมีต้นทุนที่ต่ำ อันเนื่องมาจากความขาดแคลนไปแทบทุกเรื่องของครอบครัวเขา

ม.ล.ปิ่น มาลากุล นักการศึกษาผู้ยิ่งยง เปรียบเปรยไว้ การศึกษาเสมือนกล้วยไม้ กว่าจะออกดอกสวยงามต้องใช้เวลา ครูต้องไม่ย่อท้อ ต้องอดทนและพยายาม จะให้รวดเร็วดังใจคงไม่ได้ กล้วยไม้จึงใช้เป็นสัญลักษณ์ของคนเป็นครูด้วย

สำหรับกล้วยไม้นี้ แม้จะเจริญงอกงามอยู่ข้างถนน แต่ด้วยวิริยะอุตสาหะของครู ซึ่งคอยประคบประหงม สุดท้ายก็ผลิดอกเปล่งประกายความงดงามออกมาจนได้ วันนี้กล้วยไม้ช่อนี้เริ่มโรยรา หลังตรากตรำงานหนักมาอย่างยาวนาน

หากมีโอกาสผมจึงอยากคารวะครู ผู้กำลังจะเกษียณอายุราชการ ด้วยภาพถ่ายทั้งสองภาพนี้ครับ

หมายเลขบันทึก: 548267เขียนเมื่อ 14 กันยายน 2013 15:00 น. ()แก้ไขเมื่อ 8 กันยายน 2022 21:27 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (10)

สวัสดีค่ะ

ชื่นชมนะคะทั้งภาพและข้อเขียนสื่อได้ตรงใจครูที่เกษียณมากค่ะโดยเฉพาะรูปอาคารเรียนยามโพล้เพล้

ครูที่จะเกษียณปีนี้สุดเศร้าและใจหายจริงๆค่ะ

 

เรียนท่านอาจารย์ ธนิตย์  สุดขอบฟ้าอาทิตย์จะลาลับ เหมือนเป็นบอกกับบางคนว่าถึงเวลา วางมือลาลับกับอาชีพ

  • เห็นหน้า "คุณครูธนิตย์" เลยแวะเข้ามาเยี่ยม หลังจากไม่ได้พบหน้ากันนานมากแล้ว นะคะ
  • บันทึกของคุณครูยังมีเนื้อหาและภาษากินใจไม่เปลี่ยนแปลง และภาพถ่ายฝีมือของคุณครูก็สวยงามน่าประทับใจเช่นเคย
  • "ไอดิน-กลิ่นไม้" เกษียณฯ มากำลังจะครบปี การเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยมากว่า ๓๕ ปีการศึกษาทำให้รู้สึกเพียงพอแล้ว เลยไม่ทำงานต่อเหมือนอาจารย์ส่วนใหญ่ แต่ออกไปทำสวนอยู่ในชนบทตามที่ใจต้องการ และตอบแทนประเทศชาติด้วยการจัดการศึกษาตามอัธยาศัยด้วยการเขียนบันทึกใน GotoKnow และไปจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะการฟัง-พูดภาษาอังกฤษให้กับเด็กที่ต้นทุนต่ำอย่างที่อาจารย์ว่า แจ้งโรงเรียนว่าจะจัดให้เด็ก ป.๔-๖ แต่โรงเรียนให้เด็ก ป.๑-๓ เข้าร่วมด้วย เลยจัดกิจกรรมลำบากหน่อยค่ะ (เพิ่งจัดได้ ๒ ครั้ง FLSEC เป็นอักษรย่อของคำว่า Flipped Listening-Speaking English Classroom นะคะ เน้นให้ผู้เรียนเรียนรู้จากการปฏิบัติกิจกรรมทั้งเป็นรายบุคคล เป็นคู่ และเป็นกลุ่มตามสโลแกน "English is Fun" ค่ะ)

โอโหพี่ครูหายไปนาน มาแล้วคมเหมือนเดิม  พี่ครูสบายดีนะครับ

  • ปีนี้ที่บ้านกร่างวิทยาคม มีพี่ 2 ท่าน จะเกษียณอายุราชการครับอาจารย์ 
  • ขอบคุณอ.Preedaครับ
  • ชอบมองและถ่ายภาพพระอาทิตย์ตก อาจเพราะวัยเราครับ ฮาๆๆ
  • ขอบคุณท่านวอญ่าครับ
  • ดีจังเลยครับ เคยคุยกับพี่ๆที่จะเกษียณ แล้วพี่จะไปทำอะไรต่อหลังจากนี้ FLSEC เป็นแนวทางและตัวอย่างที่เยี่ยมยอดเลยครับ
  • ขอบคุณท่านอาจารย์ไอดิน-กลิ่นไม้มากครับ
  • สบายดีครับ..อาจารย์ก็คงเช่นกันนะครับ
  • เพราะนึกไม่ค่อยออกว่าจะเขียนเล่าอะไรครับ ฮาๆๆ
  • ขอบคุณอ.ขจิตมากครับ

ยินดีที่ได้อ่านบันทึกของอ.อีกครั้ง พี่คิดถึงอาจารย์มากนะคะ

ไม่กล้าต่อว่าที่หายไป  เพราะพี่ก็ลุ่มๆ ดอนๆ ไปๆ มาๆ 

เดือนแห่งงานเกษียณพี่เองคิดๆ ก็เสียดาย  คนดี มีคุณค่าหลายๆ ท่านต้องไปอยู่บ้าน ทั้งที่ทำประโยชน์ให้แผ่นดินได้อีกเยอะ

เห็นข่าวว่า กพ.จะขอขยายอายุราชการเป็น ๖๕ ปี ก็เป็นแค่ข่าว

พี่คิดว่าเราสามารถทำงานรับใช้ชาติได้ถึง ๖๕ ปีสบายๆ นะคะ

  • เหตุผลตัวเอง 1.ไม่รู้จะเล่าอะไรดี เริ่มนึกไม่ค่อยออก(ฮา) 2.พยายามลดการใช้อินเทอร์เน็ตด้วยครับ ระยะหลังรู้สึกว่าตัวเองใช้เวลาเหล่านี้มากเกินไปแล้วหรือเปล่า(ฮา)
  • ถ้าอายุราชการจะเพิ่มขึ้น เปลี่ยนเป็น 65 ปี ตัวเองคงอยู่ไม่ถึงแน่ครับพี่ งานที่โรงเรียนในปัจจุบัน มีอีกเรื่องเดียวที่ยังมีความสุขมากๆ การที่ได้พูดคุย หยอกล้อ เล่น กับเด็กๆครับ
  • ขอบคุณพี่Nuiมากๆครับ ระลึกถึงพี่เสมอเช่นกันครับ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท