25 วิธีประหยัดน้ำมันรถยนต์


1. ตรวจสอบปริมาณลมหรือความตึงของยางล้อรถอย่างสม่ำเสมอ เพราะยางที่อ่อนเกินไปนั้นจะเพิ่มแรงเสียดทานระหว่างล้อกับถนนให้มากขึ้น ทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันเพิ่มขึ้น

2. สับเปลี่ยนยางหน้าและหลังตามกำหนด เพราะอัตราการสึกหรอล้อหน้าและล้อหลังไม่เท่ากัน การสลับยางหรือพลิกหน้ายางช่วยให้ยางสึกหรอเท่ากันและประหยัดน้ำมันด้วย

3. ดับเครื่องยนต์ทุกครั้งเมื่อต้องจอดรถนานๆ การติดเครื่องยนต์รอบเดินเบาทิ้งไว้ 10 นาที จะเสียน้ำมันประมาณ 200 ซีซี

4. ไม่ออกรถกระชากหรือขับรถด้วยความเร่งมากๆ การออกรถกระชาก 10 ครั้ง สูญเสียน้ำมันไปเปล่าๆ ถึง 100 ซีซี น้ำมันจำนวนนี้รถสามารถวิ่งได้ไกล 700 เมตร

5. ไม่ต้องเร่งเครื่องยนต์ตอนเกียร์ว่างอย่างที่เราเรียกกันติดปากว่าเบิ้ลเครื่องยนต์ การกระทำดังกล่าวแสดงถึงการขาดความมั่นใจในการขับรถ กลัวเครื่องยนต์ดับขณะออกตัว การเร่ง 10 ครั้ง สูญเสียน้ำมันถึง 50 ซีซี ปริมาณน้ำมันขนาดนี้รถวิ่งไปได้ตั้ง 350 เมตร

6. หมั่นสังเกตุความผิดปกติของเครื่องยนต์ และควรตรวจเช็คเครื่องยนต์สม่ำเสมอ เช่น ทำความสะอาดระบบไฟจุดระเบิด เปลี่ยนหัวคอนเดนเซอร์ ตั้งไฟแก่-อ่อนให้พอดี จะช่วยประหยัดน้ำมันได้ถึง 10% เปลี่ยนออกซิเจนเซนเซอร์ตามระยะหนึ่งแสนหรือหนึ่งแสนสองหมื่นกิโลเมตรแล้วแต่รุ่นรถ

7. ไม่ต้องอุ่นเครื่อง ขับช้าๆ ประมาณ 1-2 กิโลเมตรเครื่องยนต์จะอุ่นเอง ไม่ต้องเปลืองน้ำมันไปกับการอุ่นเครื่อง

8. ไม่ควรบรรทุกน้ำหนักเกินพิกัด เพราะเครื่องยนต์จะทำงานตามน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น หากบรรทุกหนักมาก จะทำให้เปลืองน้ำมันและสึกหรอสูง

9. ถ้าเป็นไปได้ให้ใช้รถร่วมกัน หรือคาร์พูล (Car pool) ไปไหนมาไหน ที่หมายเดียวกัน ทางผ่านหรือใกล้เคียงกัน ควรใช้รถคันเดียวกัน

10. เดินทางเท่าที่จำเป็นจริงๆ เพื่อประหยัดน้ำมัน บางครั้งเรื่องบางเรื่องอาจจะติดต่อกันทางโทรศัพท์ก็ได้ ประหยัดน้ำมันประหยัดเวลา

11. ไปซื้อของหรือไปธุระใกล้บ้านหรือใกล้ๆ ที่ทำงาน อาจจะเดินหรือใช้จักรยานบ้าง ไม่จำเป็นต้องใช้รถยนต์ทุกครั้ง เป็นการออกกำลังกายและประหยัดน้ำมันด้วย

12. ก่อนไปพบใคร ควรโทรศัพท์ไปถามก่อนว่าเขาอยู่หรือไม่ จะได้ไม่เสียเที่ยว ไม่เสียเวลา ไม่เสียน้ำมันไปโดยเปล่าประโยชน์

13. สอบถามเส้นทางที่จะไปให้แน่ชัด หรือศึกษาแผนที่ให้ดีจะได้ไม่หลง ไม่เสียเวลา ไม่เปลืองน้ำมันในการวนหา

14. ควรใช้โทรศัพท์ โทรสาร ไปรษณีย์ อินเตอร์เน็ท หรือใช้บริการส่งเอกสาร แทนการเดินทางด้วยตัวเอง เพื่อประหยัดน้ำมัน

15. ไม่ควรเดินทางโดยไม่ได้วางแผนการเดินทาง ควรกำหนดเส้นทาง และช่วงเวลาการเดินทางที่เหมาะสมเพื่อประหยัดน้ำมัน

16. หมั่นศึกษาเส้นทางลัดเข้าไว้ ช่วยให้ไม่ต้องเดินทางยาวนานไม่ต้องเผชิญปัญหาจราจร ช่วยประหยัดทั้งเวลาและประหยัดน้ำมัน

17. ควรขับรถด้วยความเร็วคงที่ เลือกขับที่ความเร็ว 80-90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หรือสังเกตที่ความเร็วแรกของเกียร์สุดท้ายสำหรับรถเกียร์อัตโนมัติ เช่น ถนนเรียบๆ รถบางรุ่นเกียร์เปลี่ยนเป็นเกียร์ 5 ที่ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงก็ขับประคองความเร็วที่ 80-90 ความเร็วระดับนี้ ประหยัดน้ำมันได้ดีที่สุด

18. สำหรับรถที่ไม่ใช่เกียร์อัตโนมัติไม่ควรขับรถลากเกียร์ เพราะการลากเกียร์ต่ำนานๆ จะทำให้เครื่องยนต์หมุนรอบสูงกินน้ำมันมาก และเครื่องยนต์ร้อนจัดสึกหรอง่าย

19. ไม่ติดตั้งอุปกรณ์ตกแต่งที่จะทำให้เครื่องยนต์ทำงานหนักขึ้นเช่น การทำให้เกิดการต้านลมขณะวิ่ง หรือทำให้เครื่องยนต์ ไม่สามารถถ่ายเทความร้อนได้ดี

20. ไม่ควรใช้น้ำมันเบนซินที่ออกเทนสูงเกินความจำเป็นของเครื่องยนต์ เพราะเป็นการสิ้นเปลืองพลังงานโดยเปล่าประโยชน์

21. หมั่นเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ไส้กรองน้ำมันเครื่อง ไส้กรองอากาศตามระยะเวลาที่เหมาะสม เพื่อประหยัดน้ำมัน

22. สำหรับเครื่องยนต์แบบเบนซิน ควรเลือกเติมน้ำมันเบนซินให้ถูกชนิด ถูกประเภท โดยเลือกตามค่าออกเทนที่เหมาะสมกับรถแต่ละยี่ห้อ (สังเกตจากฝาปิดถังน้ำมันด้านใน หรือรับคู่มือที่ปั้มน้ำมันใกล้บ้าน

23. ไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องปรับอากาศตลอดเวลาช่วงเช้าๆ เปิดกระจกรับความเย็นจากลมธรรมชาติได้

24. ไม่ควรเร่งเครื่องปรับอากาศในรถอย่างเต็มที่จนเกินความจำเป็นหรือเปิดจนหนาวเกินไป

25. มีสมุดประจำรถสำหรับจดบันทึกระยะทางที่วิ่งได้และการเติมน้ำมันทุกครั้ง เพื่อย้อนคำนวณอัตราการสิ้นเปลืองอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งจะทำให้สามารถสังเกตุความผิดปกติของเครื่องยนต์ได้ดีที่สุด

------------------------

 

ดัดแปลงแก้ไขจาก :

http://www.eppo.go.th/encon/encon-108-T.html

หมายเลขบันทึก: 548220เขียนเมื่อ 14 กันยายน 2013 06:27 น. ()แก้ไขเมื่อ 14 กันยายน 2013 06:27 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

มีประโยชน์มากค่ะ  จะพยายามทำตามนะคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท