หลังจากอำลาเกาะเวนิส พวกเรากลับมาขึ้นฝั่ง เวนิส-เมสเตร้ ซื้อของฝากของขวัญที่หมายตากันไว้ ผมเห็นส่วนใหญ่ซื้อหนังสือภาพถ่ายของเมืองเวนิส ด้วยเหตุผลว่าถ่ายด้วยกล้องตัวเองยังงัยก็สวยสู้เค้าไม่ได้ แต่ผมว่าสู้เราถ่ายกันเองไม่ได้หรอกครับ เพราะเวลาดูรูป พวกเราส่วนใหญ่ชอบมองหารูปตัวเองก่อนแล้วค่อยมองหารูปวิวใช่มั้ยครับ แล้วในหนังสือก็ไม่เห็นมีรูปเราซักหน่อย ดังนั้นถึงจะซื้อหนังสือหอบกันพะรุงพะรัง ผมก็ยังเห็นแอ็คชั่นถ่ายรูปกันอย่างสนุกสนาน กลางแดดจ้าและสายลมเย็น
รับประทานอาหารกลางวันกันเสร็จสรรพเรียบร้อย ได้เวลาเดินทางสู่เมืองฟลอเร้นซ์ ละครับ บ่ายวันนี้ครึ้มฟ้าครึ้มฝน จุดหมายปลายทางคือ จตุรัสไมเคิลแองเจลโล เป็นจุดชมวิวมองเมืองเก่าฟลอเร้นซ์ในมุมสูง มีรูปจำลองของ เดวิด สัญลักษณ์ของคนหนุ่มแข็งแรงผู้รักอิสรภาพ ซึ่งถือเป็นสัญญลักษณ์แห่งความเป็นอิสระของเมืองฟลอเรนซ์ รูปแกะสลักของจริงฝีมือของ ไมเคิล แองเจลโล อยู่ที่ Galleria dell'Accademia, Florence ครับ สังเกตดูว่าเดวิดรักอิสรภาพจริงๆครับแม้แต่เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายก็ไม่ยอมให้มาพันธนาการตัวเองเลย
ผมก็เป็นคนรักอิสรภาพ ถึงยังไม่เท่าเดวิดแต่ก็อยากลองเทียบดูครับ
ภาพเมืองเก่าฟลอเร้นซ์ จากมุมสูงมองเล็งๆไว้ก่อนครับพรุ่งนี้เช้าเราต้องไปเดินเยี่ยมชม
ที่มองเห็นสถาปัตยกรรมเป็นรูปโดมสีแดงนั่นคือ มหาวิหารซานตามาเรีย เดลฟิโอเร หรือ ดูโอโมแห่งฟลอเร้นซ์ครับ สร้างด้วยหินอ่อนสามสีงดงามมากแปลกตา วันนี้ดูไกลๆก่อนครับพรุ่งนี้ไปเดินดูใกล้ๆอีกรอบนึง
เก็บภาพกันจนพอใจก็ได้เวลาอาหารเย็นละครับ ค่ำนี้เป็นอาหารพื้นเมืองอิตาเลียน พร้อมไวน์รสละมุนจากแคว้นทัสคานี ได้ไวน์แดงชั้นดี พวกเราก็เริ่มสนุกสนานเฮฮา คนเราได้หัวเราะบ้างถึงจะชั่วครั้งชั่วคราว ก็ยังดีกว่าทุกข์ระทมตรมไหม้อยู่ตลอดเวลานะครับ ได้เวลาอันควรก็กลับที่พัก พักผ่อนเพื่อเตรียมพลังไว้เดินชมเมืองเก่าฟลอเร้นซ์ในวันพรุ่งนี้เท่าที่ทราบมีอะไรต่ออะไรให้ตื่นตาตื่นใจมากมายเชียวครับ
