พระครูอุดมธรรมานุกิจ
พระ พระครูอุดมธรรมานุกิจ อุตฺตโม บัวทะราช

พุทธศาสนากับการศึกษา


Buddhism and Education

         การศึกษาแนวพุทธ ไม่ใช่การศึกษาตามประเพณี (Traditional  education)แต่ประเพณีบางย่างก็สามารถใช้เ็ป็นข้อมูลได้ เพียงแต่ยังไม่จัดเป็นความรู้ (knowledge)

         การเรียนรู้ยังต้องอาศัยข้อมูล แต่มีข้อมูลมากอาจรู้น้อย หรือไม่รู้อะไรเลย มีแต่ความจำเต็มสมอง สมองรกรุงรังด้วยขยะ คือข้อมูลที่รับไว้ทับถมจนเน่าเหม็น คิดไม่ออก คิดไม่เป็น อย่าว่าแต่จะใช้ความรู้แก้ปัญหาสังคมเลย แม้แต่ปัญหาตนเงก็แก้ไม่ตก ยิ่งปกว่านั้น การเรียน การศึกษายังก่อปัญหาให้กับสังคมและโลก พระพุทธองค์ทรงเรียกการศึกษาดังกล่าวว่า  ปริยัติงูพิษ ปริยัติ(การเรียน) ที่อันตรายตามที่ตรัสไว้ในลคัททูปมสูตร คือ

           ๑.ไม่ใช่ปัญญาพิจารณาความหมายประโยชน์ของสิ่งที่เรียนให้ถ่งแท้

           ๒.ความรู้ที่มีอยู่ไม่จริง ไม่อาจทนต่อการทดสอบหรือพิสูจน์

           ๓.เรียนเพื่อยกตน ข่มท่าน(ผู้อื่น)มีความรู้ไว้อวด

           ๔.มีการยึดติดในสิ่งที่รู้ไม่ใช่ความรู้แก้ปัญหาแต่เป็นความรู้สร้างปัญา ยิ่งรู้ยิ่งโง่ " ยิ่งโตยิ่งเซ่อ"

ผู้จบการศึกษาระดับสูงจากสถาบันการศึกษา ใช้ความรู้เพื่อกดขี่ คดโกง ทุจริต เอาเปรียบผู้อื่น ทำให้คนส่วนมากจนลงแต่ตัวเองร่ำรวยขึ้น ตามอัตราส่วนที่ผู้อื่นจนลง เป็นพวกงูิพิษ สถาบันนั้นทำการผลิตงูพิษออกมา่าผู้ื่อื่น

        ปกติชาวโลก มักมองผลการศึกษาเพียงด้านสร้างสรรค์ เช่นมองว่าการศึกษาช่วยพัฒนาผู้เรียน พัฒนาบ้านเมืงให้ก้าวหน้า พระพุทธศาสนายอมรับความคิดดังกล่าวได้เฉพาะการเรียนการสนที่ถูกวิธีเท่านั้น แต่ในทางตรงข้าม หาการศึกษาไม่ถูกวิธี การศึกษานำปสู่การทำลาย ดังตรัสว่า สิ่งที่เรียนมาไม่ดี ย่อมเป็นปเพื่อความทุกข์ตลอดกาล เหมือนผู้จับงูพิษไม่ถูกวิธีย่อมถูกงูพิษกัดตายหรือปางตาย

           พระพุทธเจ้าตรัสระดับความรู้ไว้ ๓ ขั้น ได้แก่

           ๑.สัจจานุรักขณ์    ขั้นรักษาความจริงตามทฤษฎีที่เล่าเรียนมาปริยัติ  ด้วยการฟัง สุตมยปัญญา

           ๒.สัจจานุโพธิ       ขั้นความรู้จริงโดยการคิด วิเคราะห์ ไตร่ตรอง ฏิบัติตาม ทฤษฎี จินตามยปัญญา

           ๓.สัจจานุปัตติ       ขั้นความสามารถพัฒนา คิดใหม่ทำใหม่ สร้างสิ่งแปลกใหม่ ภาวนามยปัญญา

(จาก บทเขียน ของ สนิท ศรีสำแดง) 

หมายเลขบันทึก: 546568เขียนเมื่อ 25 สิงหาคม 2013 21:36 น. ()แก้ไขเมื่อ 27 สิงหาคม 2013 22:59 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

นมัสการ พระครู และขอบคุณครับ

ระยะนี้ คิดเรื่อง "...มีแต่ความจำเต็มสมอง สมองรกรุงรังด้วยขยะ
คือข้อมูลที่รับไว้ทับถมจนเน่าเหม็น คิดไม่ออก คิดไม่เป็น
อย่าว่าแต่จะใช้ความรู้แก้ปัญหาสังคมเลย แม้แต่ปัญหาตนเองก็แก้ไม่ตก
ยิ่งไปกว่านั้น..." บ่อยครั้ง

และมองหาคำตอบจาก พุทธวัจนะ มากขึ้น

เขียนให้ ความจำเปลี่ยนเป็นความรู้ มากขึ้น

ทดลองทำบ้าง เท่าที่จะพอทำได้

แต่ยังไม่แจ้ง ไม่ชัด ยังมีจุดบอดจุดมัว ทั้งด้านภาษา และด้านแนวติด

(กำลังศึกษา เจตสิก อยู่ครับ)

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท