แม่วัยทองกับลูกวัยรุ่น...จะตีกันตาย


รู้จักอารมณ์ "จึ๊" มั้ยค่ะ มันคืออารมณ์ประมาณว่า พอเราสอนหรือบอกอะไร คุณเธอจะชักสีหน้าง้ำ แล้วปากติดจมูก หน้าผากขมวดคิ้ว แล้วทำเสียงจิ๊ จ๊ะ ทันที ด้วยอารมณ์ที่ว่าจะบ่นอะไรเนี่ย จะบอกทำไม หนูรู้แล้ว ...นี่ล่ะค่ะ ความหมายของ"จึ๊"

ที่นี่ถ้าเจอครั้งที่ 1 แม่ ก็ OK ล่ะ ลูกชั้นกำลังวัยรุ่น เป็นเด็กหญิงที่มั่นใจในตัวเองมาก เพราะชีวิตให้ตัดสินเอง เลือกเอง มีส่วนร่วมในการตัดสินใจเรื่องราวในครอบครัว แล้วก็อยู่กันแบบเพื่อนมากกว่าพ่อแม่...แม่เข้าใจ............

ครั้งที่ 2 มาอีก แม่ก็ชักเริ่มกระตุกนิดๆ ล่ะ เพราะไม่ได้บ่น แต่แค่จะบอกว่า สิ่งที่ทำอยู่นะมันมีวิธีทำที่ง่ายกว่านะ...ก็เห็นนั่ง copy งานจาก power point มาทีละหน้ามาเป็น word เพื่อจะพิมพ์ออกมา ..ก็อย่างเราก็ทำ power point แล้วก็ใช้การสั่งที่รูปแบบการพิมพ์นั่นล่ะคะ เธอก็ไม่เชื่อ คิดว่าที่ตัวเองทำนะถูกต้อง แม่นะไม่รู้เรื่อง...น๊านนนนนนนนน....แม่อย่างเราเริ่มกระตุกอารมณ์แม่ขึ้นมาแทนอารมณ์เพื่อนทันที...เริ่มกลับไปหายใจเข้า หายใจออกลึกๆยาวๆ ใหม่ อืมมมมมม...ปล่อยไป ให้เธอลองถูกลองผิดเอาเองล่ะกัน

แต่บางครั้งระยะเวลาในครั้งที่ 1-2 และ 3 มันติดต่อกันในช่วงเวลาที่หายใจเข้า ออกไม่ทัน แถมด้วยฮอร์โมนพลุ่งพล่านของสาววัยทองอย่างเรา...อือฮือ...อยากจะทุบซักปั๊ก...แต่สุดท้าย..ทฤษฎีก็เข้าแทรกได้

หลังจากพยายามศึกษาวิธีดูแลลูกวัยรุ่นจากหลายแห่ง ก็พยายามดึงวิชาที่ได้จากอาจารย์มาปฏิบัติ..แล้วดูว่าจะสำเร็จสำหรับที่บ้าน

1. เงียบ...เคยอ่านเจอว่า การตี การบ่น การว่า ถือว่าเป็นการเจ๋ากันไปกับพฤติกรรมที่ดื้อๆของลูกค่ะ เค้าถือว่ายอมผิดก็คุ้ม เพราะพ่อแม่ก็ลงโทษเค้าแล้วนี้ แต่ลองใช้การเงียบไม่พูดด้วย เธอก็ปรับปรุงตัวเองดีขึ้น

2. อีกอย่างที่ทำคู่ คือ บอกในพฤติกรรมที่เราไม่ชอบใจตอนที่ ...หายใจเข้าออก เย็นใจแล้ว...อาจารย์บอกว่า การพูดกับวัยรุ่นให้พูดเป็นรูปธรรม เพราะบางครั้งเธอคิดแตกต่างจากเรา

3. คือการอยู่กับปัจจุบัน ไม่ขุดคุ้ยเรื่องราวในอดีตมาว่าซ้ำซากอีก เพราะมันจบไปแล้ว เค้าหยุดไปแล้ว แก้ไขแล้ว สำคัญคือไม่ว่าเค้าให้เสียหน้า แม้กระทั่งกับญาติคนสนิทก็เถอะ..ใช้แอบนินทาบอกพ่อและญาติๆให้อบรมอ้อมๆ กันไป

ก็ลองทำแล้ว..ดีขึ้นในระยะนี้ เพราะตอนนี้เธออยู่ ม.2 ยังมีโลกส่วนที่ฟังพ่อแม่อยู่บ้าง

หมายเลขบันทึก: 546560เขียนเมื่อ 25 สิงหาคม 2013 19:48 น. ()แก้ไขเมื่อ 5 กันยายน 2022 14:02 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)
  • โชคดีที่ผ่านอาการนี้ช่วงวัยรุ่นมาแล้ว และยังไม่มีโอกาสที่จะเจอกับเหตุการณ์นี้ในวันทอง (เพราะยังไม่มีครอบครัว)
  • แม่สอนผมเสมอว่า ถ้าไม่ชอบใจอะไรใคร ให้เก็บอาการไว้ เรียกว่า น้ำขุ่นไว้ในน้ำใสไว้นอก อย่าแสดงอาการ แต่จนแล้วจนรอดถึงปัจจุบัน สี่หน้าและอาการก็แสดงออกมาด้วยความจริงใจทุกที
  • ดีใจที่ได้เรียนรู้วิธีการพูดคุยกับลูกในเชิงปฏิบัติอย่างแท้จริง
  • ขอบคุณครับ

เข้าใจเลยครับ ลูกสาวผมก้ประมาณนี้ล่ะครับ ตอนนี้เข้ามหาวิทยาลัยแล้ว ก็ดีขึ้นครับ

บางสิ่งเขาคิดเอง ก็พัฒนาเอง  

ส่วนบางสิ่งถ้าเขาเชื่อเราตั้งแต่เด็ก และเราชี้ทางให้ ทำให้ เป็นว่าทุกวันนี้เขายังพึ่งเราอยู่อีก

เป็นกำลังใจให้ครับ

สวัสดีครับ

ติดตามงานอยู่ครับ

 

เป็นกำลังใจให้ครับ

กว่าจะพ้นตรงนั้นมาได้แทบแย่เหมือนกัน

ดีว่าได้อาจารย์ช่วย

มีสื่อเรียนรู้ด้วยตัวเองง่ายและฟรีที่

http://www.jitdee.com/base/?name=download&file=project_detail&pcode=9

ขอบคุณมากค่ะได้ประโยชน์มากๆ กับการฉุกคิดของการเป็นแม่

และขอบคุณมากๆ กับ link ดีๆ ของคุณจันทร์ยิ้มค่ะ ได้ใช้ประโยชน์กับการทำงานด้วย เลยขอกด like ไว้ที่ fb ด้วยเลยคะ เพราะกำลังทำโครงการวัยรุ่นร่วมกับอ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชรด้วยค่ะ

กลับบ้านด่วน

ทางบ้านให้อภัยหมดแวีว!!

ขำคุณหมอสมบูรณ์มากเลย..555 สัญญาว่าจะพยายามกลับเข้ามาเขียนบันทึกในโรงเรียนให้ถี่ขึ้นค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท