พิธีกรงานศพ..มืออาชีพ
ผมไปงานศพมานับครั้งไม่ถ้วน ถ้าเป็นงานศพธรรมดา แบบว่าจัดเรียบง่าย แบบบ้านๆ ผมก็มักจะสังเกตการปฏิบัติหน้าที่ของพิธีกร ในช่วงพิธีการหน้าเมรุ ก่อนจะฌาปนกิจศพ ถ้างานไหนเชิญพิธีกรมาจากต่างถิ่นต่างที่ทีมีประสบการณ์ ก็จะดูดี มีลำดับขั้นตอนการพูดโน้มน้าว เชื้อเชิญ ที่ถูกต้องชัดเจน แต่ก็มีหลายงาน พิธีกรเก่งเกิน พูดมากเสียจนคนรำคาญ เยินยอคนโน้น เจรจากับคนนี้ ฝนจะตกฟ้าจะร้อง ก็ไม่อินังขังขอบ จ้อไปเรื่อย บางคนก็เอ่ย คติพจน์ คำคม คำขวัญและร่ายกลอนไม่ยอมพัก แขกเหรื่อที่มางาน เหงื่อตก รอพิธีการว่าเมื่อไหร่จะจบ
ถ้าเป็นวัดชานเมืองโดยทั่วไปจะใช้พิธีกรงานศพ ที่อยู่ประจำวัดนั่นแหละ งานไหนงานนั้น จะเป็นงานทำบุญ งานผ้าป่ากฐิน ก็ใช้คนเดียวกัน เพราะมีความชำนาญ จับไมค์เป็นประจำอยู่แล้ว รู้ขั้นตอนดี โดยเฉพาะในช่วงพิธีสงฆ์ ท่านจะถนัดมาก คราวนี้พอเป็นงานใหญ่อย่างงานพระราชทานเพลิงศพ ทางวัดก็มักจะหาพิธีกรที่มีความรู้มีประสบการณ์แบบ "มืออาชีพ" แต่บางทีก็เป็นหน้าที่ของเจ้าภาพ จะจัดเตรียมไว้พร้อมอยู่แล้ว
เมื่อเดือนที่แล้ว ผมไปงานศพญาติผู้ใหญ่ที่ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี เป็นงานพระราชทานเพลิงศพ ที่ผมประทับใจในพิธีการ ถึงแม้จะนาน แต่คำพูดของพิธีกรและบุคลิกท่าทาง ดูเนียนน่ามอง เหมือนมาจากสำนักพระราชวังจริงๆ มองยังไงก็ไม่เหมือนพิธีกรของวัด คำพูดคำจาสุภาพนุ่มนวลมาก พอดีเป็นงานใหญ่ มี ฯพณฯท่านรัฐมนตรี มาเป็นประธาน มีผู้ติดตามของพรรคการเมืองมากันมากมาย รวมทั้งผู้นำองค์กรท้องถิ่น จากทุกระดับ มาให้เกียรติผู้ตายเป็นครั้งสุดท้าย พิธีกรได้แนะนำบุคคลต่างๆอย่างไม่เยิ่นเย้อ ใช้คำเชื้อเชิญแขก และบุคคลสำคัญ สั้น กระชับ ตรงไปตรงมา และการนิมนต์พระคุณเจ้า ก็มีรายนามชัดเจนและกล่าวสมณศักดิ์ได้ถูกต้อง
พอจุดศพเสร็จแล้ว..ผมเดินไปที่รถ พอดีพิธีกรก็จอดรถ ใกล้ๆกับผมนั่นแหละ ผมรีบไปยกมือไหว้ แล้วแสดงความชื่นชม พร้อมกับถามท่านว่า ท่านทำงานอยู่ที่ไหนครับ คำตอบคือ "..ผมทำงานอยู่กองทัพอากาศ อยู่ฝ่ายอนุศาสนาจารย์.." เท่านั้นแหละ ผมหายงงเลย เป็นพิธีกรสายตรง ที่ปฏิบัติหน้าที่ในงานพระราชพิธีที่สำคัญ งานใหญ่ๆที่เกี่ยวกับสำนักพระราชวัง และงานพิธีของกระทรวงและกรมกองต่างๆ ผ่านการฝึกอบรมและทดสอบภาคปฏิบัติมาอย่างโชกโชน..
ข้อคิดที่ได้ก็คือ ขณะนี้มีแล้วหรือยัง..หน่วยงาน..สถานศึกษา ที่ให้ความรู้และฝึกอบรมการเป็นพิธีกร..ในช่วงพิธีการที่สำคัญ ซึ่งรวมทั้งงานพระราชทานเพลิงศพด้วย..ผมยังคิดอีกว่า น่าจะมีแล้วล่ะ แต่ผมยังไม่ทราบเท่านั้น เพราะเท่าที่เห็นยังมีพิธีกรเก่งๆ น้อยเหลือเกิน
ผมอาจจะอยู่ในอำเภอเล็กๆ จึงยังเห็นไม่กว้างไกล แต่ถึงอย่างไร อำเภอที่ผมอยู่ก็มีบุคคลที่เป็นเลิศ ด้านพิธีกร งานพระราชทานเพลิงศพ ไม่แปลกใจเลย ที่เจ้าภาพได้ขอใช้บริการจากท่าน สองอาทิตย์หรือสองงานติดต่อกันแล้ว ท่านผู้นี้ได้ปฏิบัติหน้าที่ อย่างไม่มีข้อบกพร่องเลย ท่านชื่อ..อาจารย์สุชาติ มะลิวงษ์ ท่านเป็นครูที่เกษียณอายุราชการแล้ว ปัจจุบันอายุ ๗๐ ปี
ท่านนิ่งมาก พูดมีจังหวะจะโคน ไม่นอกเรื่องนอกราว ซักซ้อมกับเจ้าภาพอยู่ตลอด และมีลำดับขั้นตอนที่ถูกต้องชัดเจน สร้างความอุ่นใจให้แก่เจ้าของงานมิใช่น้อย โดยเฉพาะช่วงพิธีการหน้าเมรุ ค่อนข้างละเอียด พิธีกรต้องแม่นและเข้าใจทั้งระบบ หากมีเรื่องราวไม่คาดคิดเกิดขึ้น ต้องแก้ปัญหาได้ทันที ซึ่งอาจารย์สุขาติก็ทำได้ ไม่เสียอาการ งานก็ราบรื่น
อายุอานาม พิธีกรมืออาชีพที่ผมกล่าวถึงนี้ ก็ไม่ใช่น้อยแล้ว เป็นห่วงว่าใครจะสืบทอดความรู้และทักษะที่ดีจากท่าน เป็นเรื่องที่เรียนรู้ได้ก็จริง..แต่ก็ต้องกล้าๆหน่อย ผมคิดอย่างนี้ แล้วท่านล่ะ คิดอย่างไร
ความเห็น (5)
ผมเคยเป็นพิธีกรงานปกติมาหลายงาน
สังเกตการณ์มามาก
พิธีกรที่เคยบวชเรียนในระดับท่านมหามาก่อน
จะทำได้นิ่งและใจเย็น
พิธีกรดีหลายคนอาจจะเคยเป็นเจ้าอาวาสมาก่อน
ผมก็เช่นกัน หุหุ
...มืออาชีพจริงค่ะ ท่าน ผอ.ชยันต์ .... คนมาช่วยงาน ไม่ร้อน - ไม่ตากแดด ... แสดงถึงการดูแลอย่างครอบคลุมเอาใจใส่ทุกๆคนจริง นะคะ
ผมคนหนึ่งที่ได้ศึกษาการทำหน้าที่ของพิธีกร..เพราะผมชอบและต้องการเรียนรู้
ค่ะ อาจารย์ เพราะพิธีกรในงานศพถ้าไม่เข้าใจงานหรือขั้นตอนอาจทำให้งานดูน่ากังวล ดังนั้นการเป็นพิธีกรไม่ใช่ง่าย แต่สามารถที่จะฝึกหรือพัฒนากันได้ จริงแล้วเคยเห็นฝ่ายอนุศาสนาจารย์ของกองทัพบกเหมือนกัน ท่านน่าจะเป็นนายร้อยนะค่ะ ได้เคยฟังแล้วเกิดความประทับใจเช่นกันค่ะ และเคยประสบกับงานศพน้องสาวลูกของน้าเหมือนกัน ที่มีพิธีกรงานศพที่พูดได้กระชับและมีข้อคติเตือนใจที่ไม่เยอะเกินไป ซึ่งตรงนี้ถือว่าเป็นประสบการอย่างหนึ่งที่ดี และประการศำคัญไม่ว่าจะเป็นพิธีกรงานศพ หรืองานไหนควรมีการฝึกอบรมและปฏิบัติด้วย จะเป็นเรื่องดีมากๆ ในส่วนของกรมประชาสัมพันธ์ ก็มีวิทยากรที่ให้คำแนะนำที่ดีมาก คือ อ.สนธยา ศรีเวียงธวัช
เคยเจอหลายท่านที่มีความสามารถค่ะ พิธีกรมืออาชีพ