ความมั่นคงทางด้าอาหาร แบ่งปัน พอเพียงที่สวน ไอดินกลิ่นป่า


ผู้มาเยือนหลับไปอย่างสุขารมย์ ในการมา เยือนค่ายเยาวชน เรียนรู้อยู่อย่างพอเพียง นอนหลับพอเพียง ได้สุขภาพที่พอเพียง เพราะได้ทานอาหารที่มั่นคงต่อสุขภาพ

     

สองข้างทางมาสวนป่า

 

     " สวนป่าโบราณ ชมม่านเมฆหมอก น้ำตกเต็มป่า ภูผาเทียมเมฆ " 

คือคำขวัญ อำเภอย่านตาขาว    

          แดดเช้าในตลาดย่านตาขาว  น่านั่งจิบกาแฟ แต่วันนี้ต้องเร่งรีบ

จึงไม่ได้ชมตลาด ซดกาแฟหมดแก้วก็เรียก มอเตอร์ไซค์รับจ้าง

ถามถึงสวนป่า สอบถามราคา 50 บาทไม่แพง จัดแจงเป้โน๊ตบุ๊ก

ยกกระเป๋า  กระโดดซ้อนท้าย เป้าหมายคือสวนป่า จากถนนลาดยางสู่

ถนนลูกรัง สองข้างทางเป็นสวนยาง ที่ปลูก มันขี้หนูแซมยาง เป็นราย

ได้เสริม รอวันยางได้เปิดกรีดในอีก 7 ปีข้างหน้า คิดอะไรเพลินๆ ก็มา

ถึงป้ายหน้าสวน ไอดินกลิ่นป่า จ่ายค่าโดยสาร ยกมือวันทา ขอบคุณที่

นำพามาถึงเป้าหมายโดยปลอดภัย

 

 

         ณ.สวนป่าแห่งนี้ เป็นที่ปลูกฝังปัญญาแก่เยาวชน และเพาะชำ

กล้าไม้แจกจ่ายให้ชุมชน ชอบและชื่นชม หลังจากได้พบปะกับเยาวชน

ก็นำพาตัวเอง ไปชมสวน  ซึ่งเป็นความมั่นคงทางด้านอาหาร เด็กๆ

เยาวชน เกิดทักษะชีวิต ในกิจกรรมค่าย ตามหาลายแทงที่พี่เลี้ยง ห่อ

เครื่องครัวมี กะปิ หอมกระเทียม เกลือ เอาไปซ่อนให้แต่กลุ่มช่วยกันหา

เพื่อนำมาปรุงอาหารเย็น ด้วยอุปกรณ์ที่กำหนดให้ ภายใต้กติกา รักษา

ของทุกสิ่งเท่าชีวิต ใน เมื่อหาเจอได้อุปกรณ์แล้ว ถึงขั้นตอน เรียนรู้การ

ก่อไฟด้วยฟืน เพื่อหุงข้าวในหม้อสนาม  และปรุงอาหาร ซึ่งต้องเป็นผัก

จากสวนนี้เท่านั้น ขาดเหลือเครื่องปรุง ประเภทน้ำมัน น้ำตาล พี่เลี้ยง

เปิด เซเว่นให้ ภายใต้กติกา มาแสดงความสามารถแลกสินค้า

จนเป็นที่พอใจจากพี่เลี้ยง

 

ส้มเม่าสุกคาต้น ลิ้มรสชาดส้มเม่ากันก่อน

 

 

       เมนูทุกอย่างต้องตั้งชื่อให้โดนใจน่ารับประทาน  ตกกลางคืน ก็นำ

อาหารจากการปรุงของเยาวชนมากินร่วมกัน ทั้งครู พี่เลี้ยง และผู้มา

เยือน ไข่หลงดงผักเหลียง  ไข่เจียวเดียวโดด น้ำพริกยอดเผ็ด แกง

เลียงสามเกลอ และต้มยำมาม่าค่ะ  กินข้าวเสร็จก็มาถอดบทเรียนราย

กลุ่ม ถึงกิจกรรมที่ได้ทำมา ล่วงเลยถึงเที่ยงคืน ก็สวดมนต์ สำหรับ

เยาวชนไทยพุทธ และขอดุอาว์ สำหรับเยาวชนมุสลิมก่อนแยกย้ายกัน

ไปนอน

 

 

หัวกลอย     หากมีเวลาคงได้ทานกลอย 

 

 ทีมพี่เลี้ยงและผู้มาเยือน ก็มานั่ง AAR และวางแผนในกิจกรรมวัน

ต่อไป คุณ ครูเสริม เป็นคนสุดท้ายที่ได้เข้านอน เพราะต้องดูแลความ

เรียบร้อยทุกอย่างในค่าย ผู้มาเยือนหลับไปอย่างสุขารมย์ ในการมา

เยือนค่ายเยาวชน เรียนรู้อยู่อย่างพอเพียง นอนหลับพอเพียง

ได้สุขภาพที่พอเพียง เพราะได้ทานอาหารที่มั่นคงต่อสุขภาพ

 

ดอกไม้งามให้ความชื่นบานตา

มิกกี้เม้า เจ้าก็มาอยู่ในสวนนี้ ...สวยงามยิ่งนัก

 

ธรรมชาติกลับคืนมา เจ้าวางข่ายกับดักเพื่อล่าเหยื่อ

สุกคาต้น ความมั่นคงทางด้านอาหาร

 

บำรุงธาต ช่วยย่อยอาหาร หน่อข่า

 

 

ผักกูดริมคลอง อวบอ้วน ด้วยความงาม 

 

กล้า ผักเหลียง ชำไว้ การการเติบโต ให้ชุมชนนำไปปลูก  

 

 

คำว่า ย่านตาขาว มีที่มาว่า

 

"น่าจะมาจากคําว่า"ย่าน"กับ"ตาขาว" มาผสมคําเรียกเป็น"ย่านตาขาว" เพราะมีประวัติกล่าวกันว่าตลาดย่านตาขาวมีภัยธรรมชาติจากน้ำท่วม ปีละ 2-3 ครั้ง แต่ละครั้งน้ำจะท่วมอย่างรวดเร็วประชาชนที่อาศัยอยู่ละแวกนี้ต่างได้รับความเดือดร้อนจากภัยน้ำท่วมเป็นอย่างมาก ต้องเหน็ดเหนื่อยวุ่นวายกับการขนย้ายทรัพย์สิน สัตว์พาหนะและสัตว์เลี้ยง ไปไว้ที่ปลอดภัย สาเหตุที่น้ำท่วมแทบทุกปี เพราะตลาดย่านตาขาวมีคลองใหญ่ซึ่งมีแคว 3 แคว ใกล้ๆตลาดย่านตาขาว เมื่อถึงฤดูฝนจึงทําให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันทําให้ผู้อยู่อาศัยบริเวณนี้ตื่นตัวระมัดระวังภัยอยู่เสมอ ซึ่งเป็นคําสันนิษฐานเท่านั้น

อีกข้อสันนิษฐานหนึ่ง ชื่อบ้านย่านตาขาวนี้ มิได้หมายความว่า คนตาขาว อยู่ในย่านนี้ แต่มีที่มาของชื่อ คือ เดิมที่พื้นที่ของอําเภอย่านตาขาวมีเขตแดนติดต่อกับอําเภอปะเหลียน มีคลองไหลผ่านย่านตาขาวหลายสาย เช่น คลองปะเหลียน คลองโพรงจระเข้ คลองลําพิกุล ไหลผ่านตําบลต่างๆในอําเภอย่านตาขาว ประชาชนปลูกบ้านเรือน ทํามาหากิน แถบริมลําคลอง ซึ่งรกไปด้วยต้นไม้ และเถาวัลย์ ที่ขึ้นตามริมลําคลองชนิดหนึ่ง เรียกว่า "เถาว์ตาขาว" เมื่อราษฎรเข้าไปตัด ถาก ถาง ต้นไม้ริมคลอง เพื่อเพาะปลูกและเพื่อปลูกที่อยู่อาศัย ก็ตัดเถาวัลย์นี้ด้วย เมื่อตัดเถาวัลย์นี้ก็จะมีน้ำสีขาวไหลออกมาจากตาของเถาวัลย์ เหมือนร้องไห้ คนปักต์ใต้ เรียกเถาวัลย์ว่า "ย่าน" และเรียกชื่อพันธ์นี้ว่า "ตาขาว" จึงรวมเรียกว่า "ย่านตาขาว" แล้วก็นํามาเรียกเป็นชื่อบ้านนี้ว่า "บ้านย่านตาขาว"
อีกลักษณะหนึ่ง การปลูกบ้านริมคลองมีจํานวนมากขึ้นเป็นชุมชน ผู้คนเรียกชุมชนนั้นว่า"ย่าน"และนําชื่อเถาวัลย์ที่มีมากในแถบนั้น คือ เถาว์ตาขาวมาเรียกเป็นชื่อหมู่บ้านนี้ว่า "บ้านย่านตาขาว" จนถึงทุกวันนี้ เรื่องนี้เป็นบอกเล่าต่อกันมา ข้อมูลนี้จึงเป็นเพียงข้อสันนิษฐานเท่านั้น)

 

ขอบคุณ ข้อมูลจากศูนย์ข้อมูล อำเภอย่านตาขาว

หมายเลขบันทึก: 546191เขียนเมื่อ 21 สิงหาคม 2013 22:37 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 สิงหาคม 2013 06:02 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (14)

คุณมะเดื่อได้โทร.คุยกับครูหยินแล้วว่า " ต้นเดือนเมษา 57 ครูหยินจะเดินทางไปบ้าน

คุณมะเดื่อ จะเชิญลุงวอไปด้วย เพื่อขอเป็นเจ้าภาพเลี้่ยงให้กับลุงวอเนื่องในวาระที่จะ

เกษียณอายุราชการ ในปี 57 นี้ " แต่คุณมะเดื่อยังไม่ได้คุยกับลุงวอเรื่องนี้เลยจ้ะ อิ อิ

เอาเป็นว่า...คร่าว ๆ ผ่านบันทึกของลุงวอบันทึกนี้ไว้ก่อนละกันนะจ๊ะ  ก็คงเป็นสัปดาห์แรก

ของเดือนเมษา 57 จ้ะ และวันนี้ได้คุยกับท่าน ผอ.ชยันต์อีกท่านหนึ่ง ท่านผอ.ชยันต์ก็ตอบ

ตกลงที่จะมาร่วมงานด้วยจ้ะ  ส่วนคนอื่น ๆ ยังไม่ทราบว่าจะมีใครที่จะไปอีกหรือไม่หากมิตร

รักแฟนเพลงท่านใดประสงค์ที่จะไปร่วมงานนี้ ก็ติดต่อผ่านคุณมะเดื่อได้

ล่วงหน้านะจ๊ะ มีทริปนำเที่ยวเมืองสับปะรดหวาน โดยไกด์เถื่อนมะเดื่อด้วยจ้่าาาา

แวะมาชื่นชมความมั่นคงทางด้านอาหาร แบ่งปัน พอเพียงที่สวน ไอดินกลิ่นป่าค่ะ...

เสียดายเรื่องดีๆอย่างนี้บุคลภายนอกที่ไม่ใช่สมาชิกไม่มีโอกาสได้อ่าน เดี๋ยวนักเลงอาจจะว่าได้ว่าเขตงานเท่ารางหมู

ครูหยินขอบคุณลุงวอท่ีมอบความรู้สึกดี ๆ

และอยากเขียนเก่ง ๆเหมือนลุงวอบ้างค่ะ

และคำถามครูหยิน...ถามว่า

ลุงวอจะปล่อยให้ครูหยินอยู่อย่างโดเดี่ยวใน

วันที่ 30 ส.ค. -1 ก.ย.นี้ หรือค่ะ

ครูหยินรับผิดชอบ ค่าเดินทาง ค่าที่พัก

ค่าอาหารพร้อมค่ะ (ถ้าว่าง)

ขอบคุณลุงวอที่นำเรื่องดีๆมาให้อ่าน อ่านไปหัวเราะไปค่ะ

 

                                           

 

เรียนน้องมะเดื่อ ด้วยความขอบคุณ และยินดียิ่งนัก ในการรวมพลเพื่อลุง วอ

-สวัีสดีครับ

-ตามมาชมความมั่นคงทางอาหารครับ

-ชอบ ๆ บรรยากาศแบบนี้มาก  ๆครับ

-ได้ทั้งความรู้และทักษะชีวิต..

-ขอบคุณครับ

เรียนท่าน ดร.พจนา... ทุกวันนี้เราบริโภคเกินความจำเป็น  เดือดร้อนกระทรวงสาธารณสุข ต้องจัดโครงการ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบริโภค หลายสิบล้านบาท

เรียนอาจารย์ จำรัส  คำนี้อธิบายความหมายของการขยายงานได้สุดยอด(ได้เขตงานเท่ารางหมู) นานแล้วไม่ได้ฟังคำแบบนี้

เรียนคุณครูหยิน ....

กำลังเคลียร์งานครับ 30 นี้มีเรื่องความมั่นคงทางด้านอาหารที่ ม.เกษตร กำแพงแสน 

คุยอยู่ว่า ทางทีมงานจะให้ทางทีม "วิชาลัย รวงข้าว"เดินทางไปแทน

เรียนครู มุก  กิน อยู่ รู้คิด เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เกื้อกูลกัน

สอนแนะให้เยาวชนมีความรู้คิดถึงทรัพยากร

เรียนคุณ เพชร ให้ความรู้เรื่อง การมีทักษะชีวิต

วิถีพอเพียง

ความมั่นคงทางด้านอาหาร

และการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ

ท่านวอ...ขอบคุณที่ทำให้ผู้เฒ่าสวนไผ่ เห็นภาพอีกมุมหนึ่งของความงดงาม ชื่นชมมากครับ

เรียน ท่าน เฒ่าสวนไผ่ ดีใจเป็นหนักหนา

ที่ได้แวะมาชื่นชมเฒ่าวอญ่า

กินอยู่รู้คิดทรัพยากร ที่ผ่านมา

ช่วยรักษา ฟื้นฟู อย่างรู้คิด

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท