.. กาลเวลากับกิเลส ...
.กาลเวลาพาให้วัยคนเปลี่ยน
สังขารหมุนเวียนเปลี่ยนตามกฎเริ่มอดีตปัจจุบันอนาคต
ตามกำหนดตามกรรมธรรมดา
วัฏฏะจักรแก่เจ็บตายในมนุษย์
ไม่สิ้นสุดเวียนว่ายในสังขาร์
ดับแล้วเกิดเกิดแล้วดับลับโลกา
ตามวาจาพุทธองค์คงข้อมูล
เมื่อตายแล้วถูกเผาเป็นเถ้าถ่าน
มวลสังขารสิ้นลับเมื่อดับสูญ
เหลือเพียงชื่อทิ้งไว้ให้อาดูร
ร่างคลุกเคล้าปฏิกูลบนมูลดิน
แต่กิเลสภายในใจมนุษย์
์ใครจะหยุดยั้งได้ใคร่ถวิล
กาลเวลาจะหมุนเวียนเปลี่ยนอาจิน
แต่กิเลสไม่สิ้นเกาะกินใจ
กาลเวลาพาให้วัยเปลี่ยนผันก่อนดับขันธ์ดับกิเลสต้นเหตุใหญ่
จงบรรเทากิเลสชั่วตัวต้นภัย
อย่าปล่อยวัยสายเกินกว่าจะแก้ทันโดย รัตนทิพย์ ณัฏฐีขันติกุล
นี่ก็เป้นอีกหนึ่งสุภาษิตหนึ่งที่หยิบยกกันมาให้อ่านที่รุ้สึกว่าจะสะท้อนชีวิตของมนุษย์ได้เป็นอย่างดี เพราะว่ายิ่งมีความเจริญทางวัตถุมากขึ้นเพียงใดคนเราก็ยิ่งมีกิเลสกันมากขึ้นเท่านั้น ทรัพย์สมบัติที่ทำไว้ตอนยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งได้มาทั้งสุจริตหรือทุจริตเมื่อตายไปไม่เห็นมีใครเอาไปได้เลยสักคนเดียว เหลือไว้เพียงชื่อเท่านั้น ถ้าทำดีก็มีคนสรรเสริญ ถ้าทำไม่ดีเมื่อตายไปก็จะมีแต่คนสาปแช่ง ก็อยากให้ทุกคนสนเรื่องแบบนี้ไว้บ้างมันไม่ใช่เรื่องที่น่าเบื่อจนเกินไปเพราะอย่างไรธรรมะก็ยังพึ่งพาได้เสมอ ดิฉันเป็นคนที่เล่าเรื่องไม่ค่อยเก่งแต่จะพยายามหาเรื่องแบบนี้มาให้อ่านกันบ่อยๆนะคะ ถ้าอ่านเจอเรื่องอะไรแล้วเห็นว่าน่าสนใจจะเอามาให้อ่านกันอีก
ลึกซึ้งมั่กมาก...ครับ
แต่จะมีกี่คนบนโลกนี้ที่เข้าใจ
ว่าการเกิดคือทุกข์และหาทางดับทุข์....
แวะมา'เม้นให้กำลังใจครับ
ชอบแนวนี้จังดูจะปล่อยวางได้ดี
ผมเองก็จบจาก ม.น.ครับ ตอนนี้กำลังอ่านหนังไปเรียนต่อที่ ม.น.อีกครั้งครับ
ขอบคุณข้อคิดเตือนสติ ดีมากครับ